ที่มา ประชาไท
10 ส.ค.54 เวลา 9.30 น. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดา มีการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีหมายเลขแดงที่ อ.3456 /2553 ระหว่างพนักงานอัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายโชคอำนวย สุรการ เป็นจำเลย โดยศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาว่า ไม่มีเหตุอันควรรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลย จึงพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
คดีนี้ พนักอัยการฟ้องจำเลยอันเนื่องมาจากการจับกุมจำเลยเกี่ยวกับการชุมนุมของ กลุ่มนปช.เมื่อเดือน มี.ค.-พ.ค.2553 ในหลายข้อหา โดยกล่าวหาว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ค.53 จำเลยใช้รถจักรยานยนต์ วิ่งเข้าไปเส้นทางถนนพญาไท บริเวณปากซอยพญานาค หน้าโรงแรมเอเชีย ซึ่งส้นทางนี้ มีประกาศห้ามใช้เป็นเส้นทางคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ และจำเลย มีอาวุธปืนพกรูปร่าง คล้ายปากกาขนาด .38 หนึ่งกระบอก และมีเครื่องกระสุนปืนรีวอลเลอร์ ขนาด.38 หนึ่งนัด ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน และ จำเลยมีเครื่องวิทยุคมนาคมชนิดมือถือ โดยไม่มีหมายเลขทะเบียนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้า พนักงาน
โดยในชั้นพิจารณาศาลชั้นต้น จำเลยได้รับสารภาพตามข้อกล่าวหาทั้งสิ้น และศาลอาญาได้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยรวมจำคุก 3 ปี และปรับ 24,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์การพิจารณา คงจำคุก 1 ปี 6 เดือน และปรับ 12,000 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้กักขังแทน
ข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ กรณีเหตุการณ์เม.ย.-พ.ค.53 ( ศปช.) ระบุว่า นายโชคอำนวย สุรการ เป็นผู้เข้าร่วมในการชุมนุมของนปช. มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ปี 2552 รวมถึงการชุมนุมเมื่อปีที่ผ่านมา โดยเขาถูกจับที่บริเวณ หน้าโรงแรมเอเชีย ปากซอยพญานาค ถนนพญาไทขณะเดินทางออกจากแยกราชประสงค์ เมือวันที่ 17 พ.ค.2553 และ ถูกควบคุมตัวมาโดยตลอดตั้งแต่วันถูกจับและปัจจุบันนี้ถูกขังอยู่ที่เรือนจำ พิเศษกรุงเทพฯ และนอกจากถูกฟ้องเป็นจำเลยคดีนี้แล้ว เขายังถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ 5802/2553 ที่ศาลจังหวัดพระโขนง ในข้อหาร่วมกันมีระเบิดขว้างชนิดสังหารแบบ 88 บ.67 (เอ็ม 67)จำนวน 1 ลูก และลูกระเบิดขว้างชนิดสังหาร แบบ เค 75 จำนวน 1 ลูก โดยพยานของโจทก์ซึ่งเป็นผู้จับกุมจำเลยอ้างว่า จากการสืบสวนได้ข้อมูลว่านายโชคอำนวย เป็นคนไกล้ชิดกับเสธ.แดงหรือพล.ต.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล แต่คดีที่ศาลจังหวัดพระโขนง ศาลพิพากษายกฟ้อง โดยได้วินิจฉัยว่า พยานหลักฐานโจทก์ยังมีข้อน่าสงสัยหลายประการ