ที่มา thaifreenews
1.ไม่เคยชี้แจงรายละเอียดของจำนวนผู้ให้สัมภาษณ์ (Sample Size) อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ บอกจำนวนเป็นตัวเลขกลม ๆ
ซึ่งในทางปฏิบัติมีน้อยมากที่ผู้ให้สัมภาษณ์จะมีจำนวนเปรี๊ยะ ๆ อย่างนั้น
2.ไม่เคยบอกว่ากลุ่มที่ไปทำนั้นเป็นกลุ่มเป้าหมาย (Target Group) ที่แท้จริงหรือไม่
(หมาที่ไหนก็ไม่รู้ที่มันไปถามมา ไม่ได้แสดงข้อมูลของกลุ่มที่ให้สัมภาษณ์ (Respondent Biographical Data)
สังเกตุจากคำตอบมันคงไปถามเฉพาะพวกที่มีจิตใจไม่เป็นกลาง (Bias) กับภาคประชาชนเท่านั้น )
3.ไม่เคยการแสดงถิ่นที่อยู่ตามตารางทางภูมิศาสตร์ (Geographical Settlement) ของผู้ให้สัมภาษณ์ (Respondent)
4.ไม่เคยแสดงฐานะทางเศรษฐกิจสังคม (Socio Economic Status) ของผู้ให้สัมภาษณ์ (Respondent)
5.ไม่เคยแสดงแบบสอบถาม (Questionaire) ว่าเขียนคำถามอย่างไรแบบไหน
6.ผู้ทำการสัมภาษณ์ (Interviewer) เป็นใคร ความสามารถประสบการณ์แค่ไหนไม่เคยเห็น
7.เวลาทำการสรุปผล (Tabulation) ใช้หลักการอะไรเป็นเครื่องวัด มันกระจอกมากที่สัมภาษณ์เองแล้วสรุปผลกันเอง
ฯลฯ
สุดท้ายก็คือการทำโพลนั้นถือเป็นการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) ไม่ใช่การวิจัยเชิงเนื้อหา (Qualitative Research) ซึ่งตัวผู้ทำถ้าเป็นนักวิชาการจริงก็ต้องยอมรับว่า มันเป็นได้แค่นั้น ไม่ใช่ความจริงในสังคม เพราะเอาจำนวนเข้าว่า แต่เป็นจำนวนที่ตัวเองหามากันเองทั้งนั้น เป็นแค่แนวที่อาจจะเป็น (Indication) พิสูจน์เฮี่ยอะไรไม่ได้ ตำราเขาไม่ให้เชื่อถือ ถ้ามัน Sampling ห่วย ก็จะได้คำตอบห่วย ๆ แบบที่มันเอามาโชว์นี่แหละ ทางการตลาดเขาเรียกว่า โพลยกเมฆ หรือ โพลตอแหล แต่สำหรับชาวเสื้อแดง ทั้งสองโพลนี้ คือโพลเลียดากขันทีและไข่ไอ้มาร์กเท่านั้นครับ
แต่ปล่อยให้มันทำและแถลงแบบนี้ไปเถอะครับ พวกมันจะได้เหิมเกริมจนไม่รู้ข้อเท็จจริงจนฉิบหายกันหมดกันไปเองนั่นแหละ
เพื่อไทย
Tuesday, February 9, 2010
ทำไมจึงถือได้ว่าเอแบคโพลและสวนดุสิตโพลเป็นเพียงโพลเลียไข่มาร์กดากขันทีเท่านั้น
โดย Bugbunny
สังเกตุมานานแล้วว่า ไอ้สองสำนักนี้มีพฤติกรรมการสำรวจวิจัยที่ไม่มีลักษณะทางวิชาการเลย มีการปกปิดข้อมูลพื้นฐานของการสำรวจ ซึ่งทำให้ผู้รับข้อมูลจำนวนมากมองและรู้สึกได้เลยว่า เป็นโพลนั่งเทียนเขียนเองและต่างก็พากันหัวเราะเยาะผลการสำรวจทุกครั้ง ข้อมูลที่ไม่เคยแสดงก็เช่น