ที่มา ข่าวสด
รายงานพิเศษ
หมายเหตุ- แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือคนเสื้อแดง และนักวิชาการ ได้แสดงความเห็นต่อกรณีกกต.สั่งให้แขวน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช. ไว้ก่อน โดยให้อนุกรรมการไต่สวนไปตรวจสอบสถานะการเป็นสมาชิกภาพพรรคเพื่อไทยของนาย จตุพร ก่อนนำเสนอให้ที่ประชุมกกต. พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
ทวี สุรฤทธิกุล / น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล
ทวี สุรฤทธิกุล
อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มสธ.
เข้า ใจว่ากกต.รู้สึกอึดอัด อยากจะผ่องถ่าย ส่งเรื่องให้ศาล รธน.ตีความ เท่าที่ทราบการตีความของศาลรธน.ไม่น่าจะเกิน 30 วัน ในประเด็นเรื่องสมาชิกภาพของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เมื่อผลการตีความออกมาแล้ว กกต.จะยึดตรงนั้นเพื่อออกเป็นมติ
ทั้งนี้ ต้องดูว่าถ้าศาลรธน.ตีความว่า นายจตุพรยังคงมีสมาชิกภาพการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย กกต.ก็ต้องรับรองให้เป็นส.ส. เนื่องจากกระบวนการขั้นตอนการสมัครครบถ้วน
ถ้าศาลรธน.ตีความว่าสมาชิกภาพเป็นโมฆะ กกต.ต้องถอดถอนนายจตุพร ออกจากการสมัครเป็นส.ส. แล้วเลื่อนบัญชีรายชื่อคนอื่นขึ้นมาแทนที่
แต่ หลายคนมีข้อเคลือบแคลงสงสัยว่า ทำไมกกต.ไม่ตัดสินในเรื่องนี้ตั้งแต่ต้น ซึ่งหลายคนก็เข้าข่ายเดียวกัน สงสัยว่ามีเส้นสนกลในอะไรหรือไม่ในการทำให้เป็นปัญหา มีอำนาจอำมาตย์อะไรมาแทรกแซงหรือไม่ เพื่อเอานายจตุพรเป็นเหยื่อ เป็นแพะถูกบูชายัญ
ส่วนตัวผมมองว่ากรณีของนายจตุพร เป็นเรื่องที่กกต.อยากแสดงพลังเหมือนกันว่าทำได้ ทำให้เกิดความเคารพกกต.บ้าง ซึ่งเป็นเรื่องกระบวนการภายในกกต.เอง โดยใช้นายจตุพรมาเป็นเกมยื้อไปมา ซึ่งผมไม่เชื่อว่าจะมีอำนาจจากที่อื่นมาแทรกแซงกรณีนี้
ดังนั้น ต้องรอดูว่า 1.กกต.จะส่งเรื่องให้ศาลรธน.เมื่อไหร่ และ 2.ศาล รธน.จะตีความออกมาเช่นไร
ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ /พายัพ ปั้นเกตุ
ส่วน ที่อ้างไม่ให้นายจตุพรไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งตามมาตรา 100 (3) ของรัฐธรรมนูญเนื่องจากถูกคุมขังนั้น ต้องถามว่าเป็นการดำเนินการตั้งแต่ต้นหรือไม่ คดีของนายจตุพรเหมือนคนทั่วๆ ไปที่อยู่ระหว่างการสอบสวน ถูกจำคุกโดยไม่ได้รับการประกันตัว
แต่ ไม่ใช่การถูกจำคุกเพราะคำพิพากษาของศาล การอ้างมาตรานี้ ผมจึงไม่แน่ใจว่าเขาให้จำคุกในลักษณะใด ถ้าจำคุกระหว่างสอบสวน ในทางนิตินัยยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ เนื่องจากกระบวนการตัดสินยังไม่เสร็จสิ้นเรียบร้อย
ถ้าตีความกว้างๆ ว่า ติดคุกไม่ว่าลักษณะใดก็หมดสมาชิกภาพ อย่างนั้นก็ลำบาก
ผมสับสนเหมือนหลายคน เราเองรู้สึกว่ามีเกม มีความไม่ปกติ
ส่วน แรงกดดันจากเสื้อแดงนั้น ต้องยอมรับว่า ตอนนี้นปช.ลำบากแล้ว มีอุปสรรค 2 เรื่อง 1.พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยห้ามนปช.ไปกดดันกกต. 2.กลุ่มเสื้อแดงเอง ไม่มีความเป็นปึกแผ่นในเรื่องนี้เพียงพอ เพราะในพรรคและกลุ่มนปช.มีทั้งคนรักคนเกลียดนายจตุพร อาจมีพลังน้อย ผมจึงรู้สึกว่าคนเสื้อแดงไม่เอานายจตุพรมาเป็นเรื่องใหญ่ เพราะคนอื่นๆ ก็ผ่านหมด นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ออกมาแล้ว เขาจะอ้างเหตุมาทำงานในสภา
นาย จตุพร เหมือนถูกลอยแพ ถ้าไปก้าวก่ายมาก พรรคเพื่อไทยอาจถูกมองว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง ว่าแต่คนอื่นใช้อำนาจรัฐก้าวก่ายอำนาจตุลาการ ดังนั้น พรรคเพื่อไทยในฐานะรัฐบาลใหม่ จะต้องระวัง เขาไม่กล้ายั่วยุสังคม มันเป็นภาพลบให้รัฐบาลใหม่ เสื้อแดงคงเคลื่อนไหวลำบาก แต่เชื่อว่าไม่บานปลาย
น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล
ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย
และแกนนำนปช.
ขณะ นี้ยังต้องรอเวลาให้กกต.ได้ทำงานจนกว่าจะครบกรอบเวลา 30 วันจนถึงวันที่ 31 ก.ค.นี้ ที่กกต.จะต้องรับรองผล จึงบอกไม่ได้ว่า นายจตุพรจะได้รับหรือไม่ได้รับการรับรอง เราต้องมองในทางที่ดีว่ายังมีโอกาสที่กกต.จะรับรอง
จากการที่ดิฉัน ได้พูดคุยกับกลุ่มนปช.ที่ได้รับการรับรองเป็นส.ส.บางคน ซึ่งไม่ใช่ความเห็นของแกนนำทั้งหมด เห็นว่าเรื่องที่นายจตุพรถูกร้องสามารถชี้แจงได้ และไม่ใช่ประเด็นที่จะไม่ได้รับการรับรอง ดังนั้น ไม่น่าจะมีปัญหา และควรรอดูท่าทีของกกต.ในสุดสัปดาห์นี้ว่าจะออกมาอย่างไร
ส่วนข้อ กังวลว่าอาจมีการเคลื่อนไหวมวลชนหากนายจตุพรไม่ได้รับรองนั้น เท่าที่ทราบยังเงียบๆ ไม่เคลื่อนไหวอะไร แต่อนาคตจะเป็นอย่างไรคงต้องดูกันไป
ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย
และแกนนำนปช.
พวก ผมได้หารือกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ โดยมีฝ่ายกฎหมายร่วมหารือด้วย ได้ข้อสรุป คือ เมื่อพิจารณาตรวจสอบข้อกฎหมายครบถ้วน เห็นตรงกันว่ากกต.ได้ประกาศรับรองนายจตุพร เป็นผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อโดยชอบแล้ว และมีการเลือกตั้งในวันที่ 3 ก.ค. ซึ่งนายจตุพรอยู่ในลำดับที่ 8 เป็นผู้ได้รับการเลือกตั้ง จึงไม่มีช่องกฎหมายใดๆ ที่จะให้อำนาจ กกต.แขวนค้างเอาไว้
โดยเฉพาะถ้าจะส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ จะต้องรับรองความเป็นส.ส.ก่อน แล้วจึงยื่นตีความยังศาลรัฐธรรมนูญ
เรา เคารพการทำหน้าที่ของกกต. เมื่อกกต.มีกรอบระยะเวลาดำเนินการอยู่ก็สามารถทำได้ กลุ่มนปช.จะไม่มีการชุมนุมเรียกร้องกดดันใดๆ แต่พบข้อเท็จจริงโดยเทียบเคียงกรณีนายจตุพรกับกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ที่เคยสังกัดพรรคต้นตระกูลไทย ซึ่งพรรคต้นตระกูลไทยถูกยุบ นายชูวิทย์ไปสมัครส.ส.ในนามพรรคชาติไทยในขณะนั้น กกต.ชุดพล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ก็รับรองความเป็นส.ส.ให้ แม้จะมีผู้ร้องว่าสังกัดพรรคชาติไทยไม่ถึง 90 วัน กกต.ก็ไม่ได้แขวน
จาก นั้นส.ส.พรรคไทยรักไทย ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ สุดท้ายศาลรธน.มีมติสอยนายชูวิทย์ จากการเป็นส.ส. ซึ่งเป็นกรณีเดียวกับนายจตุพร ดังนั้นกกต.ต้องปฏิบัติไปแนวทางเดียวกัน แม้จะเป็นคนละชุดก็ตาม
ถ้ามีการเปิดประชุมสภา แต่กกต.ยังไม่มีการรับรองการเป็นส.ส.ให้นายจตุพร ผมจะยื่นเรื่องฟ้องศาลอาญา มาตรา 157 ฐานละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ยืนยันกรณีนายจตุพร เบื้องต้นจะใช้วิธีทางกฎหมายทุกวิถีทาง เพื่อให้นายจตุพร ได้รับความยุติธรรม
พายัพ ปั้นเกตุ
ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช.
แม้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ จะยังไม่ได้รับการรับ รองพร้อมกับเพื่อน แต่ยังมีโอกาส เนื่องจากนางสดศรี สัตยธรรม กกต.ระบุเองว่ายังไม่ตัดสินกรณีนายจตุพร เพราะต้องพิจารณาเอกสารหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติม
ตอนนี้ยังมีเวลาให้ กกต.ได้ทำงาน ดังนั้น เราต้องรอและให้โอกาสเขาทำงานจนกว่าจะครบกำหนดเวลาตามที่กฎหมายกำหนด และหวังว่าจะพิจารณาอย่างเป็นธรรมเหมือนกับทุกฝ่าย
แต่ไม่ว่ากกต.จะ ตัดสินออกมาอย่างไร ชื่อของ จตุพร ยังอยู่ในใจของเราต่อไป ทั้งนี้ มั่นใจว่ามวลชนคนเสื้อแดง จะไม่เคลื่อนไหวที่ทำให้เกิดความเสียหายแน่นอน
จาก การพูดคุยกัน มองว่าเรื่องนี้อาจมีอำนาจพิเศษ ซึ่งมีเจตนาให้เราออกมาเคลื่อนไหวกดดันการทำงานของกกต. และต้องย้ำว่าเรายังไม่ได้พูดคุยถึงการเคลื่อนไหว แต่เมื่อถึงกรอบเวลาที่ต้องพิจารณาตัดสิน จึงจะพูดคุยกันว่าจะทำอย่างไรต่อไป
สาเหตุที่บอกว่าจะยังไม่มีการ เคลื่อนไหว เพราะประชาชนต้องการให้โอกาสรัฐบาลพรรคเพื่อไทย จัดตั้งรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาให้กับประเทศ และที่ผ่านมามวลชนเสื้อแดงเขามีความอดทนกับเหตุการณ์ต่างๆ มานาน ดังนั้น กรณีของนายจตุพรคงอดทนรอได้ เช่นกัน