WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, December 16, 2010

นักรัฐศาสตร์ตั้งฉายาการเมืองปี 2553

ที่มา ข่าวสด


รายงานพิเศษ



หมายเหตุ - สมาคมรัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) ร่วมกับชุมนุมรัฐศาสตร์ มก. ซึ่งมีตัวแทนนิสิตภาควิชารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ และคณะวิศวกรรมศาสตร์ มก. แถลงกิจกรรมตั้งฉายาสถาบันทางการเมืองไทยในรอบปีཱ เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.



รัฐบาล-′เส้นใหญ่ผัดซีอิ๊ว′

เนื่อง จากในรอบปีཱ ไม่มีวลีใดอธิบายลักษณะของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ดีกว่าคำว่า ′เส้นใหญ่′ เพราะมีทั้งผู้มีอำนาจวาสนา กระบอกปืนและรถถัง รวมถึงบารมีทั้งในและนอกรัฐธรรมนูญคอยอยู่เบื้องหลัง

การที่ต้องนำมาผัดซีอิ๊ว แม้วัตถุดิบแต่ละอย่างมีสีสันแตกต่างกันออกไป แต่ทันทีที่นำมาผัดเข้าด้วยกัน สีดำของซีอิ๊วก็จะเปรอะเปื้อนติดไปกับทุกๆ องค์ประกอบ เสมือนข่าวคาวความฉ้อฉลของรัฐบาลชุดนี้

นายอภิสิทธิ์ แม้พยายามแสดงตนว่าซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชั่น แต่การอยู่ร่วมรัฐบาลเดียวกัน นอกจากไม่ห้ามปราม กลับปล่อยให้มีการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างมโหฬาร จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกมองเหมารวมด้วย

สังเกตให้ดี เส้นใหญ่ผัดซีอิ๊วไม่ได้มีแค่เส้นใหญ่สีขาวกับซีอิ๊วสีดำ แต่ยังประกอบด้วยผักคะน้า ′สีเขียว′ และไข่ไก่ ′สีเหลือง′ เหมือนรัฐบาลนี้ที่ต้องการแบ๊กอัพคือกองทัพและกลุ่มพันธมิตร



รัฐสภา-′สภามวยโลก′

รัฐสภาเป็นสถานที่อันทรงเกียรติ มีวัตถุประสงค์สำคัญเป็นที่ประชุมของสมาชิกเพื่อผลักดันนโยบายอันก่อให้เกิด ประโยชน์ต่อประเทศชาติโดยส่วนรวม

แต่สมาชิกกลับใช้รัฐสภาเป็นสถานที่ทะเลาะเบาะแว้งกันเอง มุ่งหมายเพียงเอาชนะคะคานด้วยคำพูดที่หยาบคาย ใช้กำลังเข้าทำร้ายร่างกาย ตลอดจนขว้างปารองเท้าใส่กัน

เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม สะท้อนถึงความไร้อารย ธรรมของผู้เรียกตนเองว่าผู้ทรงเกียรติ เมื่อภาพเหล่านี้ถูกถ่ายทอดออกไปสู่สาธารณชน

กลายไปเป็นตัวอย่างที่ไม่เหมาะสมต่อประชาชนโดยทั่วไป รวมถึงเยาวชน




ตุลาการ-′ไม้บรรทัดคู่สู้สิบทิศ′

สถาบันตุลาการทั่วโลกเปรียบได้กับไม้บรรทัดที่มีความเที่ยงตรง แน่นอน ในประเทศไทยก็เช่นกัน หากแต่รอบปีที่ผ่านมากลับเกิดข้อสงสัยว่ามาตรฐานหรือไม้บรรทัดของตุลาการไทย อาจไม่ได้มีเพียง 1 อัน

โดยเฉพาะการตัดสินคดียุบพรรคการเมือง นอกจากพรรคประชาธิปัตย์แล้วยังไม่เคยมีพรรคใดรอดพ้นจากคำตัดสินของตุลาการ เลย ไม่ต้องถึงขนาดภายในปีเดียวกันถึง 2 ครั้ง 2 ครา

ด้วยมาตรฐานหรือไม้บรรทัด 2 อันของตุลาการนี้ ใช้ต่อสู้ฟาดฟันกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงรอบด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากซีรีส์คลิปวิดีโอที่เผยแพร่ในเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เปิดโปงเรื่องราวเสียๆ หายๆ

มีการแก้เกมเบี่ยงประเด็นให้ไปไล่บี้เอากับผู้กระทำผิดฐานเผยแพร่คลิป แทนการตรวจสอบและพิสูจน์ความถูกต้องของเนื้อหาในคลิป



พรรคภูมิใจไทย-′ห้อยเนรวิน′

พูดถึงพรรคภูมิใจไทย จะเห็นหน้านายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรค ลอยมาก่อนหน้าหัวหน้าพรรคอย่างนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล

นอกเหนือจากลักษณะทางกายภาพที่ติดตัวมาแต่กำเนิดแล้ว รอบปีที่ผ่านมา นายเนวินพยายามเข้ามามีบทบาทสำคัญในงานพิธีหลายต่อหลายงาน ภายใต้วาทกรรมการปกป้องสถาบัน

ทั้งนี้ อย่าได้เข้าใจว่า ′เนรวิน′ ผันมาจากคำที่มีความหมายในเชิงลบอย่าง ′เนรคุณ′

เพราะตัว ′ร′ ที่แทรกอยู่นั้นแท้ที่จริงมาจากชื่อของคุณกรุณา ชิดชอบ ผู้มากบารมีคนสำคัญอันดับ 2 ของพรรคภูมิใจไทยต่างหาก



พรรคเพื่อไทย-′พรรคเพื่อใคร′

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตกเป็นเบี้ยล่างถูกไล่ล่า นโยบายสำคัญที่พรรคเพื่อไทยผลักดันและนำมาหาเสียงอย่างจริงจังคือ ′การนำทักษิณกลับบ้าน′ นโยบายด้านความเป็นอยู่ของประชาชนเปลี่ยนสถานะมาเป็นเพียงเรื่องรอง

คำถามที่เกิดขึ้นขณะนี้ จึงเป็นลำดับความสำคัญของพรรคที่มีประชาชนหรือใครเป็นสำคัญกันแน่




พรรคประชาธิปัตย์-′อิเหนาหุ้มเกราะ′

สำนวน ′ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง′ สะท้อนภาพพรรคประชาธิปัตย์อย่างดี เมื่อครั้งเป็นพรรคฝ่ายค้านเคยโจมตีรัฐบาลอย่างรุนแรง ทั้งนโยบายประชานิยม ทุจริตคอร์รัปชั่น และการจัดการกับผู้ชุมนุมที่ขับไล่รัฐบาล

หากแต่เวลาเปลี่ยนไป พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล กลับกลายเป็นพรรคการเมืองที่เลือกใช้นโยบายประชานิยมชนิดตัวพ่อ โดยไม่ต้องประกาศสโลแกนว่า ′ประชานิยม สังคมเป็นสุข′

ตัวเลขการทุจริตคอร์รัปชั่นเพิ่มสูงขึ้นจนม็อบพันธมิตรที่เคยไล่รัฐบาลทักษิณประกาศว่า ทุจริตยิ่งกว่า

การ สลายการชุมนุมโดยนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ใช้กำลังทหารเข้าปฏิบัติการอย่างรุนแรงจนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บล้มตาย จำนวนมาก เป็นอิเหนาที่มีชุดเกราะของกองทัพปกป้องคุ้มครองอย่างแน่นหนา

หากจะกล่าวว่ารัฐไทยภายใต้การนำของพ.ต.ท.ทักษิณเป็น รัฐตำรวจ รัฐไทยภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ก็เป็นรัฐทหารอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้นายกฯ จะถูกโจมตีว่าหนีทหารก็ตาม



องค์กรอิสระ-′สากกะเบือดิน′

ในรอบปีཱ องค์กรอิสระล้มเหลวในการตรวจสอบอำนาจรัฐโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ไม่สามารถเอาผิดผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงได้เลยแม้แต่ครั้ง เดียว

กกต.ยิ่งแล้วใหญ่ ความผิดพลาดในการดำเนินการกรณียุบพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้สังคมไม่ไว้วางใจ

คณะ กรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติก็เช่นกัน แรกๆ ก็ปึงปังประมูลโครงการ 3G ประโคมข่าวไปทั่วโลก สร้างความหวังให้ประชาชนว่าจะได้ใช้บริการในเร็ววัน สุดท้าย 3G ถูกระงับ เพราะการปฏิบัติไม่เป็นไปตามกฎหมาย

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แรกเริ่มภาพลักษณ์ดูดีมีความหวัง กรรมการแต่ละคนล้วนเป็นผู้ทรงคุณวุฒิโดยเฉพาะประธาน ศ.ดร.อมรา พงศาพิชญ์ มีเกียรติภูมิทางวิชาการสูงส่ง ทำงานในแวดวงสิทธิมนุษยชนมาตลอดชีวิต

แต่เมื่อเข้ารับตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่ กลับกลายเป็นภาพของกลุ่มผู้สูงอายุที่ไม่มีปัญญาจะไปตรวจสอบหรือกดดันใครสักคน

การปราบปรามผู้ชุมนุมอย่างรุนแรงจนเป็นเหตุให้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก รวมถึงจับกุมคุมขังผู้เข้าร่วมชุมนุมในปัจจุบัน อันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเห็นได้ชัดเจนที่สุด

เป็นเครื่องยืนยันถึงความนิ่งเป็นสากกะเบือขององค์กรอิสระที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสายลม แสงแดด ยอดหญ้า และกองเลือด

ทั้ง ยังเป็นสากกะเบือที่ทำจากดิน ไม่สามารถตำอะไรได้เลยสักอย่าง คราวใดที่พยายามดันทุรังตำเข้าไปจริงๆ ก็พบว่าตนเองนั่นแหละที่ต้องแตกแหลกเป็นผงธุลี



กองทัพ-′ทัพไทยหมื่นล้าน

ประสานงานปราบม็อบ′


รอบ ปีที่ผ่านมา กองทัพโดยเฉพาะกองทัพบก ตั้งแต่สมัยพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา จนถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผลงานที่โดดเด่นที่สุดเพียงเรื่องเดียวคือ การเป็นเกราะคุ้มครองรัฐบาลนายอภิสิทธิ์

โดยทุ่มเทสรรพกำลังและยุทโธปกรณ์ทั้งหมดที่มีมาเพื่อสลายการชุมนุมทางการ เมืองของประชาชนฝ่ายตรงข้าม ภายใต้วาทกรรมการกระชับวงล้อมเพื่อขอคืนพื้นที่

ทั้งที่ภารกิจหลักของกองทัพอีกจำนวนมาก อาทิ การแก้ไขปัญหาแนวชายแดนไทย-กัมพูชา การแก้ไขความรุนแรงในภาคใต้ รวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพของกองทัพ ยังไม่ได้ดำเนินการให้สำเร็จลุล่วง

ขณะเดียวกัน มีข้อเคลือบแคลงสงสัยถึงการใช้จ่ายเงินภาษีจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ปีละหลายหมื่นล้านบาท

เช่น เครื่องตรวจวัตถุระเบิด GT200 ที่ทรงประสิทธิภาพเทียบเท่ากับไม้เท้าชี้ฮวงซุ้ย การจัดซื้อเรือเหาะ รวมถึงรถหุ้มเกราะที่สั่งเพิ่มอีกภายหลังจากที่ยังไม่ได้รับของเก่าเสียด้วย ซ้ำจากยูเครน

เรียกได้ว่าลงทุนมากมายทั้งกำลังพลและอาวุธเพื่อภารกิจปราบม็อบอย่างเดียวโดยแท้