WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, September 29, 2010

ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์:แดงแท้ แดงเทียม แดงสลิ่ม แดงมือใหม่ แดงมือโปร แดงมหาเทพ แดงซูเปอร์แดง ฯลฯ

ที่มา ประชาไท

ภาย หลังจากที่งาน"เราไม่ทอดทิ้งกัน"ลุล่วงไปได้มีข้อถกเถียงเรื่องของการ ให้คุณค่าและการจัดวางบทบาทของตนเองในขบวนการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงของนัก กิจกรรมทางสังคมกลุ่มหนึ่ง บันทึกสั้นๆในเฟซบุ๊คชิ้นนี้เป็นทัศนะหนึ่งที่น่าสนใจศึกษาและแลกเปลี่ยน เพื่อนำไปสู่ความชัดเจนข้างหน้า

อ่าน ที่หลายคนพูดกันไปมาหลังจากงานเรา"ไม่ทอดทิ้งกัน"แล้วมีข้อสังเกตว่า เรื่องแดงแท้แดงสลิ่มเป็นคำที่คนชั้นกลางอยากแดงสร้างขึ้นมาเองทั้งนั้น คำนี้มีคนทั่วไปใช้ที่ไหน เวลาไปงานในพื้นที่ต่างๆ ก็ไม่เคยได้ิยิน คำนี้เกิดจากความอึดอัดในสังคมคนชั้นกลางเอง โดยเฉพาะหลังการปราบปี 53 จนเกิดความต้องการอัตลักษณ์ใหม่เพื่อแยกตัวเองจากคนชั้นกลางอื่นๆ อัตลักษณ์นี้ไม่ผิด ควรมี แต่การมีอัตลักษณ์นี้ไม่ควรนำไปสู่การคิดเองเออเองว่าึคนทั้งหมดต้องเป็นแบบ เดียว ใครเป็นแบบอื่นผิด ไม่แจ๋ว ไม่แน่จริง คนแต่ละคนมีเงื่อนไขมีความถนัดมีรสนิยมต่างกัน ว่ากันไม่ได้ ไม่เห็นประโยชน์ของการว่ากันแบบนี้ เห็นแต่ผลที่จะทำให้คนอยากทำอะไรร่วมกันน้อยลง 

นี่ไม่ได้ หมายความว่าเราไม่ควรวิจารณ์หรือตั้งคำถามกันเอง แต่การวิจารณ์หรือการตั้งคำถามที่ดีในความเคลื่อนไหวทางการเมืองก็เหมือนการ วิจารณ์หรือตั้งคำถามในเรื่องศิลปะหรือเรื่องอื่นๆ การวิจารณ์ที่ดีต้องช่วยให้อีกฝ่ายเปลี่ยนผ่านจากข้างใน ให้เขาเ็ห็นปัญหาเห็นข้อจำกัดของวิธีคิดต่างๆ ให้เขาเลือกเองตามความถนัดหรือเงื่อนไขที่แวดล้อมตัวเขา ไม่ใช่วิจารณ์แบบตั้งตัวเองเป้นศาสดาหรือเจ้าพ่อศีลธรรมที่รู้ว่าอะไรถูก อะไรผิด และทุกคนต้องเปลี่ยนแปลงตามที่ข้าพเจ้าเห็นว่าดี

อ่านความ เห็นต่อไปยิ่งพบว่ากระแสคำแบบนี้เลยเถิดไปขนาดไล่ล่าคนที่ไม่ เหมือนกัน ว่าเป็นแดงเทียม แดงหากิน แดงมือใหม่ แดงฟันน้ำนม ฯลฯ คุณบุญชิตพูดไว้ดีว่าเอียงแดงแล้วมีอะไรให้หากินได้ที่ไหน ในทางตรงข้าม คือทำให้ไม่มีจะกินมากกว่า เรื่องแดงมือใหม่แดงฟังน้ำนมนี่ยิ่งเลอะเทอะ มีใครในโลกนี้เป็นแดงตั้งแต่ต้น ความเป็นเสื้อแดงเพิ่งเกิดไม่กี่ปีนี้ ซ้ำหลายคนทีไล่ล่าคนอื่นว่าแดงน้อยไปก็ไม่ได้พูดอะไรเมื่อเกิดรัฐประหาร 2549 ที่เคยเห็นด้วยกับรัฐประหารมากบ้างน้อยบ้างก็มี

เมื่อตอนที่ ไทยรักไทยถูกยุบพรรค เท่าที่จำได้ก็คือแทบไม่มีนักวิชาการคนไหนแสดงความคิดเห็นคัดค้าน ตอนเกิดสิบเมษา 52 หรือ 53 หลายคนหายไปแม้กระทั่้งการโพสท์ข้อความในเว็บ แล้วอย่างนี้จะเอาอะไรมาวัดว่าแดงแท้แดงเทียม? ประโยชน์ของการวัดแบบนี้คืออะไรนอกจากทำให้ขบวนการที่มีคนหลายกลุ่มเข้าร่วม กลายเป็นขบวนการผูกขาดคลั่งคัมภีร์

บางคนบอกว่าของแท้ ต้องกล้าแตะบางเรื่อง แต่เมื่อมีหลายคนในอดีตทำแล้วเดือดร้อน มีใครคุ้มครองหรือช่วยเหลือพวกเขาได้? อันที่จริงถ้าใช้เกณฑ์นี้วัดความเป็นของแท้แล้วก็จะยิ่งพบว่าคนเป็นของแท้ แทบไม่เหลือสักราย

ในอดีตแม้แต่คนที่ radical มากๆ อย่างปรีดีก็หลีกเลี่ยงไม่พูดเรื่องนี้อีกหลัง 2475 แม้กระทั่งงานปรีดีช่วงอยู่จีนหรือฝรั่งเศสก็แตะเรื่องแบบนี้เบาบาง อ้อมค้อม และต้องมีความเข้าใจบางแบบมากพอจึงจะเข้าใจสารของปรีดี อย่างนี้แปลว่าแท้หรือไม่แท้? นักการเมืองฝ่ายที่คิดว่าเป็นพวกเดียวกันส่วนใหญ่ก็ระมัดระวังในเรื่องทำนอง นี้ คำถามคือคนเหล่านี้แท้หรือเทียม? หรือจริงๆ คำถามนี้ผิดเพราะคำตอบคือเราวัดใครแบบฉาบฉวยไม่ได้นอกจากต้องประเมินกันใน ระยะยาว การโฉ่งฉ่างไล่ล่าไล่ประนามคนจึงไม่มีความจำเป็น และการวิจารณ์ไม่ควรล้ำเส้นจนกลายเป็นการทำอะไรแบบนี้

ความกล้าเป็น เรื่องดี แต่ความไม่กล้าหรือความกลัวก็ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะคนแต่ละคนมีเงื่อนไขหรือมีเหตุไม่เหมือนกัน คนที่เรียกร้องให้คนอื่นกล้าหาญอาจไม่ใช่้คนกล้าที่สุดในวันที่มีความสูญ เสียเกิดขึ้นจริงก็ได้ ลองย้อนกลับไปทบทวนความจำเดือนเมษาและพฤษภาก็จะเห็นเองว่าใครอยู่ที่ไหนและ ทำหรือไม่ทำอะไรเลยในขณะนั้น ใครแสดงตัว ใครหายไปเฉยๆ

การเอาวาทกรรม ความกล้าไว้แบล็คเมล์คนอื่นนั้นเป็นเรื่องเหลวไหล เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องของการอุทิศตัวเอง ไม่ใช่การเรียกร้องคาดคั้น ถึงคาดคั้นก็เปลี่ยนคนไม่ได้ ไม่มีประโยชน์อะไรจากการคาดคั้น ยิ่งกว่านั้นคือทุกคนมีสิทธิถูกคนอื่นประณามแบบนี้ได้ตลอดเวลา

โจทย์ ใหญ่ที่เป็นปัญหาร่วมของคนทั้งหมดมากที่สุดในตอนนี้คือ การไม่มีประชาธิปไตย เสียงประชาชนและการเลือกตั้งถูกทำให้อยู่ใต้เสียงเหนือประชาชนและสถาบันนอก การเลือกตั้ง โจทย์อื่นเป็นประเด็นสำคัญแต่ไม่ได้แปลว่าทุกคนในฝั่งเดียวกันมีคำตอบเดียว กันทั้งหมด การจัดลำดับผิดหรือการประเมินอะไรเข้าข้างตัวเองจะเป็นการสร้างปัญหาใหม่ อย่างไม่มีความจำเป็น

ที่มา:http://www.facebook.com/note.php?note_id=478600134809&id=600452703