ที่มา ข่าวสด
เหล็กใน
มันฯ มือเสือ
น่าจะเป็นผลสะเทือนจากโพลสำรวจความคิดเห็นคนกรุงเทพฯ ที่ระบุพรรคเพื่อไทยทำคะแนน ทิ้งห่างพรรคประชาธิปัตย์หลายช่วงตัว
ปากบอกไม่หวั่นไหว แต่ก็มีข่าวพรรคประชาธิปัตย์ต้องรีบปรับยุทธศาสตร์หาเสียงขนานใหญ่ เพื่อหาทางหยุดกระแส 'ขาลง' นี้ให้ได้
โดยเฉพาะเขต กทม. ที่ไม่เพียงเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรค แต่ยังเป็นเครดิตของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตส.ส.กทม.อีกด้วย
จากเดิมที่เน้นต่อสู้ด้วยนโยบาย แต่ปรากฏว่าไม่เวิร์ก เพราะเรื่องนโยบายการทำงานนั้น เป็นอะไรที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ถนัดเอาเลยจริงๆ
อย่างแคมเปญ 'วันแรกทำได้ทันที' ที่วันนี้แม้แต่นายอภิสิทธิ์ เองก็ดูเหมือนจะลืมเลือนไปแล้ว เวลาไปหาเสียงที่ไหนก็ไม่เห็นพูดถึง
พรรคประชาธิปัตย์นั้นเชื่อนักหนาว่า สาเหตุที่คะแนนของพรรคในกทม.ตกต่ำ เพราะคนกรุงยังซึมซับวาทกรรม 'เผาบ้านเผาเมือง' ไม่มากพอ
ด้านหนึ่งจึงมอบหมายให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ พูดตอกย้ำวาทกรรมดังกล่าววันละ 3 เวลาหลังอาหาร
ด้านหนึ่งให้เป็นหน้าที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เขียนบันทึกจากใจผ่านสื่อเฟซบุ๊ก เนื้อหาชี้แจงเหตุการณ์เดือนเม.ย.-พ.ค.2553
ซัดกระหน่ำ 'ทักษิณ-คนชุดดำ' คือต้นเหตุความตาย 91 ศพ
ด้านหนึ่งก็แตะมือกับกองทัพ ขอแรง 'ไก่อู' มาช่วยทำหน้าที่โฆษกพรรคแทน 'หมอบุรณัชย์' กับ 'เทพไท' เป็นการชั่วคราว
(แต่ดันไปเอาบทกลอนของนเรศ นโรปกรณ์ มาท่องแล้วบอกว่าเป็นบทพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 6 แทนที่จะเท่ เลยกลายเป็นหน้าแตก)
จากการปรับยุทธศาสตร์หาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์
ผลตอบรับที่น่าสังเกต คือมีคนออกมาชูป้ายถาม'ใครสั่งฆ่าประชาชน' ใส่ขบวนหาเสียงของนายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ มากกว่าเดิม
ท่ามกลางกระแสดีดกลับเช่นนี้
การ ที่พรรคประชาธิปัตย์ประกาศย้ายเวทีปราศรัยใหญ่ วันที่ 23 มิ.ย. จากลานคนเมืองมาเป็นบริเวณแยกราชประสงค์ จุดศูนย์รวมเหตุการณ์ 19 พ.ค.2553
เลยทำให้คนในสังคมจำนวนหนึ่งตั้งข้อสงสัย พรรคประชาธิปัตย์ต้องการทำอะไรกันแน่?
ระหว่าง ที่สงสัยก็มีเสียงเตือนไปถึงคนเสื้อแดง ให้ระวังแผนยั่วอารมณ์ของฝ่ายตรงข้าม รวมถึงการสร้างสถานการณ์ความรุนแรง เพื่อผลประโยชน์ในคะแนนเสียง
เพราะคนเราลอง 'หน้ามืด' ขึ้นมา ทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น