ที่มา บางกอกทูเดย์ วันนี้..ต้องเชียร์..ชุมพล ศิลปอาชา..ที่จะขออาสารัฐบาลไปดำเนินการ เพื่อให้ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันบอลโลก กับเขาสักครั้งหนึ่ง งานนี้..อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ..น่าจะพยักหน้า..เพราะไม่ว่า ชุมพล ศิลปอาชา จะทำสำเร็จหรือไม่..ก็ทำให้ประเทศไทยพ้นไปจากความกระหายใคร่อยากจะชกจะต่อยกันไปสักระยะหนึ่ง แต่หากจะให้..ฟีฟ่าสนใจและทำให้ฟีฟ่าอนุมัติง่ายขึ้นนั้น..ประเทศไทย-มาเลย์เชีย-สิงคโปร์ ก็น่าจะเป็นเจ้าภาพร่วมกันและใช้สนามกิฬาของทั้ง 3 ชาติ เป็นปริมณฑล..โดยใช้ ภูเก็ต..เป็นศูนย์กลาง ว่ากันว่า..ในบอลโลกปีนี้..ประเทศเจ้าภาพแอฟริกาใต้..จะมีรายได้เข้าประเทศมากกว่า 5 แสนล้านบาท..และเกิดตำแหน่งงานให้กับพลเมืองมากมาย..เทียบกับประเทศไทยแล้ว..แอฟริกาใต้มีความแตกแยกและ ความไม่ปลอดภัยสูงกว่า เรื่องราวระหว่างคนผิวขาว กับ คนผิวดำยังไม่กลมกลืนกัน สำหรับเอเซีย..ปีนี้เป็นปีแรกที่เศรษฐีเอเซียมีรายได้รวมมากกว่าทวีปยุโรป..หากมีบอลโลกในประเทศไทย..ตั๋วบอลโลกที่มีราคาโดยรวมประมาณ 7 พัน 7 ร้อยล้านบาท..จะขายได้มากกว่า..และมาเลเซียนั้นเป็นประเทศที่มีการจัดการแข่งขัน ในระดับโลกอยู่แล้ว มาเลเซียยังเป็นศูนย์ของฟุตบอลอังกฤษในภูมิภาคนี้ ไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นมาได้หรือไม่..การสร้างชื่อให้กับประเทศไทยในมุมที่สร้างสรร..ก็น่าจะเป็นการสร้างภาพพจน์ให้กับประเทศไทย..ให้ดูดีขึ้น ไม่ใช่แผ่นดินของฆาตกรกับผู้ก่อการร้าย..อย่างที่ท่านทั้งหลายกำลังวาดภาพให้..การใช้ภูเก็ต.. เป็นเมืองแม่ของการแข่งขัน เพราะการใช้กรุงเทพเป็นเวทีใหญ่..จะทำให้ประเทศทั้งหลายหวาดกลัวและหวาดหวั่นกับอนาคตของประเทศไทย..เพราะจนถึงวันนี้..กรุงเทพก็ยังอยู่ในฐานะเมืองอันตรายและต้องห้าม..ของประเทศต่างๆ แต่ต้องให้แน่ใจว่า ในอีก 12 ปีข้างหน้าประเทศไทย..ยังมีอยู่ในแผนที่โลก