ที่มา thaifreenews
โดย ลูกชาวนาไทย
จากบทวิเคราะห์ของมติชน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1284973052&grpid=&catid=02
วันนี้ มีหลายฝ่ายที่คิดว่ารัฐบาลของนายอภิสิทธิ์คงไปไม่รอดเพราะมีปัญหามากมาย จึงมีความคิดกันว่า อาจมีการทำรัฐประมหารในเดือนตุลาคม และตั้งรัฐบาลแห่งชาติขึ้นมา โดยเอานักวิชาการชั้นนำทั้งหลายมาเป็นรัฐบาล
แค่ คิดก็ผิดแล้ว เป็นกรอบการคิดของระบอบการเมืองช่วงปี 2520-2540 ที่ล้าหลังไปแล้ว ในยุคนั้นปัญหาของประเทศยังไม่มาก แนวทางการพัฒนาประเทศก็แค่ส่งเสริมอุตสาหกรรมเท่านั้น ประชากรไม่มาก ส่วนใหญ่ก็เป็นแค่คนชนบท กับคนเมืองที่มีไม่ถึง 10% คนชนบทมีหลังพิง ไม่มีงานทำก็กลับไปทำนาได้ ปัญหาจึงไม่เยอะ
แต่ปัญหาของปี 2553 ประชากรมี 65 ล้านคน เป็นประเทศกึ่งอุตสาหกรรม ที่ประชากรกว่า 40% ไม่ได้ขึ้นกับภาคเกษตร หากตกงานก็อดตาย ปัญหาความยากจนมากมาย
ปัญหา ของนักวิชาการคือ " พวกเขาไม่รู้ว่าประชาชน" ต้องการอะไร พวกที่ไปเป็นรัฐมนตรีก็คิดว่าตัวเองรู้ดี และไม่ได้มาจากประชาชน จึงไม่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชน สุดท้ายสิ่งที่พวกเขาคิดว่าดี นั้น "อาจไม่มีใครอยากได้เลยก็ได้"
"รัฐบาลแห่งชาติ" ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนอยู่ดี อยู่ได้ไม่นานก็ถูกไล่อย่างแน่นอน มันมีปัญหามากมายที่คนจะประท้วง "รัฐมนตรีอำมาตย์" อยากไปคุยกับชาวบ้านหรือไม่ คุยกันไปก็ไม่รู้เรื่อง
สุดท้ายก็ไม่ต่างจากรัฐบาลสุรยุทธ์
ผม คิดว่าพวกอำมาตย์ไม่มีทางไปแล้ว การพยายามหลีกเลี่ยงความต้องการของคนส่วนใหญ่ เอาคนส่วนน้อยมาครอบงำคนส่วนใหญ่ ถึงอย่างไรมันก็ไปไม่ได้ คิดว่าเอานายอภิสิทธิ์มาจะแก้ปัญหาเรื่องการยอมรับได้
แต่หากนายอภิสิทธิ์ คนเขายอมรับมันก็ชนะเลือกตั้งไปนานแล้ว ไม่ต้องให้ใครมาดันจนต้องฆ่าคนไปมากมาย
เอานักวิชาการมาเป็น ส่วนใหญ่ก็คงเป็นนักวิชาการสาย "ซาบซึ๊ง" นักวิชาการสายพันธมิตร คุยกับพวกเสื้อแดงไม่รู้เรื่องอยู่ดี
อย่าคิดเลยว่านักวิชาการจะบริหารประเทศนี้ได้ การบริหารประเทศ มันต้องทำให้คนส่วนใหญ่พึงพอใจ
แต่เขาจะพอใจได้อย่างไร หรือจะรู้ว่าประชาชนต้องการอะไรได้อย่างไร หากไม่ใช่คนที่ประชาชนส่วนใหญ่เขาเลือกมา
วันนี้คิดจะตั้งรัฐบาลแห่งชาติ คงไปไม่รอด อีกเหมือนเดิม
ตัวอย่างเช่น
โรง ไฟฟ้านิวเคลียร์ เป็นสิ่งดีหรือไม่ หากให้ตอบทางวิชาการ ผมคิดว่า มันเป็นทางเลือกที่ดีมาก เพราะไม่มีการปล่อย ก๊าซคาร์บอนฯ ส่วนเรื่องความปลอดภัยนั้น ปัจจุบันนี้โลกมีมาตรการที่ดีและมีเทคโนโลยีที่ปลอดภัยอยู่แล้ว
ประเทศไทยผลิตไฟฟ้าจาก "ก๊าธธรรมชาติ" กว่า 70% ของความต้องการใช้ แต่ปัญหาคือ อีก 15-20 ปีข้างหน้า ก๊าธธรรมชาติจากอ่าวไทยจะหมดไป
ทางเลือกมีแค่ "ถ่านหิน" กับ นิวเคลียร์ เท่านั้น ส่วนพลังงานทดแทนนั้นมีไม่พอกับความต้องการใช้
แต่ นั้นเป็นการคิดแบบนักวิชาการ ดี ควรทำ แต่ จะเอาไว้ที่ "หน้าบ้านใคร" มีแต่คนเห็นดีแต่ต้องไม่ตั้งใกล้หน้าบ้านตนทั้งนั้น (not in my backyard)
http://en.wikipedia.org/wiki/NIMBY
------
ปัญหาอื่นๆ อีกเยอะแยะที่ไม่สามารถใช้ "นักวิชาการ" ตอบได้ เพราะมันเป็นเรื่อง "สิทธิในการเลือกของประชาชน" ด้วยว่าเขาอยากได้หรือไม่
ไม่ต้องมีคนไปคิดแทนเขา ไม่มีใครต้องการให้คนอื่นมาคิดแทนตน
ดังนั้น แนวคิดรัฐบาลแห่งชาติ มันไปไม่รอดหรอก
เพราะในที่สุด "ก็ไม่ใช่รัฐบาลแห่งชาติ"
แต่เป็น รัฐบาลของพวกอำมาตย์ โดยอำมาตย์ เพื่ออำมาตย์อย่างแท้จริง
เพราะปัญหาของสังคมตอนนี้คือ Cake มีอยู่ก้อนเดียว แย่งกันระหว่างคนชั้นล่าง ชั้นกลาง ชั้นสูง
รัฐบาลแห่งชาติ จะกล้าแบ่งเค็กให้คนชั้นล่างชิ้นใหญ่กว่าเดิมหรือไม่ ซึ่งไม่พ้นจะต้องไปเอาส่วนแบ่งของพวกคนชั้นสูงมา
ปัจจุบันโครงสร้างรายได้ประเทศไทย คน 5% ถือครองความมั่งคั่งถึง 80%
เหลืออีก 20% แบ่งกันระหว่างคนอีก 95%
รัฐบาลแห่งชาติ จะกล้าทำนโยบายให้คน 80% มีส่วนแบ่งความมั่งคั่ง 60%(ไม่ต้องถึงกับ 80%) หรือไม่
หากไม่กล้าทำ มันก็ไปไม่รอดอยู่ดี
แค่ทักษิณต้องการแบ่งให้คนรากหญ้ามากขึ้น ยังโดนหาเรื่องทำรัฐประหาร