ที่มา ข่าวสด
วงค์ ตาวัน
ไม่จำเป็นต้องไปย้อนคำพูดอันคมคายของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในเหตุการณ์ตำรวจปะทะม็อบวันที่ 7 ต.ค. 2551 ซึ่งอภิปรายเชือดเฉือนนายกฯขณะนั้น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อย่างยับเยิน
เพราะวันนี้ ใครต่อใครพากันนำมาย้อนศรใส่นายอภิสิทธิ์ เมื่อนั่งเป็นนายกฯ เสียเอง แล้วเกิดจลาจลเลือดท่วมเมือง ศพกองเป็นภูเขาเลากา
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ถามหาความรับผิดชอบต่อนายกฯ ถึงความตายของผู้ชุมนุม 1 ศพ แต่วันนี้กลับตรงกันข้ามในความตาย 90 ศพ
ขอพูดเฉพาะในมุมการลงโทษตำรวจของนายกฯ
อภิสิทธิ์ต่อกรณี 7 ต.ค. 51
หลังจากป.ป.ช.มีมติชี้มูลแล้ว นายกฯอภิสิทธิ์ก็เซ็นสั่งปลดพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รวมทั้งอีก 2 นายพลทันที
พอเขาอุทธรณ์ต่อก.ตร.สำเร็จ กลับเพิกเฉย!
นายกฯ รีรอไม่เซ็นตามมติก.ตร. กระทั่งหาทุกหนทางเพื่อจะดึงเรื่องออกไป
ไม่ต้องพูดคำเชยๆ เรื่อง 2 มาตรฐาน แต่เปรียบเทียบ 2 เหตุการณ์ดูจะเห็นชัด
เหตุการณ์ 7 ต.ค. 51 มีผู้ชุมนุมหญิงเสียชีวิตขณะตำรวจปะทะกับม็อบด้วยแก๊สน้ำตา โดยมีแกนนำม็อบอีกรายโดนระเบิดเสียชีวิต ในจุดที่มิได้มีการปะทะกันกับเจ้าหน้าที่
นายอภิสิทธิ์ยึดหลักการอย่างหนักแน่นในเหตุ การณ์นี้
จัดการกับฝ่ายตำรวจ ทั้งที่การปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งอาจมีผิดพลาด แต่อยู่ภายใต้หลักการสลายม็อบ โดยใช้เพียงแก๊สน้ำตา
ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 7 ต.ค. 51 ไม่มีใครใช้ปืนและกระสุนจริง!!
เมื่อเทียบกับ 10 เม.ย. - 19 พ.ค.ล่าสุด ในยุคที่นาย อภิสิทธิ์เป็นนายกฯเอง
ใช้กองกำลังทหารเต็มรูปแบบ ใช้อาวุธสงคราม กระสุนจริง
มีหน่วยสไนเปอร์ ชุมนุมอยู่บนยอดตึกสูง ไม่ต่ำกว่า 30 ชุด
ด้วยข้ออ้าง มีผู้ก่อการร้าย!?!
แต่บทสรุปคือ มีประชาชนอาชีพปกติหาเช้ากินค่ำ เสียชีวิต 80-90 ศพ บาดเจ็บอีกกว่า 2 พัน
ถึงวันนี้ ยังไม่มีใครรับผิดชอบ การสอบสวนก็ได้แต่ตั้งคณะกรรมการ ออกข่าวเกรียวกราว แต่ยังไม่สอบใครสักคนเดียว
ขณะที่ 7 ต.ค. แก๊สน้ำตาล้วนๆ แต่ปลดนายพลถึง 3 คน
เมื่อเขาอุทธรณ์ตามขั้นตอนจนได้รับการยกโทษ แต่นายกฯ ยังไม่ยอม
แน่นอนความตายของประชาชนแม้ศพเดียวก็ต้องไม่ให้เกิด
แต่เป็นธรรมหรือไม่ เมื่อเทียบกับ 90 ศพ!
เพื่อไทย
Wednesday, June 23, 2010
ความผิดของแก๊สน้ำตา
คอลัมน์ ชกไม่มีมุม