ที่มา Thai E-News
โดย จิตร พลจันทร์
ที่มา คอลัมน์ คมความคิด จิตร พลจันทร์ นิตยสาร Voice of Taksin ฉบับที่ 14
ปักษ์แรก กุมภาพันธ์ 2553
โอ๊ย สะใจๆๆๆๆ สู้มาสามปีฝ่า จิตรเพิ่งจะสะใจเต็มที่อีคราวนี้เอง
เริ่มจากคนชื่อนายทองเปรมที่เมื่อก่อนศักดิ์สิทธิ์นักหนา หมาไม่ให้ไต่ไพร่ไม่ให้ตอม เดี๋ยวนี้เหมือนกองปฏิมูลส่งกลิ่นเหม็นโฉ่แถวสี่เสาเทเวศร์ เพราะหน้าด้านไม่ยอมออกจากบ้านหลวง เรื่องบัดสีบัดเถลิงทางการเมืองถูกถลกออกมาอย่างจะๆ
ธุรกิจท่อน้ำเลี้ยงนายทองเปรม ไม่ว่าไอ้บริษัทใจดำที่หากินด้วยการเลี้ยงไก่เลี้ยงหมูจ้องเอารัดเอาเปรียบเกษตรกรทั่วประเทศอยู่ทุกลมหายใจชั่วๆ ไอ้เสี่ยน้ำเมากับอีเมียที่เกิดมาทำเป็นอย่างเดียวคือเอาลิ้นเลียพื้นแถวๆ วังซะจนสะอาดหมดจดไม่เหลือหลอ หรือไอ้ธนาคารอัปรีย์ที่โกงทุกสิ่งทุกอย่างแล้ววิ่งเอาค่าต๋งไปยื่นสองแขนส่งให้มหาอำมาตย์และโคตรตระกูล ถูกเปิดโปงจนแทบไม่เหลือกางเกงในสีชมพูเอาไว้แลบเล่นกับหนุ่มๆ แถวโรงแรมอิมๆ ปาร์คๆ อะไรนี่แหละ
ตอนนี้มาถึงนายสุรยุทธ์กับเขายายเที่ยง ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าไม่เที่ยง (ธรรม) กันทั้งยายทั้งตา เมื่อก่อนภาพลักษณ์เหลืองอร่ามประหนึ่งทองคำก็ไม่ปาน พอคนเสื้อแดงยกขบวนไปส่องกล้องดูใกล้ๆ ถึงกับผงะ เพราะมันคือเหลืองอุจจาระก้อนเบ้อเริ่มเทิ่ม
แถมไอ้ขบวนการอำมาตย์ชั่ว ยังด้านหน้ากันออกมาปกป้องราวกับว่าขี้ก้อนนั้นมันจะเสริมสถาบันได้หยั่งงั้นแหละ จากนั้นจนบัดนี้ คำว่าองคมนตรีก็สิ้นสุดความศักดิ์สิทธิ์ ใครดีก็ดีไป ใครชั่วก็ชั่วหักคาอยู่ในนั้น ผ้าเหลืองจีวรพระยังดีกว่าเพราะเอามาหุ้มต้นไม้ต้นไร่แล้วคนไม่กล้าตัด มีแต่จะยกมือไหว้นอบน้อม
แต่เหลืองในตำแหน่งองคมนตรีนั้นบ่ใช่แล้วเด้อ!
จิตรสุขใจหาอะไรเปรียบปานมิได้ เพราะเมื่อองคมนตรีถูกกระชากกางเกงในจนเห็นเป็นดุ้นเป็นด้าม (หรือบางรายก็ไม่เห็น เพราะม้าเตะขาดไปตั้งแต่ละอ่อน) ก็แปลว่าความลับดำชั่วหลายสิบปีของบ้านนี้เมืองนี้มันคงจะได้ฤกษ์ได้ชัยเปิดโปงกันเสียทีหนึ่ง ขอเชียร์ๆๆๆๆ ให้คนเสื้อแดงมุ่งมั่นต่อไปเถิดจะเกิดผล จิตรคนนอกขอเติมข้อมูลตรงนี้จั๊กน่อย เผื่อจะเป็นเชื้อพลงเชื้อเพลิงให้เขาเดินต่อไปได้มั่ง
แหม.... ทั่วโลกเขาออกจะฮือฮาเรื่องสิทธิสตรี ทำไมคนเสื้อแดงเข้าข้างแต่ฝ่ายชาย เอาแต่ฝ่ายชายมาเปิดโปงเท่านั้นล่ะจ๊ะ ไอ้เรื่องถ่างขาหาอำมาตย์ หญิงบางคนเขาก็ชำนิชำนาญอยู่มิใจ้น้อย ขออนุญาตท่านผู้อ่านที่รักเล่าสักสองสามคน แต่คนเสื้อแดงว่าไปตามสะดวกเถิด ไม่ต้องเล่นตามลำดับของจิตรที่จะจาระไนต่อไปนี้ก็ได้
หญิงคนแรกเป็นสาวใหญ่ใจถึง สวยสมแต่นมยาน (อ้าวขอโทษ กลอนมันพาไป) เธอผู้นี้สูงศักดิ์ขนาดยอดตาลเห็นจะได้ แถมมีศักดิ์เป็นพี่สาวร่วมสายโลหิตสีแดงเลือดอำมาตย์กับองคมนตรีอีกคนหนึ่งที่ว่ากันว่า เต้นรำเก่งนักหนา เธอผู้นี้มีชื่อเฉพาะตัวเหมือนสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคนทั้งหลายแหล่ แต่จิตรเป็นคนขี้เกรงใจ ขอเรียกว่า “ท่านผู้ใหญ่พันธุ์ไม่ดี” ก็แล้วกัน ค่อยเฉียดๆ ชื่อจริงแกหน่อย ไม่เอ่ยเลยเดี๋ยวจะหาว่าจิตรเขียนเชียร์ทั้งทีก็ไม่จั๋งหนับ
ท่านผู้ใหญ่คนนี้เป็นโฆษกชั้นเอกของขบวนการล้างบางนายกทักษิณและขบวนการประชาธิปไตยของพวกเราทั้งหลาย เพราะเธอผู้นี้เป็นตัวการใหญ่ที่คอยเชียร์พันธมิตรพันธมารให้เข้าสองรูหูของสตรีสูงเยี่ยมเทียมเมฆอีกคนหนึ่งแห่งสยามประเทศ ทั้งกีดทั้งกันไม่ให้นายกทักษิณและครอบครัวทำอะไรที่เป็นความดีได้เลย ขนาดเอาขนมนมเนยฝากเข้าไปมอบให้นายของเธอ ยังใจร้ายสั่งบริวารทั้งหลายให้ทิ้งไว้ตรงนั้นจนเน่าเหม็น ไม่ยอมบอกให้นายตัวเองรู้ด้วยซ้ำไป คงกลัวว่ารู้แล้วจะเกิดใจอ่อนเห็นความดีขึ้นมา ขบวนการทำลายนายกทักษิณก็จะเน่าแทนขนม เพราะบางคนตอนนี้ก็แก่จนลมใส่ ไม่ทำอะไรก็จะเน่าเองอยู่แล้ว
“ท่านผู้ใหญ่พันธุ์ไม่ดี” จงเกลียดจงชังนายกทักษิณเพราะนายกทักษิณไปสั่งย้ายน้องชายสุดเลิฟของเธอออกจากตำแหน่งสมัยนั้น โกรธหยั่งกะใครเขาเอาไม้มาแยงรู (หู) ไม่ได้ดูเล้ยว่าน้องชายของตัวมันนั่งในตำแหน่งหยั่งกับไอ้ว่อกปัญญาอ่อน แก้ปัญหาอะไรไม่สำเร็จ แถมเอาหน่วยงานประสานในการแก้ไขปัญหาก่อความไม่สงบไปเป็นศูนย์ประสานงานให้กับคนขายอาวุธเถื่อน น้ำมันเถื่อน และอีกหลายอย่างที่เถื่อนๆ ซะอีก
นายกทักษิณท่านเป็นนักแก้ปัญหา เห็นนั่งรับตำแหน่งในมหาดไทยหยั่งกะสืบตระกูล (เพราะโคตรพ่อเขาเป็นปลัดกระทรวงที่นั่นมาก่อน) ก็ต้องขจัดกวาดล้าง ท่านก็ยุบหน่วยซะ เอาตัวกลับมาทำงานในส่วนกลาง เท่านั้นแหละ ทั้งพี่สาว น้องชาย และน้องชายอีกคนที่เขาส่งไปใหญ่โตแทนตัวเขาในตอนนี้ โกรธจนบั้นท้ายสั่นไหว ขนาดนั่งไม่ติดที่ คงเผลอนึกว่านามสกุลของตัวแปลว่า“แผ่นดินทอง” มันจะเหลืองอร่ามห้ามแตะต้อง ความจริงมันก็เหลืองอุจจาระเดียวกับสุรยุทธ์นั่นล่ะ (วะ)
เธอรายที่สอง แหม.... คนนี้ก็ใย๊ใหญ่ทั้ง “ขนาด” และ “บทบาท” แต่เรื่อง “ขนาดใหญ่” ขนาดไหนให้ไปถาม บัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เอาเอง จิตรบ่ฮู้บ่หัน ไม่ชำนาญเล่นจ้ำจี้เหมือนเขา
แต่บทบาทนั้น โอ้โฮ.... กำแพงเมืองจีนยังเล็กไปถนัดตาถนัดใจ คนๆ นี้เป็นนักระดมเงินชั้นหนึ่งเจ้านายคนไหนได้ไปก็ต้องยอมเธอ เธอเข้าไปเกี่ยวข้องในหลายธุรกิจ จิตรได้เอกสารมาปึกหนึ่ง อ่านมันส์ไปเลย แต่ขออนุญาตอุบไว้ก่อนที่ไก่จะตื่นนะพระคุณท่าน ในนั้นบอกหมดว่าเอาเงินไปฝากไว้นอกประเทศยังไงๆ บางรายเขาก็เป็นเพื่อนกับเพื่อนของจิตร จิตรก็พอจะรู้กะเขามั่ง เจ้าตัวคงนึกว่าลับเสียเต็มประดา ตอนนี้ลับซะจนแลบแล้วล่ะเธอจ๋า
ยายคนนี้เรียกเขาว่า “ท่านผู้ใหญ่ จ.” ก็แล้วกันเต๊อะ ยิ่งตอนหลังยิ่งวิ่งควั่กหาเงิน ไม่ใช่หาส่งให้นายทั้งหมดนะ เอาเข้าพกเข้าห่อก็เยอะ บางทีหนักกว่านั้น ไปซื้อเพชรถูกๆ แล้วเอามาขายต่อเจ้านายในราคาแพงเจ้านายก็งมโข่งนึกว่าเขาซื่อสัตย์จริงใจอะไรด้วย ความจริงเขารักเงินรักผลประโยชน์ ไม่นานก็จะเห็นเขาถีบตัวทิ้ง ถ้าเจ้านายเกิดเพลี่ยงพล้ำเสียทีขึ้นมา เจ้านายเธอผู้นี้ว่าไปก็น่าสงสาร มีคนรุมเกลียดรุมชังอยู่เยอะ ไอ้ความไม่ดีของตัวก็มากเอาการอยู่ แต่บอบช้ำหนักๆ ตอนหลังน่ะไม่ใช่ของตัวเอง ทำตามคำสั่งของผัวเขา อีตาผัวก็เป็นคนมีนิสัยเห็นแก่ตัว อะไรดีเอาเข้าตัว อะไรชั่วมอบให้เมีย หมด ตามแบบฉบับคนปฏิบัติ “ทำ” ที่ไม่ใช่ “ธรรม”
ความสนุกของ “ท่านผู้ใหญ่ จ.” คือการระดมเงินมาต่อต้านนายกทักษิณที่ตัวเองอุตส่าห์ชวนเชื่อซะหรูว่าเป็นถึง “ระบอบทักษิณ” เพราะอุปนิสัยรักเงิน เลยรับอาสาหาเงินมาช่วยตรงนั้นตรงนี้ที่เขาอยู่ในสนามรบแทนตัว ช่วยขบวนการของไอ้หัวหมูแก้บนถนนพระอาทิตย์ หรือช่วยเครือหนังสือพิมพ์ “เนชั่ว” ให้ได้เวลาทีวี วิทยุอะไรต่างๆ มากมายก่ายกอง เรียกว่าเป็น “นางฟ้ามหาโจร” ตัวจริง
เนื้อที่ใกล้จะหมดแล้ว..... จิตรขอทิ้งไว้เป็นคนสุดท้าย เธอที่สามนี้เป็น“คุณใหญ่” คงจะยังไม่ได้เป็น “ท่านผู้ใหญ่” กับเขาเพราะอาวุโสยังค่อนข้างน่อย คนนี้อยู่ใกล้ตัวใกล้อวัยวะทั้ง ๓๒ ส่วนของสตรีคนสำมะคัญขนาดอาบน้ำอาบท่าให้ ความจริงเธอผู้นี้นิสัยดีนิ่งๆ เฉยๆ ไม่คอยขบกัดอะไรตลอดเวลาเหมือนคุณเธอสองคนแรก แต่พอดีเธอเกิดเคราะห์ร้าย ไปกระทำการ “แลกน้ำ” กับนักการเมืองผิวดำคล้ำคมขึ้นมา และเป็นน้ำชนิดที่ไม่เอามาสาบานว่าจะจงรักภักดีอะไรนั่นด้วย
สามีเก่าเธอเป็นนายทหาร แต่จากกันไปนานแล้ว เธอซึ่งไม่แก่เฒ่านักก็คงจะ “เหงา” มั่ง วันหนึ่งเกิดปะหน้ากับ “กำนันสุราษฎร์” ขึ้นมา กำนันท่านก็ไม่มีเหนียมอายอยู่แล้ว ยิ่งลูกเขาเมียใครแกถนัดนัก ไม่มีต้นงิ้วให้ปีนแกยังแอบปีนต้นมะพร้าวแทน กำนันแกก็เลย “ทำไร้” กับคุณเธอผู้นี้จนเกิดติดอกติดใจกันขึ้นมา พอ “ติด” กำนันแกก็ใช้ช่องทางนี้ประสานงานให้ตัวแกมั่งหรือให้กะพรรคการเมืองเก่าแก่เหมือนจั๊กกะแร้นายชวนมาตลอด จนกลายเป็น “ทาสน้ำ” ของเขาไปโดยไม่รู้ตัวและหัว....ใจ
ก็มาเล่ากันไว้หนุกๆ ตรงนี้ล่ะครับ จิตรไม่มีอะไรจะให้ยกเว้นหัวจอยดวงน้อยๆ เพื่อประชาธิปไตยทั้งดวง ก็ย่อมจะไม่อยากเห็นเหลือบที่คอยกลุ้มรุมทำลายสิทธิเสรีภาพของประชาชนคนรากหญ้า ไม่ว่าจะตัวผู้หรือตัวเมีย
เล่นรังแกประชาชนก็ต้องโดนทั้งฝูงล่ะเจ๊า!