ที่มา ประชาไท เรา..ไม่สามารถหยุดยั้งความแตกแยก เรา..ไม่อาจสมานฉันท์ปรองดอง เรา..ไม่อาจพบสังคมที่ไร้ความเหลื่อมล้ำ ถ้าเรา..ถามหาสำนึกและเจตนาแห่งประชาธิปไตย เรา..ไม่อาจจะคืนความสุขกลับไปให้ใครได้
ไม่ใช่เพราะเพียงเกิดมาผิดแผกหรือแตกต่าง
แต่เป็นเพราะ..ผู้คนยังคงหลงทาง
ไม่เคยคิดลดช่องว่างและระยะห่างกลางจิตใจ
ไม่ใช่เพราะหมายปองจะเอาชนะปะทะใส่
แต่เป็นเพราะไม่รู้จริงๆ..ว่าจะต้องทำอย่างไร
เพื่อจะรักและเข้าใจกันได้..บนปลายกระบอกปืน
ในเมืองที่ความเป็นมนุษย์ตกต่ำอย่างน่าขมขื่น
เรา..ไม่อาจสร้างความเป็นธรรมได้ในชั่วข้ามคืน
ในเมืองที่น้ำตายังเต็มตื้นเพราะกีดกดชนชั้น
เราจะพบกับ “ความตาย” อย่างน่าหวาดหวั่น
ถ้าเรา..ถามหาสิทธิของผู้คนที่เท่าเทียมกัน
เราจะพบเพียงความดื้อรั้นและหมอกควันหลอกลวง
เพราะเรามีแต่ความทุกข์ทนมากมายคอยทับถ่วง
เรา..ไร้ที่ยืนในเมืองแห่งการกอบโกยตักตวง
ชีวิตเราถูกปลิดร่วง..อย่างเปล่ากลวง..ไร้ค่า
...
เรามั่นใจ..ว่าเราไม่มั่นใจอะไรทั้งนั้นในวันนี้
ไม่มี..ประชาธิปไตยที่เราร่ำร้องเรียกหา
ไม่มี..สิทธิเสรีภาพที่เราฝันใฝ่ในดวงตา
มีเพียงเศษซากกองเพลิงแห่งความร้าวแยกแปลกปร่า
และความตายของเราผู้แปลกหน้า..ที่ผ่านมาเพื่อจากไป
...