ที่มา Thai E-News
โดย ธนโชติ วงศ์จันทร์ชมภู
ที่มา คอลัมน์ "ผมเป็นคนไท หัวใจสีแดง" นสพ.ไทยเรดนิวส์ ฉบับที่ 36
ความยุติธรรมไม่มี ความสามัคคีไม่เกิดคำพูดนี้มีให้ได้ยินทั่วทุกพื้นที่ของประเทศไทย ณ เวลานี้
ด้วยเหตุเพราะพวกรัฐบาล"หล่อหลักลอย-เทพมารดำ" บ้าอำนาจปฎิบัติต่อประชาชน 2 กลุ่ม 2 สีเสื้อ แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
คนกลุ่มหนึ่งซึ่งอยู่ฝ่ายอำมาตย์ทำผิดกฎหมายร้ายแรงก็ไม่มีความผิด "ผู้ก่อการร้ายกลายเป็นผู้ก่อการดี" แต่กับคนอีกกลุ่มหนึ่งใส่"เสื้อแดง"เรียกร้องประชาธิปไตย เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับสังคม กระดิกตัวเป็นต้องถูกกฎหมายเล่นงาน
ท่านผู้อ่านที่เคารพ เวลาที่ผู้เขียนเข้าร่วมชุมนุมกับพลังมวลชน "คนเสื้อแดง" ไม่ว่าที่ต่างจังหวัดหรือใน กทม. สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนชอบมากคือ การเดินสำรวจไปทั่วบริเวณที่ชุมนุม ทั้งนี้เพราะอยากรู้จำนวนคนที่มาชุมนุมว่ามากน้อยแค่ไหน เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับจำนวนตัวเลขของพวก "สื่อทาส-สื่อแพศยา" ที่รายงานตามสื่อกระแสหลักนั้นเอง
สิ่งที่ได้จากการสังเกตุในประเด็นนี้ก็คือว่า เมื่อสื่อกระแสหลักรายงานข่าวเกี่ยวกับจำนวนตัวเลขของคนเสื้อแดงที่ไปร่วมชุมนุม ถ้าเราอยากรู้ตัวเลขจริงว่าเท่าไหร่ ให้เอาจำนวนตัวเลขของสื่อกระแสหลักคูณด้วยสิบ เช่นสื่อกระแสหลักรายงานว่ามีคนเสื้อแดงชุมนุม หนึ่งหมื่นคน ถ้าคูณด้วยสิบก็จะได้ตัวเลขใกล้ความจริงคือ หนึ่งแสนคน (อาจบวกหรือลบนิดหน่อย)
ยกตัวอย่างให้เห็นชัด ๆ คือเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2552 วันที่คนเสื้อแดงยื่นถวายฏีกาฯ พวกสื่อทาสสื่อแพศยา รายงานตัวเลขว่า มีผู้ร่วมชุมนุม 10,000-15,000 คน ถ้าเราคูณด้วยสิบ ก็จะได้ตัวเลขเท่ากับ 100,000-125,000 (ซึ่งก็ใกล้เคียงกับตัวเลขผลสำรวจของเรดโผลที่บอกว่า มีผู้ร่วมชุมนุมในวันนั้นมากกว่า 120,000 คน)
หรืออย่างกรณีที่ผ่านมาหยก ๆ ณ เขายายเที่ยง สื่อแพศยากระแสหลักรายงานว่ามีผู้เข้าร่วมชุมนุม 5,000 -7,000 คน ถ้าเราคูณด้วยสิบ ก็จะได้ตัวเลขที่ 50,000-70,000 คน (ซึ่งใกล้เคียงกับจำนวนคนที่ไปชุมนุมจริง)
อีกอย่างที่ผู้เขียนชอบก็คือ การได้ไปพูดคุยกับผู้ที่ไปร่วมชุมนุมจากจังหวัดต่าง ๆ และถามคำถามว่า ทำไมต้องออกมาร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดง?
ท่านผู้อ่านที่เคารพ คำตอบที่ได้จากการพูดคุย และสอบถามผู้เข้าร่วมชุมนุมนั้น หลากหลายความคิด หลากหลายความรู้สึก ซึ่งเมื่อได้รับฟังแล้วและนำมาวิเคราะห์ดู ก็เห็นเป็นจริงเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งขออนุญาตนำมาถ่ายทอดต่อสัก 3-4 คำตอบหลัก ๆ คือ
ผู้เข้าร่วมชุมนุม ที่รักประชาธิปไตยจำนวนมากบอกว่า เขาเกลียดการทำ "รัฐประหาร" เกลียดพวก "เผด็จการทหารสามานย์" ที่มาทำลายระบอบประชาธิปไตยและยึด "อำนาจอธิปไตย" ของประชาชน ทำลายรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เขาบอกว่า "รัฐบาลจะเลวจะชั่วอย่างไร ถ้าจะไปจะล้ม มันต้องล้มต้องไปด้วยวิถีประชาธิปไตย และด้วยมือของประชาชน คุณเผด็จการทหารสามานย์ ไม่มีสิทธิ์มายึดอำนาจเขา เพราะการยึดอำนาจของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง มันก็คือการยึดอำนาจของประชาชน" ด้วยเหตุนี้ผู้คนจำนวนมากจึงต้องออกมาร่วมขบวนการกับคนเสื้อแดง
ผู้เข้าร่วมชุมนุมอีกจำนวนมาก ซึ่งรักความเป็นธรรมบอกว่า เขารับไม่ได้กับการที่ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ "ถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองด้วยเหตุที่ไม่เป็นธรรม" ถูกตัดสินคดีความตามใบสั่ง และกฎหมายเถื่อนของโจร คมช. แม้แต่การสั่งยุบพรรคก็เป็นไปตามใบสั่งเถื่อนของ "มหาอำมาตย์สามานย์"
เขารับไม่ได้กับการที่ นายสมัคร สุนทรเวช ถูกปลดจากตำแหน่ง "โดยอาศัยพจนานุกรมตัดสินคดีความแทนกฎหมาย" เขารับไม่ได้กับการที่ นายสมชาย วงษ์สวัสดิ์ ถูกปลดจากตำแหน่งโดยการยุบพรรคจากศาลรัฐธรรมนูญ เพราะตัดสินคดีความตามกระแสพันธมาร และคำสั่งของ "มหาอำมาตย์สามานย์"
ผู้ร่วมชุมนุมที่รักความยุติธรรมบอกว่า ทนไม่ได้จึงต้องมากร่วมกับคนเสื้อแดง เพราะรัฐบาลอำมาตยาธิปัตย์ ใช้กฏหมายแบบ "ไร้มาตรฐาน" กับประชาชน 2 กลุ่มแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว พวกพันธมารเสื้อเหลือง"อุจจาระ"เรี่ยราดในทำเนียบรัฐบาลก็ไม่ผิด ส่วนคนเสื้อแดงเพียง"ผายลม"ใส่ถนนหลวงก็โดนกฏหมายเล่นงาน
ผู้ร่วมชุมนุมซึ่งเป็นส่วนจำนวนมากและมากที่สุดเขาบอกว่า เขาออกมาร่วมขบวนการกับคนเสื้อแดงเพราะเขา "รัก พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ" ผู้ร่วมชุมนุมในส่วยนี้ซึ่งส่วนใหญ่เป็น "คนรากหญ้า" เขาบอกว่า เกิดมาในประเทศไทยตั้งแต่จำความได้จนอายุก็มากแล้ว (ส่วนใหญ่อายุกว่า 40 ปีขึ้นไปถึง 70-80 ปี) ตลอดชีวิตที่ผ่านมายากจนข้นแค้น อาศัยอยู่ตามท้องไร่ท้องนา หาปูหาปลา ทำนาปลูกข้าวเลี้ยงคนทั้งประเทศ หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน ตีนเปื้อนโคนตม หน้าไหมเกรียมเพราะแดดแผดเผา ผ่านรัฐบาลมาก็หลายยุคหลายสมัย ทั้งแบบประชาธิปไตย(ปลอม ๆ ) และแบบเผด็จการ ให้ตายเถอะ !! ไม่เคยพบไม่เคยเห็น รัฐบาลไหนจะหยิบยื่นความช่วยเหลือให้ได้จริง ตามคำประกาศที่หาเสียงเอาไว้ก่อนการเลือกตั้ง หรือหลังการทำรัฐประหาร อย่างมากที่ได้ก็เพียงถุงยังชีพ ที่มีเพียง น้ำปลาตราแมวดำ 1 ขวด ปลากระป๋องเน่า 3 กระป๋อง ข้าวสารขึ้นรา 5 กิ่โลกรรม กับมาม่าอีก 5 ซอง เมื่อตอนน้ำท่วมเท่านั้นเอง
แต่พอเมื่อมาเจอรัฐบาลของท่าน พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ที่พูดจริงทำจริง และช่วยเหลือพวกเขาได้จริง ๆ ตามที่ประกาศหาเสียงเอาไว้ก่อนการเลือกตั้ง เขาจึงรัก พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ และรัก นโยบายทักษิณ จึงส่งผลให้รัฐบาล ทักษิณ 2 ในคราวเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปลายปี 2548 ได้คะแนนท่วมท้นถล่มทลาย 19 ล้านเสียง 377 ส.ส. ได้เป็นรัฐบาลพรรคเดียวในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
ในขณะที่ประชาชนคนรากหญ้ากำลังมีความสุขกับ ประชาธิปไตยกินได้ พวกอำมาตยาสามานย์กลับเห็นเป็นตรงกันข้ามว่า ประชาชนจะรักและนิยม ทักษิณ มากกว่าพวกตน มหาอำมาตย์เจ้าเล่ห์ จึงได้หาวิธีการและสั่งให้ ขุนทหารสามานย์ผู้เป็นลูกสมุน ออกมายึดอำนาจ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ เมื่อ 19 กันยายน 2549
ประชาชน คนรากหญ้า ชีวิตนี้ทั้งชีวิตเคยผ่านความสูญเสียมาแล้วเกือบทั้งชีวิต เมื่อ 19 กันยายน 2549 ต้องมาสูญเสีย รัฐบาลที่ดีที่สุด ของเขาไปอีก ฉะนั้นชีวิตนี้ไม่มีอะไรจะสูญเสียไปมากว่านี้อีกแล้ว
ตีนที่เคยเปื้อนโคนตมตามท้องทุ่ง จะมาเดินย่ำโคนตมที่ท้องสนามหลวง (เพราะมาทีไรฝนจัญไร มันก็ตกลงมาทุกที) เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ บุคคลที่เขารัก ลำบากแค่นี้ทำไมจะทำไม่ได้ (เจออุปสรรค์และความยากลำบากมากกว่านี้ก็ผ่านมาแล้วตลอดชีวิต)
แต่ก็ยังมิวายถูกพวก รัฐบาลอำมาตยาธิปัตย์ และพวก "สื่อแพศยา คอลัมนิสต์ชั่ว นักวิชาการทาส" กล่าวหาและเยาะเย้ยถากถางว่า "คนรากหญ้า" ทำเพื่อคน ๆ เดียว คือ "ทักษิณ"
คนรากหญ้าเขาบอกว่า เขาไม่ใส่ใจกับคำพูดโสมมเหล่านี้หรอก และยังฝากถามพวก "มหาอำมาตย์" และลูกสมุนว่า "พวกคุณเหล่าอำมาตย์ทั้งหลาย เคยสร้างคุณความดีอะไรให้ชาวบ้านเขาประทับใจเหมือน พ.ต.ท.ดร.ทักษิณบ้าง ? และพวกคุณเคยทำประโยชน์อันใดให้เห็นเป็นรูปธรรม เพื่อประชาชนคนรากหญ้า พอที่จะทำให้คนรากหญ้าทำเพื่ออำมาตย์บ้าง ? นอกจากแจกถุงยังชีพ แล้วก็อ้างบุญคุณตลอดชาติว่าพวกตนทำเพื่อประชาชน!?"
ท่านผู้อ่านที่เคารพ ที่เล่ามาคือคำตอบจากการพูดคุยกับผู้ร่วมชุมนุม ในประเด็นคำถามที่ว่า ทำไมต้องออกมาร่วมขบวนการกับคนเสื้อแดง
ผู้ชุมนุมในส่วนใหญ่เขายังพูดดัง ๆ และอยากให้ มหาอำมาตย์เฒ่าเจ้าเล่ห์ ประธานที่ปรึกษาธนาคารพาณิชย์ และ นายอภิสิทธิ์ ได้ยินให้ชัด ๆ ว่า "เอาผลงานของมหาอำมาตย์เฒ่าเจ้าเล่ห์ ในสมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และผลงานของนายอภิสิทธิ์ ที่ผ่านมาในตำแหน่งเดียวกัน 2 คนมาร่วมกันเข้า มันยังไม่ได้หนึ่งในร้อยของผลงาน พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ เลย"
นี่คือเสียงของประชาชนที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ ที่เขาฝากบอกมาถึง "ประธานที่ปรึกษาธนาคารพาณิชย์" และนายอภิสิทธิ์ พร้อมเหล่าลูกสมุนทั้งหลาย โปรดทราบ !!!
ก่อนที่เลือดจะนองแผ่นดิน การยุบสภาคืนอำนาจให้กับประชาชน คือหนทางเดียวที่จะยุติสงครามกลางเมืองลงได้ ทำไมจึงไม่ทำฮึ อภิสิทธิ์ การตัดสินใจอยู่ที่คุณ จะเชื่ออำมาตย์ชั่ว ๆ หรือจะเชื่อประชาชน ครับคุณอภิสิทธิ์ !!??