ที่มา มติชน
โดย เกียรติชัย พงษ์พาณิชย์
วันนี้ ประเทศไทยมีปัญหา ไม่ว่าใครกลุ่มไหนจะเดินขบวนเรียกร้องอะไรหรือไม่อย่างไรก็ตาม เพราะฉะนั้น สิ่งที่จะต้องตระหนักสำหรับผู้มีความห่วงใยต่อประเทศชาติ ก็คือควรจะต้องคิดช่วยกันเยียวยาแก้ไขปัญหาต่างๆ ของประเทศที่เป็นอยู่ จะเรียกว่าสร้างความปรองดองหรือปฏิรูปประเทศ หรือจะเรียกอะไรเป็นอย่างอื่นก็แล้วแต่
ความสำคัญวันนี้จึงอยู่ที่จะต้องระดมสมองวางแผนและปฏิบัติการเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศ ไม่ใช่โอดโอยอ้อยอิ่ง ท้วงติงโน่นนี่ราวคนมืดบอดหนวกใบ้ทางปัญญากันไปหมด ไม่ใช่ต่อล้อต่อเถียงพวกมึงพวกกู ดูประหลาดจนน่าอเนจอนาถน่าสมเพชเวทนากันไปหมดกับบ้านนี้เมืองนี้
ปัญหานั้นหมักหมมมากมาย และทับถมซับซ้อนค้างคากันมาโดยตลอดในแทบทุกภาคส่วนของสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง เราจะเริ่มจริงจังกับการแก้ไขปัญหาที่มีอยู่กันตั้งแต่เดี๋ยวนี้หรือยัง
แผนการปรองดองแห่งชาติ หรือการปฏิรูปประเทศนั้นไม่ว่ากลุ่มหรือพรรคการเมืองไหนที่เป็นรัฐบาลก็ถึงเวลาจะต้องทำกันแล้ว ความริเริ่มของรัฐบาลปัจจุบัน ใช่แต่เกิดจากสถานการณ์ที่สะดุดชะงักการก้าวไปข้างหน้าของประเทศไทยเท่านั้น เราดูเหมือนกำลังจะถอยหลังเข้าคลองด้วยซ้ำไป หากไม่คิดอ่านวางแผนแก้ไขและพัฒนาไปในทิศทางที่ตอบรับและสอดคล้องกับกระแสหลักของโลกาภิวัตน์ปัจจุบัน
เงื่อนไขที่จะต้องแก้ไขเป็นอันดับแรก (Prerequisite) ก็คือการที่จะต้องขจัดการโกงกินหรือการคอร์รัปชั่น ให้ลดน้อยหรือให้สิ้นซากลงให้ได้เสียก่อน
ประเทศไทยได้รับอันดับน่าอับอายไม่น้อยแล้วกับอันดับประเทศที่มีการโกงกินมากที่สุด และถ้าไม่มีนโยบายและจริงจังกับการจัดการกับการโกงกินหรือคอร์รัปชั่นที่ระบาดทั่วทุกระดับแล้ว ต่อให้วางแผนปรองดองหรือปฏิรูปประเทศอย่างไร ก็จะไม่ช่วยขจัดรากเหง้าปัญหาของประเทศไทยให้หมดไป หรือลดน้อยลงได้เลยแต่อย่างใด
จะมีนักการเมืองไทยคนไหนบ้างไหม ที่จะองอาจผึ่งผายประกาศอย่างกล้าหาญว่าจะขจัดการโกงกินในภาคส่วนของรัฐบาล หรือในวงการเมือง เราเคยได้นักการเมืองสมัครเข้ารับการเลือกตั้งประกาศปราบปรามการโกงกินบ้างไหม
จะมีนักการเมืองอย่าง "นองนอย" ประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์คนปัจจุบันใหม่ที่ประกาศในการหาเสียงเลือกตั้ง และกำหนดนโยบายกับแนวทางปราบหรือขจัดการคร์อรัปชั่นอย่างของเขา
นักการเมืองไทยดีแต่ประกาศความซื่อสัตย์สุจริตอันดีเด่นของตัว ถวายสัตย์ปฏิญาณว่าจะทำงานให้ประชาชนโดยสุจริตยุติธรรม ส่งแห่ให้เข้าไปอบรมกับสถาบันพระปกเกล้า จบออกมาแล้วก็เห็นประพฤติปฏิบัติในแบบฉบับสันดานนักการเมืองเดิม กี่รุ่นกี่สมัยแล้วเล่า "คนพวกนี้" เคยเปลี่ยนพฤติกรรมอะไรให้น่าเชื่อถือชื่นชมขึ้นมาบ้างไหม
ความมุ่งมั่นจริงจังที่จะต้องขจัดการโกงกินคอร์รัปชั่นนั้นจะต้องเป็น "เจตนารมณ์ทางการเมือง" (Political will) อย่างแน่วแน่ และเจตนารมณ์ทางการเมืองนี้จะต้องมาจากผู้นำทางการเมือง แล้วเรามีนักการเมืองที่มีวิสัยทัศน์มีเจตนารมณ์ทางการเมืองแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด แน่วแน่แก้ไขปัญหาการโกงกินคอร์รัปชั่นแค่ไหน
ประกาศตัวให้รู้จักกันบ้างจะดี
ตรงนี้หรือไม่ที่เป็นเงื่อนไขอันดับสองที่จะต้องแก้ไขก่อนที่จะปฏิรูปประเทศในอีกหลายๆ เรื่องที่คิดอ่านจะทำกัน หลักการพื้นฐานเบื้องแรก คือต้องขจัดการโกงกินคอร์รัปชั่น ในข้อที่สองนี้ก็คือต้องขจัดปฏิกูลนักการเมือง ให้เกิดวุฒิภาวะสมบูรณ์ยิ่งกว่าปัจจุบัน
ปัญหาทั้งหลายแหล่ของประเทศนี้ เกิดจากมูลฐานรากเหง้าของสองเรื่องนี้
ไม่แก้ไขไม่ปฏิรูปหรือไม่ปฏิวัติความคิดเพื่อยุติการโกงกินคอร์รัปชั่น และดึงลากพวกนักการเมืองถอยหลังเข้าคลองให้พ้นปลักตมของประพฤติปฏิบัติอันต่ำทรามเสียก่อนแล้ว ปฏิรูปประเทศอะไรที่เพ้อเจ้อกันนั้น
ก็รังแต่จะได้ผลแห่งความล้มเหลว ถ้าไม่ขจัดรากเหง้าอันชั่วร้ายนี้เสียก่อน
ต่อเนื่องจากสองเรื่องอันเป็นเงื่อนไขที่จะต้องแก้ไขก่อนอื่น ก็คือ แนวคิดเรื่องขจัดความยากจนและความเหลื่อมล้ำทางสังคม เรื่องดังกล่าวเป็นความเป็นจริงที่มีอยู่จริง และเป็นสิ่งที่ถูกเดินขบวนเรียกร้องกันเรื่อยมา กลุ่มเสื้อแดงที่พูดถึงไพร่ไล่อำมาตย์ก็คือความเป็นจริงของความเหลื่อมล้ำของชนชั้นนี่เอง
จะปฏิรูปประเทศไทยจึงจะละเลย การนำยุทธศาสตร์และมาตรการในการขจัดความยากจนไม่ได้เลย ขณะนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งแล้วที่จะต้องให้ความสนใจจริงจังแก้ไขปัญหาความยากจนที่ยังมีอยู่ ตลอดเวลามานี้ เราวางแผนพัฒนาทางเศรษฐกิจที่เน้นความเติบโตเป็นแนวหลัก กำหนดผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศไทย (GDP) ในอัตราที่สูงขึ้นตลอดเวลา การส่งออกต้องสูง การท่องเที่ยวต้องสูงอะไรๆ ก็ให้สูงไว้ก่อน
เราใส่ใจน้อยเกินไปกับการแก้ไขความยากจน ปัญหาความเหลื่อมล้ำจึงถ่างกว้างขึ้นทุกที
การวางยุทธศาสตร์ที่เน้นแต่ความเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยสมมติฐานว่าความเติบโตดังกล่าวจะแผ่กระจายไปสร้างความเติบโตอย่างเสมอภาคและยุติธรรมแก่กลุ่มคนยากจนในระดับต่างๆ นั้น ถึงเวลานี้ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ไม่จริงเสมอไป ปฏิรูปประเทศคราวนี้ หากแม้ละเลยแนวคิดและยุทธศาสตร์ที่วางมาตรการต่างๆ ขจัดความยากจนเสียแล้ว จะไม่ต่างอะไรเลยกับการไม่ได้ปฏิรูปอะไรอย่างที่มุ่งหวังตั้งใจกัน
นอกจากสร้างความเติบโตให้แผ่ขยายเอื้อไปถึงคนจน จะทำอย่างไรเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินของคนจนให้เขาช่วยตัวเองได้พึ่งตัวเองได้ เช่น การปฏิรูปที่ดินให้คนจนมีสิทธิอย่างยุติธรรม ไม่ใช่ปล่อยให้แต่เกิดการเอาเปรียบของพวกนายทุน สร้างทักษะให้เขาทำมาหาได้เพิ่มขึ้น สร้างโครงสร้างพื้นฐานเอื้อต่อคนจนบ้าง ให้เขาเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายขึ้นให้เขาส่งผลิตภัณฑ์เข้าตลาดได้ง่ายขึ้น ใช้นโยบายราคาผลิตภัณฑ์ให้เขาทำมาหากินแล้วอยู่ได้
มีหลายมาตรการที่ต้องคิดต้องทำเพิ่มให้คนจนในแนวคิดสำหรับการปฏิรูปประเทศคราวนี้และอย่าคิดแต่เอาประโยชน์ทางการเมืองด้วยการนำนโยบายประชานิยมมาใช้อีกเช่นแนวทางรัฐบาลก่อนหน้านี้ เพราะนโยบายดังกล่าวกลับจะทำให้เกิดวัฒนธรรมของการพึ่งพาผู้อื่นตลอดเวลา นโยบายสวัสดิการสังคมจะช่วยคนจนได้ดีกว่าไหม ต้องทบทวนแนวทางเหล่านี้กันแล้ว แก้หนี้คนจนนอกระบบให้เป็นหนี้ต่อไปกับการต้องตกไปเป็นเหยื่อของระบบอื่นๆ เป็นมาตรการถูกทางแล้วหรือไม่
มีหลายเรื่องต้องทำต้องปฏิรูปประเทศ แต่หากไม่เริ่มด้วยเงื่อนไขสามเรื่องนี้เป็นแนวหลักก่อนจะปฏิรูป ให้แก้รัฐธรรมนูญ ให้ปฏิรูปสื่อ หรือให้เพ้อเจ้อไปในเรื่องอีกมากเรื่อง ปฏิรูปประเทศจะกลายเป็นปฏิกูลอีกกองหนึ่งให้ต้องเก็บกวาดกันไม่จบสิ้นอีกต่อไปเท่านั้นเอง
เพื่อไทย
Tuesday, June 22, 2010
เงื่อนไขจำเป็น ต้องแก้ไขก่อนคิดปฏิรูปประเทศ โดย ... เกียรติชัย พงษ์พาณิชย์
เงื่อนไขที่จะต้องแก้ไขเป็นอันดับแรก (Prerequisite) ก็คือการที่จะต้องขจัดการโกงกินหรือการคอร์รัปชั่น ให้ลดน้อยหรือให้สิ้นซากลงให้ได้เสียก่อน