บทความโดย...ลูกชาวนาไทย
ความขัดแย้งระหว่างคุณจตุพรกับ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี กับ นปช. และคุณจตุพร ในเรื่องการแถลงการณ์จัดตั้ง “กองทัพประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข” ผมถือว่าเป็นการขัดแย้งกันในแนวทางยุทธวิธี ที่จำเป็นต้องมีการถกและการวางบทบาทให้ชัดเจนครับ
พัลลภ เสธ.แดง นั้นมาทีเหลัง ยังไม่มีผลงานอะไร และเข้าหา ท่านทักษิณ เหมือนเข้าหาผู้ใหญ่แล้วจะออกมาบงการชี้นำ นปช. ซึ่งเป็นองค์กรประชาชน ที่มีขบวนการที่ชัดเจน ผมถือว่าเป็นการกระทำเพื่อช่วงชิงการนำ และสร้างความเสียหายให้กับขบวนการประชาชนครับ
ตั้งแต่ เสธ.แดงขึ้นเวที นปช. ที่จันทบุรีแล้ว ผมนอนฟังด้วยความกังวลว่า “ตอนนั้น นปช. สุ่มเสี่ยงเป็นอย่างยิ่ง ที่นำเอา เสธ.แดงขึ้นมา” เพราะเสี่ยงที่จะไปในแนวทางรุนแรง สุดท้ายก็คงไม่ได้อะไรและสร้างความเสียหาย
แต่กระแสของคน "สายเหยี่ยว" ก็รุนแรงมากเหลือเกิน ผมก็ได้แต่คิดในใจว่า เมื่อเลือกหนทางสุ่มเสี่ยง ก็คงต้องจ่ายต้นทุนกันบ้าง ถึงอย่างไร คนเสื้อแดงก็เป็น ขบวนการประชาชนการผิดพลาด และการเรียนรู้คงต้องมีบ้างเป็นธรรมดา หากไม่มีอะไร "เปลี่ยนใจคนเสื้อแดง" ให้หันกลับไปสู่ "ลัทธิซาบซึ้ง" ได้อีกการล้มลง การผิดพลาด ก็คงเป็นแค่บทเรียน คนเสื้อแดงก็คงลุกขึ้นมาได้อีกเหมือนช่วงสงกรานต์เลือด
อย่างมากก็เป็นการเลือกใช้คนและยุทธวิธีที่ผิดพลาดอีกครั้งหนึ่งเท่านั้น แพ้ชนะในสงครามครั้งนี้ไม่ใช่อยู่ที่ "ยุทธวิธี" แต่อยู่ที่ "จิตใจของประชาชน" ว่าจะกลับไป "ซาบซึ้งกลับไปเป็นไพร่เหมือนเดิมได้หรือไม่"
หนทางสุ่มเสี่ยง ก็เหมือนแทงหวย ผิดก็คงแค่เสียเงิน แต่สุดท้ายประเทศไทยยังต้องมีการเลือกตั้งอยู่ต่อไป คนเสื้อแดงก็ยังคงต้องลงคะแนนให้พรรคที่ทำเพื่อประชาธิปไตยอยู่เลือกพรรคเพื่อไทยอยู่ คงไม่มีใครกลับใจไปลงคะแนนให้ "พรรคอำมาตย์สนับสนุน" หรือพรรค "เทพประทาน" แบบ ปชป. ภูมิใจไทย หรือพรรคอื่น ๆ หากยังเป็นอย่างนี้ สุ่มเสี่ยงไปบ้าง คนเสื้อแดงก็คงไม่แพ้แต่อย่างใด
ผมหรือใครจะชอบ เสธ.แดงหรือไม่ ไม่สำคัญ เพราะเขาได้ “ก้าวขึ้นมาสู่เวทีแล้ว” การขัดขวางไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร ก็ให้ประชาชนเรียนรู้กันไปเอง ใครทำอะไรนอกลู่นอกทาง ไม่จริงใจ คนก็จะเสื่อมความนิยมไปเอง เขาก็จะสูญเสียสถานะของการเป็นแกนนำไปในที่สุด ความเป็น “แกนนำ” ใครก็คงแต่งตั้งไม่ได้ หรือถอดถอนไม่ได้ นอกจากประชาชนศรัทธาหรือเสื่อมศรัทธาไปเอง
ในทางการเมืองนั้น เราคงต้องยึดเข็มมุ่งของ นปช. เพราะเป็นกลุ่มที่ทำงานมานาน และพิสูจน์ตัวเองชัดเจนแล้ว ส่วน พัลลภและเสธ.แดงมาทีหลัง แต่พยายามที่ช่วงชิงการนำ วิธีการก็สุ่มเสี่ยง
หากเขาทำตัวเหมือนเดิม คือไม่เข้าไปแทรกแซงยุทธศาสตร์ของ นปช. ก็คงไปด้วยกันได้ แต่หากเขาต้องการสร้างความรุนแรง ก็จะเสียหายต่อคนเสื้อแดงต่อไป
แต่เรื่องนี้คนเสื้อแดงต้องเรียนรู้กันเอาเอง อย่างมากก็หลงทางอีกครั้งหนึ่ง เสียเวลาไปบ้าง คนก็ต้องเรียนรู้
ในสงครามประชาชน ต่างก็ไม่มีประสบการณ์ก็คงต้องเรียนรู้กันไป
สำคัญคือ คนเสื้อแดงผิดพลาดได้ แพ้ได้ ซึ่งก็แค่แพ้การรบครั้งหนึ่ง แต่อำมาตย์นั้นแพ้ไม่ได้ แพ้แล้วไปเลย
หากเรายังรักษาใจไว้ได้ไม่ให้ ซาบซึ้ง เมื่อนั้นเราก็ไม่แพ้ แพ้ชนะของคนเสื้อแดงอยู่ที่ "เราได้ใจที่สว่างแล้ว" มากขึ้นหรือไม่ หากเราได้มากขึ้นและรักษาเอาไว้ได้ไม่ให้กลับไป "มืดอีก" เมื่อนั้นเราก็ยังคงชนะ
เสธ.แดง กับ พัลลภ หากทำตัวเป็น "หน่วยกำบัง"ให้กับคนเสื้อแดง พิสูจน์ตัวเอง ไม่พยายามเปลี่ยนเข็มมุ่งของ นปช. ก็คงไว้ใจต่อไปได้
หากเป็น "ม้าไม้เมืองทรอย" ก็คงเป็นแค่การสร้างบทเรียนให้กับคนเสื้อแดงว่าให้สุขุมรอบคอบอีกครั้ง ก็น่าจะโอเค เป็นม้าไม้ ก็คงสร้างความเสียหายไม่มากนัก
ก็เหมือนกับการปฏิวัติใหญ่ฝรั่งเศส กระแสมันเกิดแล้ว ปัจเจกบุคคล เล่ห์กล กุศโลบายต่างๆ ก็ไม่มีทาง "หยุดการปฏิวัติได้" อย่างมากมวลชนก็เดินขบวนยังไม่ชนะไปอีกครั้งหนึ่ง
แต่วันนั้น พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ไม่มี เวทย์มนต์วิเศษอันใดที่จะทำให้ "ประชาชนฝรั่งเศสปี1789 กลับไปเป็นไพร่ได้อีก" ปี 1789 ไม่สำเร็จ ปีต่อๆ มามันก็เกิดขึ้นจนได้ การปกครองในระบอบเดิมมันไม่อาจอยู่ได้แล้วในสถานการณ์เช่นนั้น
ความขัดแย้งทางการเมืองครั้งนี้ไม่เหมือนกับปี 2516-2519 ที่ตอนนั้นคนเข้าร่วมน้อย เป็นแค่ขบวนการนักศึกษาที่เป็นเด็ก การใช้แผนเล่ห์เพทุบาย อาจทำลายขบวนการนักศึกษาไปได้
แต่วันนี้สภาพมันเหมือนกับ “ก่อนเริ่มปฏิวัติใหญ่ฝรั่งเศส” คนเข้าร่วมเป็นคนหลายล้านคนเป็นคนชั้นรากหญ้าทั้งหมดและคนชั้นกลางก้าวหน้าอื่นๆ ขบวนการใหญ่โตเกินครึ่งประเทศ การแทรกแซงใช่วิธีการแบบเดียวกับ เดือนตุลาคม 2519 นั้นไม่มีประโยชน์แต่อย่างใด การใช้กำลังปราบ ก็ไม่อาจสลายความไม่พอใจของประชาชนไปได้ อย่างมากก็เหมือนสงกรานต์ คือ “คนเสื้อแดงกลับตัวได้และลุกขึ้นมาชกอีกในยกต่อไป และเข็มแข็งขึ้นเรื่อยๆ “จากเงื่อนไขสงคราม ที่แรงขึ้นไม่พอใจมากขึ้น
ฟืนใต้กระทะยังแรงอยู่ ใส่ฟืน (เงื่อนไขปฏิวัติประชาชน) เข้าไปมากยิ่งขึ้น หวังจะให้น้ำแห้งไป ผมเชื่อว่าน้ำจะเดือดแรงและระเบิดในที่สุด
ไม่มีใครกลับซาบซึ้งอีกต่อไปแล้ว