ที่มา Dhammada.net
อ้างอิง คมชัดลึก : http://www.komchadluek.net/detail/20100930/74924/กก.มส.ชี้สอบคำสอนพระปราโมทย์ต้องใช้เวลา.html
มติชน : http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1285857417&grpid=&catid=02
บางส่วนจากข่าว
นาย เทิดศักดิ์ เตชะกิจขจร อาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะผู้ติดตามข่าวเกี่ยวกับสวนสันติธรรม เปิดเผยต่อ “คม ชัด ลึก” ว่าหลังจากที่ได้รับเอกสารจากนายอภิชาติ อัศวเรืองชัย อดีตประธานกรรมการบริหารสวนสันติธรรมที่ถอนตัวออกมา โดยได้ตรวจสอบเอกสารทั้งหมดกับบัญชีรายรับ-รายจ่ายของสวนสันติธรรม พบว่ามีเม็ดเงินหายไปจำนวนหนึ่ง โดยไม่มีรายได้ระบุไว้ในบัญชีทั้ง 7 บัญชีที่ทนายความได้ส่งให้ดีเอสไอ
“ผมได้ตรวจสอบเอกสารรายรับรายจ่าย ของสวนสันติธรรมตั้งแต่ปี 2551 ถึงเดือนกันยายน 2552 นั้น ไม่พบว่ามีบัญชีรายรับซึ่งได้มาจากการเดินสายแสดงธรรมในสถานที่ต่างๆ 65 แห่ง ซึ่งเชื่อว่าแต่ละแห่งที่ไปนั้น ทางผู้ศรัทธาจะบริจาคหรือทำบุญให้ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเดือนตุลาคม 2552 มีการแสดงธรรมยุวพุทธ มีการเรี่ยไรเงินทำบุญถึง 1.2 ล้าน แต่ก็ไม่มีปรากฏอยู่ในบัญชี เราคำนวณคร่าวๆ การแสดงธรรม 65 ครั้งน่าจะมีรายรับ 15-20 ล้านเลยทีเดียว” นายเทิดศักดิ์ กล่าว
.
ประเด็นที่แท้จริง
จากที่ สื่อบางแห่งได้ลงข่าวในเวปไซด์ตน เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 53 ถึง กรณีเงินบริจาคจากการที่หลวงพ่อปราโมทย์ไปเทศน์
ที่ยุวพุทธิกสมาคม เมื่อเดือน ตุลาคม 2552 โดยมีความเข้าใจผิดว่าเป็นยอดเงินประมาณ หนึ่งล้านสองแสนบาทนั้น
ทางทีมงานเวปธรรมดาฯได้ทำการตรวจสอบแล้วพบว่า “ความเป็นจริงแล้ว ปัจจัยที่ผู้มาฟังธรรมมอบให้กับ
หลวงพ่อปราโมทย์นั้นเป็นจำนวนทั้งสิ้น 201,021.00 บาท (หักค่าโอนผ่านธนาคารแล้ว) และหลวงพ่อฯ
ก็ได้อนุโมทนากับทางยุวพุทธด้วยแล้วครับ”
.
โดยเวปไซด์ของสื่อรายหนึ่งได้นำข้อความเรื่องจำนวนเงิน หนึ่งล้านสองแสนกว่าบาทออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทางทีมงานเวปธรรมดาจึงขอขอบคุณในการแก้ไขข่าวของสื่อรายนั้นพร้อมกับขอให้ทุกท่านที่ได้รับข้อมูลที่
คาดเคลื่อนมาได้โปรดทำความเข้าใจในสิ่งที่ทีมงานเรียนชี้แจงมาในโอกาสนี้ด้วยครับ