ที่มา ไทยรัฐ "ซาเล้งบอมบ์" ชิงเรตติ้งไปได้เยอะเลย
กับปฏิบัติการที่คนร้ายซุกทีเอ็นทีติดกับถังแก๊สบรรจุน้ำมันในรถเข็นขายเงาะ กดรีโมตตูมสนั่น
วินาศกรรมข้างอาคารที่ทำการพรรคภูมิใจไทย
ข่าวใหญ่ พาดหัวยักษ์หนังสือพิมพ์
บังเอิญเหตุเกิดวันเดียวกัน โดยกระแสเบียดแย่งพื้นที่ข่าวงานพระราชทานเพลิงศพ "เสธ.แดง" พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ที่แฟนคลับคนเสื้อแดงเรือนหมื่นแห่มาร่วมอาลัยมืดฟ้ามัวดิน แน่นวัดโสมนัสราชวรวิหาร
และนัยความหมายที่มากกว่านั้น นับเป็นคิวแรกที่ นปช.กลับมารวมพลใหญ่โดยไม่ขัด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หลังโดนทหารลุยสลายเวทีแยกราชประสงค์
ตามจังหวะที่รัฐบาล โดยศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ต้องสั่งกำลังตำรวจหลายกองร้อยคอยประกบไม่ให้คลาดสายตา
เผา "เสธ.แดง" กระตุ้นอารมณ์คนเสื้อแดง
ถ้าไม่มีเหตุ "ซาเล้งบอมบ์" ข้างที่ทำการค่ายภูมิใจไทยมาเบียดชิงเรตติ้ง ตามคิวแล้วฉากที่วัดโสมนัสฯน่าจะแรงกว่านี้
แต่ทั้งหมดทั้งปวงถ้าไม่นับคิว "ซาเล้งบอมบ์" และฉาก นปช.รวมพลอาลัย "เสธ.แดง"
มันยังมีประเด็นใหญ่มาก แต่โดนเบียดเป็นแค่ข่าวพาดหัวรอง
โดยถ้อยแถลงของนายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญ ระบุศาลได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกรณีที่นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย ร้องให้สอบกรณีเจ้าหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญนำเอกสารที่น่าจะเกี่ยวกับคดียุบพรรคประชาธิปัตย์มอบให้กับนายทศพล เพ็งส้ม
ส.ส.นนทบุรี ในฐานะทนายสู้คดียุบพรรคประชาธิปัตย์
ตั้งแต่วันเกิดเหตุ ณ โรงอาหารศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ 18 มิถุนายน ที่ผ่านมา
ขณะที่นายปัญญา อุดชาชน รองเลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญ สำทับว่า เมื่อศาลทราบว่าเกิดเหตุขึ้น จึงได้เรียกเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รับผิดชอบงานด้านกลุ่มงานคดีมาสอบถาม
ข้อเท็จจริง
และเจ้าหน้าที่ก็ยอมรับว่า ได้มอบเอกสารให้กับนายทศพลจริง
แต่จะเป็นเอกสารอะไรยังไม่เป็นข้อยุติ เบื้องต้นได้กันเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวไม่ให้มา
ยุ่งเกี่ยวกับคดีอีก และควบคุมให้อยู่ในสายตาของผู้บังคับบัญชา
ปมเหตุน่ากังขา จนศาลรัฐธรรมนูญยังนิ่งอยู่ไม่ได้
และงานนี้ไม่ต้องพูดถึงประเด็นเกลือเป็นหนอน ที่แน่นอนว่า ต้องเป็นคนในศาลรัฐธรรมนูญที่ให้ข่าวไม่ชอบมาพากล ส่งซิกไปถึงฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทย
แต่ก่อนอื่นใด เรื่องแปร่งๆ กระทบ "ตราชั่ง" ศาลรัฐธรรมนูญเยี่ยงนี้
ต้องรีบเคลียร์ให้กระจ่างก่อนเลย
อีกทั้งโดยห้วงเวลามันก็คาบเกี่ยวกับคิวที่พรรคเพื่อไทยเพิ่งยื่นหนังสือกดดันให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบางคน ถอนตัวออกจากองค์คณะผู้พิพากษาคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ อ้างมีความสัมพันธ์เกี่ยวโยงกับคน
พรรคประชาธิปัตย์ ส่อไม่เป็นกลาง
จนต้องถอนตัวออกจากองค์คณะไป และมีคดีฟ้องร้องกันอยู่
โดยเกมบลัฟ ดักคอกันยังไง แต่ตามฉากมันก็ปะติดปะต่อเชื่อมโยงกันได้
และยิ่งย้อนกลับไปถึงคดีทะแม่งๆไอ้โม่งงัดรถฉกโน้ตบุ๊กของพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่บรรจุข้อมูลสำนวนคดียุบพรรคประชาธิปัตย์
ปรากฏการณ์ต่อเนื่องในลักษณะใกล้เคียงกัน
เหมือนกับว่า คนในดีเอสไอและคนในศาลรัฐธรรมนูญจงใจให้ข่าวหลุดออกมาประจานดักทาง
ตีกันพฤติกรรมลับๆล่อๆ
เอาเป็นว่า ห้วงเวลาเกิดเหตุใกล้เวลาที่คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ช็อตแรก จากกรณีใช้เงินกองทุนสนับสนุนพรรคการเมือง 29 ล้านบาท ผิดวัตถุประสงค์ กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม ตามอาการที่จับทางกันได้
ดิ้นรนหนีตายกันทุกวิถีทางเหมือนกัน
ไม่ต่างอะไรกับปรากฏการณ์ถุงขนมใส่เงินสดเป็นล้านบาท ถูกวางทิ้งไว้ให้เจ้าหน้าฝ่ายธุรการศาล ในห้วงจังหวะคดีที่ดินรัชดาของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร กำลังลุ้นพลิกคว่ำพลิกหงาย
ฟ้องอาการร้อนตัวของจำเลยต้องโทษประหาร
ทางเดียว ต้องเสี่ยงเจาะปราการด่านสุดท้ายกันเลย.
ทีมข่าวการเมือง