WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, October 1, 2010

ปิดฉาก “บัตรทอง”เพียงนโยบาย“ตีกิน”ประชาธิปัตย์?

ที่มา thaifreenews

โดย Porsche

“บัตรทอง” ซุกปัญหาไว้ใต้พรมเป็นจำนวนมาก
กระทั่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้โรงพยาบาล
ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขต้องขาดทุน.....


โดย....ธนวัฒน์ เพ็ชรล่อเหลียน

สภาพความแออัดของผู้ป่วยที่ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง)
ตามสถานพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ยังคงมีให้เห็นอย่างชินตา
ซึ่งสามารถสะท้อนปัญหาจำนวนผู้ป่วยล้นในโรงพยาบาลได้เป็นอย่างดี

แน่นอนว่าจากสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นนี้
ย่อมจะกระทบต่อคุณภาพของการให้บริการ
โดยเฉพาะจำนวนบุคคลากรทางการแพทย์ที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ
กลายมาเป็นประเด็นหลักต่อมาตรฐานการรักษาที่ตกต่ำลง

แม้ว่า “บัตรทอง” จะซุกปัญหาไว้ใต้พรมเป็นจำนวนมาก
กระทั่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขต้องขาดทุน
แต่ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นคือ
นโยบายดังกล่าวนี้ได้รับการยอมรับและถูกสานต่อ

ทันทีที่กระทรวงสาธารณสุข ภายใต้เงาของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์
ประกาศเปิดโครงการ
รักษาฟรี 48 ล้านคน แค่ใช้บัตรประชาชนใบเดียว
ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. มีคำถามถึงวัตถุประสงค์และวิธีการ
ให้บริการขึ้นอย่างมากมาย



ประการหนึ่งคือ ความเคลือบแคลงต่อวัตถุประสงค์
เพราะหากนโยบายนี้ไม่ได้ดีกว่าบัตรทอง

ก็อาจถูกมองได้ว่าเป็นนโยบายประชานิยมของพรรคประชาธิปัตย์
ที่หวังเพียงเพื่อกลบภาพ“30 บาท รักษาทุกโรค”
ของรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้นแบบประชานิยมเท่านั้น


อีกประการหนึ่งคือ ความสับสนในการขอรับบริการ
โดยเฉพาะข้อสงสัยจากผู้ที่ไม่มีบัตรประชาชน ผู้ที่ถือบัตรทองใบเก่า
และระบบสมาทการ์ดที่ยังคงปัญหาคาราคาซัง

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข ในฐานะ
ผู้กำกับนโยบายโดยตรง อธิบายว่า ประชาชนทั่วไปสามารถใช้บัตรประจำตัวประชาชน
หรือบัตรที่ทางราชการออกให้
ซึ่งมีรูปถ่ายและตัวเลข 13 หลักกำกับอยู่แทนบัตรทองได้
ส่วนเด็กเล็กที่ยังไม่มีบัตรประชาชน ให้ใช้สำเนาทะเบียนบ้าน
หรือสูติบัตรแทนได้เช่นกัน

รมว.สาธารณสุข อธิบายต่อว่า ประชาชนจะได้รับการรักษาฟรี
โดยต้องเข้ารับการรักษายังสถานพยาบาลที่เคยขึ้นทะเบียนไว้
เว้นแต่กรณีเกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน
จะสามารถเข้ารับการรักษายังจังหวัดที่เกิดเหตุได้ทันที
ซึ่งนโยบายนี้เป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน
และมั่นใจว่ามีความพร้อม 100 % ในการให้บริการ


“เราได้ประสานกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
เพื่อเชื่อมต่อฐานข้อมูลให้แก่ทุกโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการ
ส่วนสถานพยาบาลที่ยังไม่มีระบบอินเทอร์เน็ต
ก็จะมีการส่งข้อมูลให้อัพเดททุกๆ 7 วัน
มั่นใจว่าหลังจากเปิดโครงการในวันที่ 1 ต.ค.
จะไม่มีปัญหาใดๆ”เจ้ากระทรวงให้ความเชื่อมั่น

ถ้อยแถลงโดยรวมของ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” น่าชื่นชม
ในมุมของความพยายามในการสร้างนวัตกรรมใหม่
แต่เหนือสิ่งอื่นใดที่ประชาชนอยากรู้มากกว่าคือ ...
จะได้อะไรจากนโยบายนี้มากไปกว่าการประหยัดเงิน 30 บาท



********************************

"บัตรทอง" กับ "ขยะ" ที่ถูกซุกไว้ใต้พรม

สำหรับ นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค
เป็นนโยบายประชานิยมยุครัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ที่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2545 โดยเป็นหนึ่งในนโยบายที่เรียงคะแนนเสียง
ในการเลือกตั้งจากประชาชนรากหญ้ามากที่สุด
เพราะชูเป้าหมายให้ประชาชนซึ่งอยู่นอกเหนือสิทธิประกันสังคม
และสวัสดิการข้าราชการได้เข้าถึงการรักษาพยาบาล

แต่ปัญหาที่ถูกท้วงติงมากที่สุด
คือการจัดสรรงบประมาณเป็นรายหัว
โดยปัจจุบันหลายโรงพยาบาลขอถอนตัวจากโครงการ
เพราะแบกรับภาระไม่ไหว


http://www.posttoday.com/วิเคราะห์/สดจากสนาม/52486/ปิดฉาก-บัตรทอง