ที่มา มติชน
วัน ที่28ก.ค. สืบเนื่องจากวันที่ 1 สิงหาคม ของทุกปี เป็น "วันสตรีไทย" ในการนี้ "สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจ จากการสอบถามความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ หัวข้อ "สตรียุคใหม่ พัฒนาก้าวไกล ห่วงใยสุขภาพ รักษาสิ่งแวดล้อม" ร่วมมือกับ"สภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์" และสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 พร้อมกับการเปิดรับความคิดเห็นผ่านข้อความทางโทรศัพท์มือถือ (เอสเอ็มเอส) จำนวนทั้งสิ้น 1,428 คน ระหว่างวันที่ 20 ก.ค. - 27 ก.ค. 54 สรุปผลได้ดังนี้
ต่อความเห็น "ผู้หญิงไทย" กับ "ความเป็นผู้นำ" ในปัจจุบัน
อันดับ 1 ร้อยละ30.26 มองว่า ชาย-หญิง มีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นชายหรือเป็นหญิงก็เป็นผู้นำหรือผู้ บริหารระดับแนวหน้าได้ อันดับ 2 ร้อยละ28.89 เห็นว่า สังคมปัจจุบัน ผู้หญิงได้รับการยอมรับมากขึ้น มีความรู้ความสามารถ มีความมั่นใจ กล้าแสดงออก และอับดับ 3 ร้อยละ16.78 มองผู้หญิงไทยมีบทบาทการเป็นผู้นำในสังคมอย่างชัดเจนมากขึ้น เช่น งานธุรกิจ งานราชการหรือแม้กระทั่งงานการเมือง
อันดับ 1 | ชาย-หญิง มีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นชายหรือเป็นหญิงก็เป็นผู้นำหรือผู้บริหารระดับแนวหน้าได้ | 30.26% |
อันดับ 2 | สังคมปัจจุบัน ผู้หญิงได้รับการยอมรับมากขึ้น/มีความรู้ความสามารถ มีความมั่นใจ กล้าแสดงออก | 28.89% |
อันดับ 3 | ผู้หญิงไทยมีบทบาทการเป็นผู้นำในสังคมอย่างชัดเจนมากขึ้น เช่น งานธุรกิจ งานราชการหรือแม้กระทั่งงานการเมือง | 16.78% |
อันดับ 4 | ผู้หญิง มีความละเอียดรอบคอบ ประนีประนอม คุณลักษณะเหล่านี้อาจช่วยให้บรรยากาศการทำงานดีขึ้น การขอความร่วมมือต่าง ๆ อาจได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี | 13.27% |
อันดับ 5 | อยากให้ผู้หญิงได้แสดงศักยภาพของความเป็นผู้นำ เพื่อจะได้เป็นต้นแบบหรือแบบอย่างให้กับผู้หญิงคนอื่น ๆ ต่อไป | 10.80% |
ด้าน "การพัฒนาอาชีพ" ของผู้หญิงไทยในปัจจุบัน
อันดับ 1 ร้อยละ 31.34 ต้องการให้ทุกภาคส่วนโดยเฉพาะภาครัฐ มีการส่งเสริมสนับสนุนการฝึกทักษะ พัฒนาอาชีพสำหรับผู้หญิง อันดับ 2 ร้อยละ27.25 อยากให้มีการเปิดรับและให้โอกาสผู้หญิงได้แสดงความสามารถในอาชีพต่างๆมาก ขึ้น และอันดับ 3 ร้อยละ15.64 อยากให้มีการสร้างแรงจูงใจ ในการพัฒนางาน พัฒนาวิชาชีพ เช่นการให้รางวัล ประกาศ ยกย่องเกียรติคุณ
อันดับ 1 | ทุกภาคส่วนโดยเฉพาะภาครัฐ ให้มีการส่งเสริมสนับสนุนการฝึกทักษะ พัฒนาอาชีพสำหรับผู้หญิง | 31.34% |
อันดับ 2 | การเปิดรับและให้โอกาสผู้หญิงได้แสดงความสามารถในอาชีพต่างๆมากขึ้น | 27.25% |
อันดับ 3 | การสร้างแรงจูงใจ ในการพัฒนางาน พัฒนาวิชาชีพ เช่นการให้รางวัล ประกาศ ยกย่องเกียรติคุณ | 15.64% |
อันดับ 4 | การออกกฎระเบียบ ข้อบังคับ สำหรับผู้หญิง ในเรื่องของความปลอดภัยจากการทำงาน และสวัสดิการในเรื่องต่าง ๆ ให้ครอบคลุม | 13.19% |
อันดับ 5 | การผลักดันสนับสนุนอาชีพที่มีความโดดเด่นหรือเป็นเอกลักษณ์ของผู้หญิงไทยให้ไป สู่สากล และเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก เช่นงานฝีมือ เย็บปักถักร้อย เป็นต้น | 12.58% |
"การมีสุขภาพที่ดี" และ "วิธีดูแลสุขภาพ" ของผู้หญิงไทยในปัจจุบัน
อันดับ 1 ร้อยละ28.72 ผู้หญิงไทยให้ความสำคัญและดูแลใส่ใจสุขภาพ การมีสุขภาพที่ดีจะส่งผลถึงอารมณ์ ร่างกาย และสติปัญญาหรือให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงาน อันดับ 2 ร้อยละ 23.31 นึกถึงการจัดสรรเวลาให้เหมาะสมทั้งเรื่องการทำงาน การพักผ่อน การออกกำลังกาย และบริโภคอย่างเหมาะสม และอันดับ 3 ร้อยละ 20.16 ใส่ใจการตรวจสุขภาพประจำปี/สังเกตอาการผิดปกติของร่างกาย หากพบว่ามีอาการผิดปกติควรรีบไปพบแพทย์
อันดับ 1 | การให้ความสำคัญและดูแลใส่ใจสุขภาพ/การมีสุขภาพที่ดีจะส่งผลถึงอารมณ์ ร่างกาย และสติปัญญา/เกิดประสิทธิภาพในการทำงาน | 28.72% |
อันดับ 2 | การจัดสรรเวลาให้เหมาะสมทั้งเรื่องการทำงาน การพักผ่อน การออกกำลังกาย และบริโภคอย่างเหมาะสม | 23.31% |
อันดับ 3 | การตรวจสุขภาพประจำปี/สังเกตอาการผิดปกติของร่างกาย หากพบว่ามีอาการผิดปกติควรรีบไปพบแพทย์ | 20.16% |
อันดับ 4 | การกำหนดเมนู/การเลือกอาหาร ที่มีประโยชน์ ถูกหลักอนามัย และเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน | 18.54% |
อันดับ 5 | การติดตามข่าวสารความรู้เกี่ยวกับการป้องกันและดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้แข็งแรงอยู่เป็นประจำ | 9.27% |
"การพัฒนาศักยภาพ" และความสามารถของผู้หญิงในปัจจุบันให้เกิดประสิทธิภาพ
อันดับ 1 ร้อยละ30.63 ผู้หญิงยุคใหม่จะต้องมีความกล้า เช่น กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออกหรือการลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง อันดับ 2 ร้อยละ26.07 มีการแสดงออกทางความคิด การพิสูจน์ฝีมือ ความสามารถ ของตนเองสู่สากลมากขึ้น และอันดับ 3 ร้อยละ19.94 ต้องหมั่นศึกษาหาความรู้ เข้าอบรมสัมมนา ติดตามข่าวสารอยู่ตลอดเวลา เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาตนเอง
การมีส่วนร่วมใน "การรักษาสิ่งแวดล้อม" ของผู้หญิงไทย
อันดับ 1 ร้อยละ 43.26 มองว่าต้องเริ่มจากตัวเองก่อน โดยปฏิบัติกับที่บ้านหรือที่ทำงานเพราะเป็นสิ่งแวดล้อม ที่อยู่ใกล้ตัวมากที่สุด อันดับ 2 ร้อยละ 18.87 มีการชักชวนคนใกล้ชิด คนในครอบครัวหรือเพื่อนที่ทำงานให้ดูแลใส่ใจสิ่งแวดล้อมพร้อมให้คำแนะนำหรือ อธิบายอย่างถูกต้อง อันดับ 3 มีการเลือกใช้วัสดุสิ่งของที่ไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งที่บ้านและใน ที่สาธารณะ