ที่มา thaifreenews
โดย bozo
คอป. เผยตรวจสอบพบผู้ต้องหาเสื้อแดงที่ถูกจับกุม 53 ราย
ที่ถูกตั้งข้อหาเกินเลยจากความเป็นจริงทั้งที่ไร้พยานหลักฐานยืนยันความผิด
ซึ่งเป็นเพราะตำรวจ อัยการถูกกดดันการทำงานจากผู้คุมนโยบาย
ระบุมีการจับกุมแบบเหวี่ยงแหทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด
ชี้ความไม่เท่าเทียมกันในกระบวนการยุติธรรมทำให้ผู้ชุมนุมยังเกิดความรู้สึกโกรธแค้น
เพราะถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว ขณะที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐยังไม่มีใครถูกดำเนินคดี
ขณะที่ผู้อยู่ในเรือนจำร้อยละ 10 อยู่ในภาวะเครียด และมี 2 รายเสี่ยงฆ่าตัวตาย
เตรียมทำรายงานฉบับที่ 2 เสนอต่อรัฐบาล พร้อมแนบแนวทางให้ปฏิบัติเพื่อเกิดความสมานฉันท์ปรองดอง
วันที่ 11 ส.ค. 2554 ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริง
เพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) จัดเสวนา
เรื่อง “การเยียวยาและฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงตามหลักสากล”
เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากนักวิชาการ นักกฎหมาย และผู้แทนองค์กรต่างประเทศ
นพ.รณชัย คงสกนธ์ ประธานอนุกรรมการการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความรุนแรง กล่าวว่า
จากการลงพื้นที่สำรวจประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองพบว่า
คนเหล่านี้ยังมีปัญหาเรื่องการได้รับการเยียวยาตามหลักสากลอยู่ แม้เหตุการณ์จะผ่านมานานแล้ว
ยังไม่ได้รับเยียวยาที่เหมาะสม
“ทหาร ตำรวจจำนวนมากที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุยังมีความเครียด
และภาพเหตุการณ์ยังฝังอยู่ในความทรงจำ กลุ่มยังไม่ได้รับการเยียวยาด้านจิตใจ
ขณะที่กลุ่มผู้ค้า 643 รายร้องเรียนว่าพวกเขายังไม่ได้รับการเยียวยาความเสียหาย
ส่วนชุมชนและโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบยังไม่ได้รับค่าชดเชยที่ควรจะได้”
นพ.รณชัยกล่าวอีกว่า ในส่วนของผู้ชุมนุมมีผู้ถูกคุมขังอยู่ 105 คน
การลงพื้นที่ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่ผ่านมาพบว่าร้อยละ 10 มีอาการเครียดมาก
และพบว่ามี 2 คนมีแนวโน้มอยากฆ่าตัวตาย
เสนอรัฐบาลทำ 8 ข้อเบื้องต้น
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการการเยียวยาฯมีข้อเสนอแนะเบื้องต้น
ให้รัฐบาลใหม่เร่งดำเนินการ 8 ข้อ ประกอบด้วย
1.ต้องเยียวยา ฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการสร้างความสมานฉันท์ปรองดอง
2.ต้องเร่งตั้งองค์กรขึ้นมาทำหน้าที่บริหารจัดการงบประมาณเยียวยาที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง
เพราะผู้ได้รับผลกระทบมีความเดือดร้อนมาก เช่น
ผู้ถูกจับกุมบางรายญาติต้องไปกู้เงินนอกระบบดอกเบี้ยแพงมาเพื่อใช้ประกันตัว
3.รัฐบาลควรประเมินตัวเลขความสูญเสียทางด้านเศรษฐกิจอย่างแท้จริง
รวมถึงประเมินผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์และครอบครัว
4.รัฐบาลควรขยายขอบเขตการเยียวยา ฟื้นฟูแต่ละกลุ่มอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม
จี้เผยแพร่ข้อเท็จจริงต่อผู้ได้รับผลกระทบ
5.ต้องจัดทำข้อเท็จจริงเผยแพร่ไปยังผู้ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้เกิดทัศนคติที่ดี ให้อภัย
เกิดความเห็นใจ รวมถึงจัดกิจกรรมเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ให้กับทุกฝ่าย
6.เร่งช่วยเหลือผู้ที่ถูกคุมขังตามแนวทางของกฎหมาย
เพราะบางรายมีภาวะของความเครียด ซึมเศร้า และมีแนวโน้มจะฆ่าตัวตาย
7.รัฐบาลต้องเร่งรัดการประกันสิทธิผู้ที่ถูกคุมขัง รวมถึงตรวจสอบและจำแนกโทษที่แท้จริง
8.ควรประสานความร่วมมือไปยังองค์กร หน่วยงาน และทุกภาคส่วน เพื่อบูรณาการการแก้ปัญหา
โดยให้มีองค์กรกลางที่ดูเรื่องข้อพิพาททางการเมืองขึ้นมาป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต
เพื่อให้การทำงานเกิดขึ้นเป็นรูปธรรม
53 เสื้อแดงถูกตั้งข้อหาเกินเลย
นายสมชาย หอมลออ กรรมการ คอป. กล่าวว่า การตรวจสอบในด้านกฎหมายนั้นพบว่า 53 คน
ถูกคุมขังด้วยข้อหาที่เกินกว่าความเป็นจริง
โดยมีข้อหาหนักคือ ก่อการร้ายและวางเพลิง มีอัตราโทษถึงประหารชีวิต
“จากการตรวจสอบพบว่าการตั้งข้อกล่าวหาของพนักงานสอบสวนและอัยการ
ได้รับแรงกดดันจากผู้กำหนดนโยบาย
ทั้งที่บางเรื่องไม่สามารถมีพยานหลักฐานพิสูจน์ความผิดได้
การจับกุมก็ทำในลักษณะเหวี่ยงแหทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด”
ยังโกรธแค้นเพราะยังไม่เป็นธรรม
นายสมชายกล่าวอีกว่า ที่ความรู้สึกโกรธแค้นของผู้ชุมนุมยังดำรงอยู่
เพราะเขารู้สึกว่าเป็นผู้ถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว
และไม่ได้รับความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรม
โดยเฉพาะกรณีที่เจ้าหน้าที่รัฐที่เชื่อว่า
มีส่วนกระทำความผิดด้วยไม่มากก็น้อยยังไม่มีใครถูกดำเนินคดี
“ธาริต” ไม่มีผลต่อความปรองดอง
นายคณิต ณ นคร ประธาน คอป. กล่าวถึงข้อเรียกร้องของคนเสื้อแดง
ให้ปลดนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ออกจากตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า
คอป. ไม่ขอก้าวล่วง อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเห็นว่า
การจะอยู่หรือไม่อยู่ในตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอของนายธาริตไม่เกี่ยวข้องกับการสร้างความปรองดอง
เพราะนายธาริตมีสถานะเป็นเพียงฝ่ายสืบสวนสอบสวนเท่านั้น
เตรียมชงรายงานฉบับ 2 ให้รัฐบาลใหม่
ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่พรรคเพื่อไทยเข้ามาเป็นรัฐบาล
จะทำให้ คอป. ทำงานได้ง่ายขึ้นหรือไม่
เพราะก่อนหน้านี้ไม่ค่อยได้รับความร่วมมือในการให้ข้อมูลจากหน่วยงานราชการ
นายคณิตกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับใครมาเป็นรัฐบาล การทำงานของ คอป.
ที่ผ่านมาพิสูจน์ให้ประชาชนเห็นแล้วการร่วมมือกับ คอป. เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายควรกระทำ
เพราะจะทำให้บ้านเมืองมีสติมากขึ้น
“เร็วๆนี้ คอป. จะทำรายงานฉบับที่ 2 เสนอต่อรัฐบาล
พร้อมกับมีข้อเสนอให้ไปปฏิบัติเพื่อให้งานต่างๆออกมาเป็นรูปธรรม”
http://www.dailyworldtoday.com/newsblank.php?news_id=11702