ที่มา มติชน
โดย ชฎา ไอยคุปต์
หลังจากที่สำนักข่าวรอยเตอร์สได้เผยแพร่รายงานข่าวพิเศษที่ระบุว่า รายงานการสอบสวนสาเหตุการเสียชีวิตของพลเรือนระหว่างการชุมนุมของกลุ่มคน เสื้อแดงเมื่อเดือนเมษายน-พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยทางการไทย พบว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐไทยอาจมีส่วนกับการเสียชีวิตดังกล่าวของพลเรือนบาง ส่วน
โดยรอยเตอร์สอ้างว่าตนเองได้รับ เอกสารการสอบสวนเบื้องต้นที่ รั่วไหลออกมาจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งทำให้เห็นว่าทหารไทยอาจมีบทบาทสำคัญต่อเหตุเสียชีวิตของพลเรือนในช่วง สถานการณ์ตึงเครียดดังกล่าวมากกว่าที่เจ้าหน้าที่เคยกล่าวยอมรับไว้
รายงาน การสอบสวนชิ้นนี้สรุปว่า มีกองกำลังพิเศษอยู่บนรางรถไฟฟ้าและทำการยิงปืนไปที่วัดปทุมวนาราม ซึ่งเป็นที่หลบภัยของผู้ชุมนุมประท้วงหลายพันคน เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม จริง
รายงานดัง กล่าวระบุผลการสอบสวนเบื้องต้นว่า 3 จาก 6 ผู้เสียชีวิตในวัดปทุมวนารามนั้น อาจจะถูกสังหารโดยเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งขัดแย้งกับคำแถลงการณ์ของกองทัพไทยที่ปฏิเสธว่าทหารไม่มีส่วนรับผิดชอบ กับการสังหารผู้คนในวัดแห่งนี้
มา ย้อนดูคำให้สัมภาษณ์ของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องรวมทั้งปากคำจาก พยานและผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวัดปทุมวนาราม ระหว่างที่รอการเปิดเผยผลสอบสวนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ
31 พ.ค. - นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่งคง กล่าวชี้แจงกระทู้ของ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. เพื่อไทย ในการอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ว่า จากที่ น.อ.อนุดิษฐ์ ยกภาพอ้างว่าเป็นภาพทหารบนรถไฟฟ้าบีทีเอส เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 19 พ.ค. เรียนว่าภาพนี้เป็นภาพที่เป็นปัญหาตลอด คงต้องมีการพิสูจน์กัน ว่าถ่ายในวันที่ 19 พ.ค. เวลา 18.30 น. จริงหรือไม่ ขอเรียนว่า ตนได้ถามเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ปฏิบัติงานในวันดังกล่าว แต่ พบว่าเมื่อเวลา 18.30 น. ไม่มีเจ้าหน้าที่ทหารอยู่บนรางบีทีเอส ขอกราบเรียนว่า เจ้าหน้าที่ของเราในชุดเคลื่อนที่จากสี่แยกปทุมวันฯ ไม่สามารถเข้ามาได้ที่รางรถไฟฟ้าได้ มาได้แค่เข้ามาคุ้มครองเจ้าหน้าที่ดับเพลิง จนต้องถอยมาที่บีทีเอส ขอเรียนว่าภาพที่ถ่ายเป็นทหารแน่ แต่เชื่อว่าน่าจะเป็น 20 พ.ค. ช่วงคุ้มครองประชาชนออกจากวัดปทุมฯ เชื่อว่าวันข้างหน้าจะพิสูจน์ได้
---------------------------------------
31 พ.ค. - นาวาเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส. กรุงเทพ พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายต่อมาในเรื่องการสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงแสดงภาพเหตุการณ์บนรางรถไฟบีทีเอส หน้าวัดปทุมวนาราม เมื่อวันที่ 19 พ.ค. จนเป็นเหตุให้คนตาย 6 ศพในวัดปทุมวนาราม พร้อมยกคำกล่าวของนายสุเทพ ที่บอกว่าเป็น "โจรผู้ร้าย และไอ้โม่ง อยู่ที่บริเวณนั้น"
"ภาพ ทหาร เมื่อ 18.30 น. วันที่ 19 พ.ค. ก่อนเกิดเหตุยิง 5 ศพ มีสติกเกอร์ที่ หมวกเป็นสีชมพู เป็นภาพทหาร พยานหลายปากที่วัดปทุมฯยืนยันว่า มีการยิงลงมาจากรางรถไฟฟบีทีเอส การกระทำของนายอภิสิทธิ์ (เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี) ไม่ได้รับการคุ้มครอง ตามมาตรา 17 แห่งพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ " น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว
31 พ.ค. - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงในการอภิปรายว่า หลังจากแกนนำประกาศยุติการชุมนุมในวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา แกนนำได้เข้ามอบตัวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่รอปฏิบัติการรอบพื้นที่การชุมนุมจาก 4 ทิศก็มีแนวทางการปฏิบัติชัดเจน ชุดจากศาลาแดงมาหยุดที่แยกสารสิน ซึ่งพบปัญหาการต่อสู้ตอบโต้ โดยเฉพาะมาจากตึกบางกอกเคเบิ้ล ชุดจากเพลินจิตมาติดอยู่ที่ชิดลม ไม่สามารถเข้ามาได้ ส่วนชุดจากแยกราชปรารภและจากแยกปทุมวันก็เข้ามาไม่ได้ เนื่องจากเป็นช่วงที่ผู้ชุมนุมจะเดินทางไปยังสนามกีฬาแห่งชาติเพื่อขึ้นรถ กลับบ้าน หากเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามา อาจเกิดการเข้าใจจนเกิดการปะทะได้
นายก รัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีผู้เสียชีวิตถูกยิงในวัดปทุมวนารามฯ ว่า ยังต้องสืบและสอบหาข้อเท็จจริงอย่างละเอียดถี่ถ้วนต่อไป แต่ตนมองไม่เห็นความจำเป็นที่เจ้าหน้าที่ต้องจัดการใดๆ กับประชาชนที่อยู่ในวัด มีแต่รายงานว่า ในช่วงการคุ้มครองการดับเพลิงโรงภาพยนตร์สยาม
"ได้ มีการพูดถึงการยิงเข้าวัดปทุมฯ จากบีทีเอสหรือสกายวอล์ค(ทางเดินเชื่อมระหว่างสถานีรถไฟฟ้า) โดยมีคนอยู่บนรางรถไฟฟ้าสองชั้น ซึ่งถ้ามีคนเดินมาจะมาได้ ต้องมาจากทิศทางราชประสงค์ เพราะสถานีสยามถูกปิดล็อค"
------------------------------------
31 พ.ค. - นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย นำคลิป (คลิกดูคลิปที่รูปกล้องเหนือพาดหัวข่าว) มายืนยันว่า เจ้าหน้าที่ทหารได้เคลื่อนขึ้นไปอยู่บนรางรถไฟฟ้าตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค.ในวันเกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 6 ศพในวัดปทุมวนาราม ยืนยันว่าในคลิปมีกลุ่มควันที่ถูกเผาเป็นหลักฐานยืนยันว่ามีเจ้าหน้าที่ทหาร บนรางรถไฟในวันที่ 19 พ.ค.ไม่ใช่วันที่ 20 พ.ค.ตามที่รองนายกฯกล่าวยืนยัน
นาย วรวัจน์กล่าวว่า มีควันไฟที่ปรากฏที่ตึกสยามพารากอนถูกเพลิงไหม้ ในภาพปรากฏภาพคนที่ยืนซุ่มอยู่บนสกายวอล์คทางเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสในหลายจุด หันหน้าไปทางวัดปทุมวนาราม คลิปดังกล่าวถ่ายวันที่ 19 พ.ค.ไม่ใช่วันอื่นแน่นอน เพราะไฟไหม้สยามพารากอนในวันดังกล่าว แต่ปรากฏว่า เมื่อนำคลิปมาฉายกลับไม่พบเห็นภาพควันไฟแต่อย่างใด เห็นได้ชัดว่า คลิปที่นำมาเปิดควันไฟหายไปในตอนแรก
31 พ.ค. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวเมื่อวันที่ 31 พ.ค. ว่า นายกรัฐมนตรีและกระทรวงการต่างประเทศ ได้ชี้แจงการแก้ไขปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยแล้ว ส่วนผู้ช่วยทูตทหารไทยในต่างประเทศเป็นกลไกหนึ่งที่จะเข้าไปทำความเข้าใจการ แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อม ย้ำทหารไม่เคย คิดปราบปรามหรือสลายการชุมนุม และยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณฉุกฉิน หรือ ศอฉ.ที่ออกปฏิบัติหน้าที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เสียชีวิตทั้ง 6 ศพที่บริเวณหน้าวัดปทุมวนาราม
-------------------------------------
1 มิ.ย.-นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงในการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ ถึงกรณีมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตในวัดปทุมวนารามฯ ว่า เรากำชับในศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) ตลอด ว่าเป็นพื้นที่ละเอียดอ่อนเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลา 18.00-18.30 น. วันที่ 19 พ.ค. มีการปะทะระหว่างทหารบนสถานีรถไฟฟ้ากับกองกำลังติดอาวุธพื้นราบ หลังจากนั้นมีข่าวผู้เสียชีวิต หลายเรื่องตนได้รับข้อมูลตรงกับฝ่ายค้าน หลายเรื่องก็ไม่ตรงกัน แต่ยืนยันว่าไม่มีขว้างแก๊สน้ำตาหลังวัด แต่ยอมรับว่ามีผู้สูญเสียที่น่าสูญชีวิตหน้าวัดและเต๊นท์พยาบาลจริง
"แต่ผมขอให้ความเป็นธรรมกับศอฉ.ว่า มีเหตุผลอะไรที่เจ้าหน้าที่ดำเนินการคนในวัด ทั้งที่ที่ผู้ชุมนุมยุติลงแล้ว"
นายอภิสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เรา มีผลการชันสูตรพลิกศพ 6 ศพในวัดปทุมฯ ในทุกกรณีพบความเป็นจริงตรงกันว่า วิถีกระสุนถูกยิงเกิดในแนวราบ แต่ผู้ถูกยิงอาจอยู่ในอิริยาบถที่ต่างกัน เช่น ท่ายืนหรือนั่งยองๆ จึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยจะยิงจากที่สูง
7 มิ.ย.- พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ทำหน้าที่โฆษก ศอฉ. กับโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ที่ประชุมไม่ได้มีการพูดถึง แต่ตำรวจพยายามสืบว่า 6 คนที่ตายเป็นใคร เพราะอาจมีข้อมูลเชื่อมโยงกับการถูกลอบสังหาร ส่วน เรื่องที่พรรคเพื่อไทยท้าให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.สาบานที่วัดพระแก้วว่า ไม่ได้สั่งให้ทหารยิงประชาชนนั้น เห็นว่าที่ผ่านมามีการท้าตลอด ซึ่งยืนยันว่า สิ่งที่แถลงทุกเรื่องเป็นความจริง หากเรื่องทุกอย่างที่แถลงเป็นเท็จ จะหยุดการทำหน้าที่โฆษก ศอฉ. กับโฆษกกองทัพบก เพื่อความสบายใจ การที่คน 2 คน เล่าเรื่องไม่เหมือนกันนั้นขึ้นอยู่กับประชาชนว่าจะเชื่อใคร
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ได้ยืนยันอย่างหนักแน่นว่า การปฏิบัติภารกิจการรักษาความสงบเรียบร้อยดังกล่าว กองทัพปฏิบัติตามจุดยืนเดิมมาโดยตลอดคือไม่ทำร้ายประชาชน มีหน้าที่ทำให้สถานการณ์บ้านเมืองเกิดความเรียบร้อย ไม่เป็นฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง ปฏิบัติตามบทบาทของกองทัพที่ต้องสนับสนุนการบริหารราชการของรัฐ และในช่วงต่อไปกองทัพจะใช้กลไกที่มีอยู่ในการสร้างความเข้าใจ สร้างความรัก ความสามัคคี ตามนโยบายปรองดองของรัฐบาล เพื่อให้สังคมไทยกลับคืนสู่ความสงบสุขอย่างยั่งยืนตลอดไป
เมื่อ ถามว่า ประเด็น 6 ศพ ที่วัดปทุมวนาราม ยังมีข้อถกเถียงว่าทหารหรือกลุ่มก่อการร้ายเป็นคนสังหาร พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เราชี้แจงแล้วว่า ในเวลานั้นอยู่ที่ใด อยากจะบอกสื่อมวลชนว่าอย่าไปตามกระแส สื่อจะต้องดูข้อเท็จจริง ถ้าถามเรื่องกระแสตนคงไม่สามารถที่จะตอบได้ แต่ถ้าให้พูดตามข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่เขายืนยันว่าในช่วงเวลานั้นไม่ได้ อยู่ตรงนั้น และตรวจสอบแล้วว่าไม่มีใครใช้อาวุธกับประชาชนนั้นคือข้อเท็จจริง
--------------------------------------
พยาน
20 พ.ค. - นางชวนพร ชัยมงคล อายุ 55 ปี จ.เชียงใหม่ เล่าถึงนาทีหนีตายเข้าไปอาศัยในวัดปทุมวนาราม ท่ามกลางวงล้อมของหมอกควันและเพลิงและกระสุนปืนที่ดังอย่างต่อเนื่องพร้อม กับผู้ชุมนุมหลายพันคนและอีก 6 ศพถูกยิงเสียชีวิตห่อด้วยเสื่อเรียงอยู่ในวัด ว่า "ทุกคนกลับบ้านด้วยความเจ็บใจเพราะว่าญาติพี่น้องร่วมต่อสู้ถูกยิง ถูกลากศพไปต่อหน้าต่อตา ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะมาเจอแบบนี้ เป็นมนุษย์ขี้เหม็นเหมือนกัน แต่ถ้าขี้หอมก็ยกให้อีกระดับหนึ่ง ฉะนั้นต้องคิดว่าคุณ คือ มนุษย์เหมือนกัน
สาวใหญ่เมือง เชียงใหม่ยังบอกอีกว่า ขณะที่พวกเราหนีเขาวัดแล้วไปนั่งไหว้พระอยู่คิดว่าถ้าจะมายิงกันตอนไหว้พระ ก็ไม่เป็นไร ที่ตรงนั้นมีแต่เด็ก ผู้หญิง เต็มไปหมด
"ถ้า ต่อสู้ซึ่งหน้าเราต้านไหว แต่เขาเอาเปรียบเรา ไปซุ่มยิงจากข้างบน แบบนี้มันหมารอบกัด ต้องลงมาแล้วสู้กันซึ่งหน้าตัวต่อตัวเราจับมัดจับมัดดีดหำได้สบาย แต่เราไม่ฆ่าเพราะคนไทยด้วยกัน แต่เขามาตั้งใจฆ่าเรา ถ้าใครที่รับฟังมาจากที่ไหนก็ให้รู้ว่าเราคนไทยด้วยกัน ไม่ใช่ว่าเสื้อแดงต้องไปฆ่าเขา แค่จับเปลื้องผ้าก็ทำอะไรเราไม่ได้แล้ว แต่นี้มาฆ่าเราต้องนึกบ้าง ทำได้อย่างไรกับคนไม่มีทางสู้"
นางชฎาทาน ธันวาภักดี ชาวจ.นนทบุรี อายุ 55 ปี อาชีพค้าขาย กำลังหอบหิ้วสัมภาระที่ขนกลับมาจากราชประสงค์เพื่อเดินทางกลับบ้าน "เขา ใจร้ายมาก ฆ่าเราเหมือนหมูเหมือนหมา เหมือนเราไม่ใช่คน ยิงลงมาจากรางรถไฟฟ้ามีคนตาย 6 ศพ นอนอยู่ในวัดยังไม่ได้ฉีดยาให้ศพ น่าอนาถใจมาก ไม่คิดเลยว่าจะยิงเรา นัดเดียวคาที่หมด เห็นคนเชียงรายมากัน 8 ตาย 5 กระสุนเข้าหูซ้ายทะลุออกหูขวา"
นางคำสอน สมพงษ์ อายุ 57 ปี ชาวจ.หนองคาย นั่งรวมกลุ่มอยู่กับเพื่อน 3 คน รอเดินทางกลับบ้านที่สถานีขนส่งหมอชิต บอกเล่าเหตุการณ์ในวันที่ราชประสงค์มืดมิดพร้อมกับท่าทางที่ตื่นกลัว ว่า ลูกระเบิดลงมา พากันวิ่งเข้าวัดปทุมวนาราม เจ้าอาวาสดีมากให้พวกเราพักพิง
"กลัว ก็กลัวแต่สู้ ช่วยๆกัน ระเบิดโยนมาไม่ถูกพวกเราก็ถูกคนอื่น ลูกปืนยิงมาไม่ถูกเราก็ถูกคนอื่น การ์ดผู้ชายรับปืนรับระเบิดแทนผู้หญิงหมด ตายเยอะหนีไม่ทันทั้งคนแก่และเด็ก แล้วยังยิงฝรั่งที่มาทำข่าวอยู่กินกับพวกเรา แล้วยังจะมาหาว่าเป็นพวกผู้ก่อการร้ายยิงอีก มันโหดร้ายแค่ไหนรัฐบาลนี้ จะเอาเราไปประหารก็เชิญเพราะพูดความจริง เพราะรัฐบาลทำได้ทุกอย่าง" หญิงชาวหนองคายพูดอย่างไม่กลัวความผิดและภัยถึงตัว
นายสุชาติ พรั่งพรหม นปช.จันทบุรี กล่าวย้ำถึงภาพที่เห็นและเสียงที่ได้ยิน ว่า "เห็น ทหารยิงประชาชนตอนนั้นพักอยู่ที่วัดปทุมวนารามเห็นศพอยู่ในวัด 6 ศพ บาดเจ็บอีกประมาณ 10 คน ยิงพยาบาล(อาสาสมัคร)ในวัดที่กำลังทำแผลให้กับคนเจ็บ ก่อนยิงยังด่าพยาบาลอีกว่าอีเสื้อแดงมึงเก่งนักเหรอแล้วก็ยิงเลย เป็นทหารแก่แล้วมีผมหงอก "
"วสันต์"กับศพ"เกด" คลิกฟังเสียง
นายวสันต์ สายรัศมี หรือ เก่ง อาสาสมัครกู้ภัย ผู้สูญเสียเพื่อนร่วมทีมที่กลายเป็นศพ 3 ราย ถูกยิงเสียชีวิตในวัดปทุมวนาราม เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ขณะที่กำลังช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในเต็นท์พยาบาล ตั้งคำถามว่า "กู้ภัยไม่เกี่ยวข้องทำไมถึงถูกเรียกเข้าไปพบ ศอฉ. " นี่เป็นคำถามที่ นายวสันต์ ถามตัวเองและเป็นเหตุผลที่ไม่ยอมเข้าไปพบศอฉ.แต่ยอมใช้ชีวิตแบบหลบๆซ่อนๆ
"ผม พร้อมที่จะไปเป็นพยานพูดถึงสิ่งที่ เห็นและผมมีหลักฐานที่จะแสดงให้ทุกคนเห็น ว่า สิ่งที่รัฐบาลทำกับประชาชนมากแค่ไหน กู้ชีพที่เสียชีวิต 5 คน รัฐบาลยังไม่ได้ออกมาพูดอะไรเลย ผมมีทั้งภาพถ่าย คลิปวิดีโอ ที่เก็บรวบรวมจากชาวบ้านช่างภาพที่อยู่ในเหตุการณ์ว่าทหารยิงหรือไม่ หากวันหนึ่งผมเป็นอะไรไปข้อมูลที่ผมมีได้ฝากไว้กับเพื่อนที่ไว้ใจได้และ พร้อมที่จะออกมาต่อสู้แทนผม เพื่อจะนำความจริงออกมาให้ทุกคนเห็นได้ "
"บ่าย 5 โมงกว่า เริ่มมีเสียงปืนดังเกิดขึ้นตั้งแต่ตรงข้างสยามพารากอนเริ่มมีเสียงปืนดังเข้ามาบริเวณวัด การยิงของทหาร คือ กราดยิงเข้ามาเรื่อยๆไม่มีคำว่าหยุดยิงลงมาจากรางรถไฟฟ้า บีทีเอส ชั้น 2 ภาพที่ประชาชนส่วนมากมองขึ้นไป คือ "เห็นทหารยืนอยู่ข้างบนมีการกราดยิงมาใส่ประชาชนข้างล่างที่ไม่มีแม้แต่ อาวุธมีเพียงเสื้อผ้า หมอน น้ำดื่ม ที่ใช้ประทังชีวิต"
--------------------------------------
ผู้บาดเจ็บ
28 พ.ค. นายกิตติชัย แข็งขัน ชาวขอนแก่น ถูกยิงได้รับบาดเจ็บเกิดเหตุที่วัดปทุมวนาราม กล่าวว่า "ผมพูดในสิ่งที่ตัวเองประสบมาเห็นมากับตาถ้าไม่เห็นแบบนี้ก็พูดไม่ได้"
"ผม มาจากทางศาลาแดงมาเป็นกลุ่มสุดท้ายพอดีกับเวทีสลายหมดแล้ว การ์ดก็ให้วิ่งเข้าไปในวัด พอไปถึงผมก็พักผ่อนนอนเล่นกันอยู่ตั้งนานถึงได้ยินเสียงปืนดังมาอีก จึงเข้าไปหลบใต้ท้องรถ ตอนนั้นเป็นเวลาเกือบ 1 ทุ่ม เขายืนอยู่บนทางรถไฟฟ้ายิงเข้ามาในวัดต่างคนต่างหลบกัน ผมโดนยิงข้างหลังกับมือ พวกเราไปหลบอยู่ใต้ท้องรถ 5-6 คน
ตอน ที่ผมโดนยิงทหารก็ให้ออกมาจากใต้ ท้องรถ เขายิงมาจากบนสะพานรถไฟฟ้า ผงกหัวขึ้นไม่ได้เลย พอโดนลูกปืน มันร้องไห้ออกมา แต่ไม่มีใครออกไป พอผมโดนยิง ผมบอกว่ายอมแล้วๆมันก็ยิงใส่มืออีก มันโกหกบอกให้ออกมายิง แต่ผมไม่ไหวแล้วเลือดออกเยอะ พอออกมามันบอกให้ผมถอดเสื้อออกแล้วยกมือขึ้น แล้ววิ่งไป ผมก็วิ่งไปหาพยาบาลทำแผลให้ ผมยืนหันหน้าเห็นทหารเขาเล็งมาใส่ผม แต่ตอนนั้นเขาไม่ยิงใส่แล้ว เพราะเห็นว่าผมถูกยิง บอกให้ถอดเสื้อ ยกมือขึ้น ผมก็ยกมือขึ้นสองข้างแล้วก็วิ่งไปเลย" นายกิตติชัยกล่าวและยืนยันอีกครั้งว่า
"ผม เห็นเขายิง ผมยืนยันไม่มีใครหรอกนอกจากทหารใส่ชุดพรางใส่หมวก เขาก็ตะโกนให้ผมออก ผมก็ตะโกนออกแล้วครับ ผมก็บอกยอมแล้วครับเห็นยืนเล็งใส่ผมอยู่ ถ้ามันยิงตอนผมถอดเสื้อคงตายแล้ว แต่มันก็บอกให้ผมวิ่ง ผมก็วิ่งไปหาพยาบาลไปอ่อนแรงตรงนั้น พอทำแผลใกล้เสร็จห้ามเลือดเขาก็ยิงมาใส่หลายนัด โดนฝรั่งที่กำลังถ่ายรูปผมอยู่ จากนั้นผมก็สลบไปเลย"
ดีเอสไอ
16 พ.ย. - พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายการเสียชีวิต 89 ศพ ชี้แจงกรณีส่งสำนวนคดีผู้เสียชีวิตที่วัดปทุมฯให้สตช. ชันสูตรพลิกศพใหม่เพียง 3 ศพว่า เนื่องจากทั้ง 6 ศพ ไม่ได้เสียชีวิตในคราวเดียวกัน และมีการเคลื่อนย้ายศพด้วย ซึ่งการปะทะก็มีทั้งกองกำลังไม่ทราบฝ่าย และฝ่ายเจ้าพนักงาน ฝ่ายความมั่นคง ซึ่ง จากการชันสูตรศพพบพบรูกระสุน คราบตะกั่ว ทองแดง โดย 5 ใน 6 ศพ พบกระสุนฝังใน จากการที่ดีเอสไอร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณราง รถไฟฟ้าบีทีเอสซึ่งมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่บางส่วนไว้ข้างบนและมีการใช้ อาวุธปืน จึงสรุปได้ว่าอาจจะเกิดจากการที่มีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้อง
พ.ต.อ. ณรัชต์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่แยกออกมาแค่ 3 ศพนั้น เนื่องจากผลการตรวจพิสูจน์ปรากฏว่าบาดแผลกระสุนปืน วิถีถูกยิงเข้าจากบนลงล่าง คือถูกยิงจากที่สูง นอกจากนี้ในการตรวจที่เกิดเหตุร่วมกับนิติวิทยาศาสตร์หลังเกิดเหตุนาน 2 เดือน พบปลอกกระสุน 2 ปลอกและกระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 นัด ขณะที่ฝ่ายทหารก็ยอมรับว่ามีการส่งกำลังทหารพร้อมอาวุธปืนเข้าไปประจำจุด ดูแลบริเวณรางรถไฟฟ้าจำนวน 8 นาย เช่นเดียวกับกรณีของพลทหารณรงค์ฤทธิ์ สาระ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าอาจเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้า หน้าที่รัฐ ดังนั้นจึงต้องส่งสำนวนไปดำเนินการตามป.วิอาญามาตรา 150
"เมื่อ เป็นการเสียชีวิตที่ผิดธรรมชาติจะต้องมีการชันสูตรโดยมีเจ้า หน้าที่ท้องที่ต้องตรวจสอบร่วมกับงานนิติเวช แต่หากเป็นกรณีที่อ้างว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้อง ต้องมีพนักงานฝ่ายปกครองและพนักงานอัยการร่วมตรวจสอบเพิ่มเติมให้เป็นไปตาม กฎหมายป.วิอาญามาตรา 150 เพื่อให้การดำเนินคดีมีความโปร่งใสมากขึ้น" พ.ต.อ.ณรัชต์
--------------------------------------
10 ธ.ค. - นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์สว่า ดีเอสไอได้สรุปผลการสอบสวนเบื้องต้นและส่งรายงานดังกล่าวไปยังเจ้าหน้าที่ ตำรวจ แต่ยังไม่ได้เปิดเผยเนื้อหาของผลการสอบสวนเหล่านั้นต่อสาธารณะ
"รายงานการสอบสวนถือเป็นประเด็นอ่อนไหวที่จะพูดถึงหรือยืนยันว่ารายงานชิ้นนั้นมีความถูกต้องจริงหรือไม่" นายธาริตกล่าวและว่า "นี่เป็นความลับทางราชการ ดังนั้น การยืนยันว่ารายงานที่ถูกจัดส่งไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นสิ่งถูกต้อง จึงอาจส่งผลกระทบต่อสิทธิของบุคคล ซึ่งมีรายชื่อปรากฏอยู่ในรายงานดังกล่าว"
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ตอบคำถามรอยเตอร์สเกี่ยวกับเอกสารที่รั่วไหลออกมาดังกล่าว โดยไม่ได้ปฏิเสธว่าเอกสารเหล่านี้ไม่ใช่เอกสารจริง แต่กล่าวว่า การสอบสวนยังไม่สมบูรณ์และกำลังพยายามเร่งรัดกระบวนการให้รวดเร็วขึ้น
"ขั้น ตอนต่อไปจะเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางด้านศาลยุติธรรม ดังนั้น เราจึงไม่สามารถมีปฏิกิริยาโต้ตอบกับข้อมูลที่ยังไม่สมบูรณ์" นายกรัฐมนตรีกล่าว
--------------------------------------
รายงาน ข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ว่าสถาบันนิติเวชวิทยา (นต.) ตร. โดย พ.ต.อ.นพ. พรชัย สุธีรคุณ รอง ผบก.นต. ได้ส่งรายงานผลการชันสูตรพลิกศพของผู้เสียชีวิตภายในวัดปทุมวนาราม จำนวน 6 ศพ เมื่อ วันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมาให้กับพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน โดยระบุว่า ศพที่หนึ่ง ผู้ตายชื่อ นายวิชัย มั่นแพ อายุ 61 ปี มีบาดแผลบริเวณผิวหนังทะลุบริเวณต้น แขนขวาด้านนอก บาดแผลผิวหนังทะลุต้นแขนขวา และบาดแผลบริเวณทรวงอกด้านขวา สันนิษฐานกระสุนทะลุปอดขวา กระบังลม ตับ ไตขวา ขั้วยึดลำไส้ พบเศษทองแดง 2 ชิ้นบริเวณขั้นยึดลำไส้ ทิศทางจากขวาไปซ้าย หน้าไปหลัง และบนลงล่าง ความเห็นเพิ่มเติมถูกยิง 1 นัด ระยะเกินมือเอื้อม สาเหตุการตาย กระสุนทำลายปอดตับ
ศพที่ 2 นายอัฐชัย ชุมจันทร์ อายุ 28 ปี มีบาดแผลผิวหนังทะลุบริเวณหลังด้านซ้าย บาดแผลผิวหนังทะลุบริเวณทรวงอกด้านซ้ายส่วนบน กระสุนตัดกระดูกซี่โครงด้านซ้ายซี่ที่ 3 ทะลุปอดซ้าย ทิศทางจากหลังไปหน้าแนวตรง ความเห็นเพิ่มเติม ถูกยิง 1 นัดระยะเกินมือเอื้อม สาเหตุการตาย กระสุนทำลายปอด
ศพที่ 3 นายมงคล เข็มทอง อายุ 36 ปี พบบาดแผลฉีกขาดตื้นๆ รูวงกลมบริเวณต้นแขนซ้าย 2 แห่ง พบบาดแผลผิวหนังทะลุบริเวณทรวงอกด้านซ้าย กระสุนตัดกระดูกซี่โครงด้านหน้าซี่ที่ 2-3 กระดูกกลางอก ทะลุปอดซ้าย หัวใจ ปอดขวา กระบังลมตับ พบเศษทองแดงในเสื้อ เศษตะกั่วเล็กๆ ในหัวใจและปอด ทิศทางจากซ้ายไปขวา หน้าไปหลัง และบนลงล่าง สาเหตุการตาย กระสุนทำลาย หัวใจ ปอด ตับ
ศพที่ 4 นายสุกัน ศรีรักษา อายุ 31 ปี มีบาดแผลทะลุผิวหนังถึง 9 แห่ง โดยบาดแผลที่ 1 กระสุนทะลุซี่โครงซี่ที่ 2 ด้านซ้าย ทะลุปอดซ้าย ทะลุเยื้อหุ้มหัวใจ และกล้ามเนื้อหัวใจฉีกขาด พบโลหะคล้ายหัวกระสุนปืนหุ้มทองแดง 1 ชิ้น ค้างอยู่ที่เนื้อชายโครงด้านขวา ไม่ทะลุออกทิศทางจากซ้ายไปขวา บนลงล่าง หลังไปหน้าเล็กน้อย สาเหตุการตาย ปอดคั่งเลือดทั่วไป กล้ามเนื้อหัวใจฉีกขาด ตับคั่งเลือด เสียโลหิตเป็นจำนวนมาก
ศพที่ 5 นายอัครเดช ขันแก้ว อายุ 22 ปี (ปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่พยาบาลอาสา) ตรวจพบบาดแผลทะลุผิวหนัง 7 แห่ง พบรอยช้ำใต้หนังศีรษะบริเวณท้ายทอยด้านซ้าย สมองพบเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นนอก กระสุนทะลุกระดูกกรามด้านขวาหัก กระดูกโหนกแก้มขวาแตก พบเศษตะกั่วในช่องปากและฐานกะโหลกศีรษะ และพบเศษตะกั่วบริเวณกระดูกก้นกบ สาเหตุการตายถูกยิง 2 นัด ระยะเกินมือเอื้อม เลือดออกใต้เยื้อหุ้มสมองชั้นนอก เนื้อสมองช้ำ จากการถูกแรงกระแทก (กระสุนทะลุช่องปาก)
ศพที่ 6 น.ส.กมนเกด อัดฮาด อายุ 25 ปี (อาสาสมัครพยาบาล) มีบาดแผลถูกยิงทะลุผิวหนังมากถึง 10 แห่ง โดย บาดแผลที่ 1 กระสุนถูกเข้าที่หลังผ่านขึ้นด้านบนผ่านแนว ลำคอหลังทะลุผ่านกะโหลกศีรษะซีกซ้าย ทะลุสมองน้อยและสมองใหญ่ พบชิ้นส่วนโลหะคล้ายหัวกระสุนหุ้มทองแดง 1 ชิ้น ค้างที่กะโหลกด้านขวา ทิศทางจากล่างขึ้นบน หลังไปหน้า ขวาไปซ้ายเล็กน้อย ลักษณะหมอบลงกับพื้น หน้าหันลงพื้นดิน บาดแผลที่ 2-4 ถูกยิงเข้าบริเวณอก บาดแผลที่ 5-10 ถูกยิงบริเวณแขนและขวา ลักษณะถูกระดมยิง สาเหตุการตายกระสุนทะลุหลังเข้าไปทำลายสมอง ซึ่งแพทย์ผู้ตรวจยังไม่สามารถระบุได้ว่าถูกยิงจากบนลงล่างหรือไม่ แต่จากการสันนิษฐานเชื่อว่า น.ส.กมนเกด หมอบหน้าแนบพื้น ถูกระดมยิงจากด้านหลัง ซึ่งการตรวจสอบที่แน่ชัดต้องมีพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุมาประกอบด้วย เพราะการจำลองใช้เลเซอร์มาวางแนววิถีกระสุนก็ทำไม่ได้ ในกรณีนี้เนื่อง จากหัวกระสุนไปถูกกระดูกและกระดอนไปมาทำให้ร่างกายเสียหายมากจนไม่สามารถ จำลองแนวการยิงได้อย่างแน่ชัด
---------------------------------------
อีเมล : iyacoupt@hotmail.com
http://www.facebook.com/profile.php?id=100001242647508#!/profile.php?id=100001242647508