ที่มา Thai E-News
โดย คุณnirvana
ที่มา บอร์ดนิวสกายไทยแลนด์
ประเด็นในข้อกล่าวหา1. AIS ยึดครองตลาดธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศได้โดยเด็ดขาดแต่ผู้เดียว
ข้อมูลจากรายงานประจำปี 2547 ของ AIS
ข้อสังเกต อัตราส่วนแบ่งการตลาดในปี 2549 ของ AIS ลดลงเมื่อเทียบกับ ปี 2548
ท่านดูส่วนแบ่งการตลาดมือถือ แล้วสรุปความเห็นเองแล้วกัน เพราะมันชัดเจน ท่านจะดุด่า ค.ต.ส. อย่างไร เชิญตามสบายครับ
2. ผู้ประกอบการรายใหม่ก็พบกำแพงภาษีสรรพสามิต 10% มาขวางกั้นทำให้ไม่สามารถเข้ามาแข่งกันโดยเต็มที่ได้
ไม่มีภาษีสรรพสามิต 10% ผู้ประกอบการรายใหม่ก็ต้องจ่าย 20% ของรายได้ (แบบเติมเงิน หรือ Prepaid) และ 25% ของรายได้ (แบบชำระค่าบริการหลังการใช้ หรือ Postpaid)
มีภาษีสรรพสามิต 10% ผู้ประกอบการรายใหม่ก็ต้องจ่าย 10% ของรายได้ (แบบเติมเงิน หรือ Prepaid) และ 15% ของรายได้ (แบบชำระค่าบริการหลังการใช้ หรือ Postpaid)
ไม่เห็นว่ามันจะต่างกันเลย
คตส. คิดได้งัยเนี่ย คิดไม่เหมือนคนเลย
ผู้ที่ขวางกั้นหรือกีดกันผู้ประกอบการรายใหม่น่าจะเป็นปลิง 2 ตัวมากกว่า
น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เคยพูดถึงเรื่องนี้ไว้ว่า
ตัวท่านได้มีโอกาสพบผู้ประกอบการต่างประเทศและคนไทยที่ประสงค์ประกอบกิจการโทรคมนาคมมากมาย ไม่มีใครพูดเลยว่า การที่มีภาษีสรรพามิตจะทำให้เขาลังเลที่จะมาประกอบกิจการโทรคมนาคมในไทย ทุกคนบอกว่าเมื่อไหร่ที่ กทช.เปิดโอกาสให้สามารถขอใบอนุญาตได้เขาจะดำเนินการทันที และทำให้มีการบริการที่มีคุณภาพมากขึ้นและราคาถูกลง ซึ่งวันนี้ก็ได้พิสูจน์แล้วว่า รายใหม่ที่ให้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ เริ่มเห็นแล้วว่าค่าบริการลดลงอย่างมากมาย
คลิ้กที่ภาพด้านล่างเพื่อขยาย หรือคลิ้กอ่านตามลิ้งค์
คลิ้กที่ภาพเพื่อขยายให้ใหญ่
อ่านบทความชุดนี้ในตอนที่ผ่านมา:จะอธิบายเรื่องการยึดทรัพย์ทักษิณให้ชาวบ้านเข้าใจได้อย่างไร?