ที่มา ประชาไท
“จตุ พร” ส่งทนายฟ้อง “ผู้พิพากษาอาวุโส” ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เหตุไม่ให้โอกาสในการอ้างพยานบุคคลเข้าสืบ คดี “อภิสิทธิ์” ฟ้องหมิ่น ศาลนัดฟังคำสั่งจะรับคดีไว้ไต่สวนหรือไม่ 22 ธ.ค.นี้
วันนี้ (13 ธ.ค.2553) เมื่อเวลา 16.20 น.ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) มอบอำนาจให้ นายคารม พลทะกลาง ทนายความ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสมศักดิ์ วงศ์ยืน ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอาญา เป็นจำเลย ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 200
คำฟ้องโจทก์ระบุว่า จำเลยปฏิบัติหน้าที่พิจารณาคดีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยื่นฟ้องนายจตุพร ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา รวม 3 สำนวน และคดีที่พนักงานอัยการยื่นฟ้องนายจตุพร กับพวกรวม 3 คน ในคดีหมายเลขดำที่ อ.177/2551 ในความผิดฐานร่วมกันดักฟังโทรศัพท์ ซึ่งคดีดังกล่าวศาลได้กำหนดวันนัดสืบพยานไว้แล้ว
คำ ฟ้องระบุด้วยว่า การปฏิบัติหน้าที่ของจำเลยจะต้องเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ปี 2550 แต่ระหว่าง กรกฎาคม 2552-ธันวาคม 2553 จำเลยในฐานะเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ได้มีเจตนาพิเศษในการพิจารณาคดี โดยเมื่อเดือนตุลาคม 2547 จำเลยเชิญนายอภิสิทธิ์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในขณะนั้น กล่าวคำอวยพรในงานมงคลสมรสของบุตรสาวจำเลย ที่แสดงออกถึงความสนิทสนมกันระหว่างนายอภิสิทธิ์กับจำเลย อันเป็นการมีอคติและลำเอียงให้แก่นายอภิสิทธิ์ ที่เป็นคู่ความกับโจทก์ ทำให้การปฏิบัติหน้าที่ของจำเลย ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมตามสิทธิในกระบวนการยุติธรรมกับโจทก์ต้องเสียไป ซึ่งการพิจารณาคดีที่นายอภิสิทธิ์ยื่นฟ้องหมิ่นประมาทโจทก์ จำเลยได้ตัดสิทธิไม่ให้โจทก์เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมและต่อสู้คดีอย่าง เพียงพอ ไม่ให้โอกาสโจทก์ในการอ้างพยานบุคคลเข้าสืบหักล้างตามสมควรในแต่ละประเด็น ทั้งที่เป็นคดีอาญาซึ่งคู่ความทั้งสองฝ่ายเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ทั้ง นี้ โจทก์ได้ร้องขอความเป็นธรรมต่อประธานศาลฎีกา และยื่นคำร้องคัดค้านเพื่อขอให้เปลี่ยนผู้พิพากษาแล้ว แต่จำเลยยังคงปฏิบัติหน้าที่ผู้พิพากษาอยู่ จึงนำคดีมายื่นฟ้องต่อศาล
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า คดีดังกล่าวศาลรับคำฟ้องไว้พิจารณา และนัดฟังคำสั่งว่าจะรับคดีไว้ไต่สวนมูลฟ้องหรือไม่ วันที่ 22 ธ.ค.นี้ ส่วนคดีที่ นายจตุพร ถูกนายอภิสิทธิ์ฟ้องร้องฐานหมิ่นประมาทนั้น ศาลนัดฟังคำตัดสินในวันที่ 17 ธ.ค.53
สำหรับคดี ที่ที่นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ ภรรยานายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายจตุพร ฐานหมิ่นประมาท กรณีระหว่างวันที่ 23-25 ก.ค.53 นายจตุพรให้สัมภาษณ์ทำนองว่าโจทก์ใช้อำนาจของสามีเรียกรับเงินจากนักธุรกิจ คนหนึ่งจำนวน 150,000 บาท โดยรับปากว่าจะช่วยเหลือคดีที่นักธุรกิจคนดังกล่าวถูกเรียกคืนภาษีย้อนหลัง 1.7 ล้านบาท ทั้งสองฝ่ายยินยอมที่จะเข้าไกล่เกลี่ย โดยนัดเจรจาอีกครั้งในวันที่ 20 ม.ค.54