WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, December 17, 2010

รักษาสังคมไทย

ที่มา มติชน



โดย ปราปต์ บุนปาน

(ที่มา คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่ 12 หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 16 ธันวาคม 2553)

ใคร ที่ติดตามข่าวสารการเมืองไทยอย่างละเอียดในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาคงตระหนัก ถึงปรากฏการณ์ล้นทะลักท่วมทะลุของข้อมูล ความคิดต่างๆ จำนวนมาก

ซึ่งอาจส่งผลทำให้ "ระบบ" ต่างๆ ในสังคมการเมืองไทยดำเนินไปอย่างติดขัดหรือถึงกับไม่ทำงานเอาได้

ปรากฏการณ์เช่นนี้นำไปสู่คำถามที่ว่าวิธีการแก้ไขปัญหาแบบเดิมๆ ที่สังคมไทยใช้อยู่ตลอดมา

ยังคงมีประสิทธิภาพอยู่หรือไม่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับโลกที่เปลี่ยนแปลงไป?

ทั้ง นี้ วิธีการแก้ไขปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน คงมิใช่การกดทับ ปิดกั้น หรือเมินเฉยต่อข้อมูล ความคิด ความรู้สึกอันแปลกแยก ดังที่เคยทำกันมา

เพราะนั่นจะยิ่งนำไปสู่ "ความกดดัน" ที่ต่างคน ต่างฝ่าย ต่างจะแบกรับไว้ได้ไม่ไหวมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

และยากคาดการณ์ว่า "ความกดดัน" ดังกล่าวจะแปรผันกลายเป็นอะไรอย่างอื่นหรือไม่?

คำถามต่อมาก็คือ แล้ววิธีการใดที่จะสามารถนำมาใช้รับมือกับ "ความไม่แน่นอน" ดังกล่าวได้?

คง เป็นอย่างที่มีผู้หวังดีจำนวนหนึ่งเสนอเอาไว้ว่า สังคมไทยจำเป็นต้องสร้างพื้นที่สาธารณะ เพื่อรองรับการแสดงความคิดเห็นอันแตกต่างของผู้คนในสังคมอย่างเปิดกว้างมาก ยิ่งขึ้นกว่านี้

เราต้องให้การรับรองถึงความชอบธรรมของ พื้นที่สาธารณะดังกล่าวตราบเท่าที่การแสดงความเห็นในพื้นที่เช่นนั้น มีความปรารถนาดีต่อ "ระบบ" หรือ "โครงสร้าง" ของสังคมไทยโดยรวม

นอก จากนี้ ยังจำเป็นต้องเปิดโอกาสให้ทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย ได้เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผลในพื้นที่สาธารณะซึ่งถูกสร้าง สรรค์ขึ้น

วิธีการเช่นนี้เท่านั้นที่จะสามารถช่วยสร้าง "ภูมิคุ้มกัน" และค่อยๆ ปรับเปลี่ยน "ดุลยภาพ" มิให้คนไทยและสังคมไทยมีศักยภาพอ่อนด้อยจนเกินไป

หากต้องเผชิญหน้ากับ "ความไม่แน่นอน" ในอนาคต

ทั้งยังจะทำให้ "ระบบ" หรือ "โครงสร้าง" ของสังคมการเมืองไทยโดยรวม สามารถปรับตัวและดำรงอยู่ต่อไปได้ในระยะยาว

แทน ที่จะปล่อยให้อำนาจรัฐกดทับทุกอย่างเอาไว้ด้วย ความเคยชิน ทั้งที่ความสามารถดังกล่าวของรัฐไทยเริ่มถูกตั้งคำถามและท้าทายมากขึ้นทุก ขณะ

การเสนอแนวทางเช่นนี้วางอยู่บนพื้นฐานที่ปรารถนาให้ทุกคนในสังคมไทยพอจะอยู่ร่วมกันได้

ท่ามกลางความขัดแย้งทางความคิดที่สามารถอภิปรายโต้เถียงกันอย่างเปิดกว้าง

ไม่ใช่การแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ต่อความแปลกแยกแตกต่างที่เกิดขึ้น หรือการพยายามยื้อยุดกาลเวลาและหยุดยั้งความเปลี่ยนแปลงของสังคม

เพราะนั่นมิใช่วิธีการที่ดีในการ "ธำรงรักษา" สังคมไทยแต่ประการใด