ที่มา มติชน อย่างไรก็ตามแนวโน้มระดับน้ำในแม่น้ำน่านช่วงไหลผ่านเมืองพิษณุโลกจะยัง คงเพิ่มระดับสูงขึ้นอีก 5-10 เซนติเมตรในเย็นวันที่ 11 ก.ย.นี้ เมื่อปริมาณน้ำจากอ.น้ำปาด และคลองตรอน จ.อุตรดิตถ์ไหลมาสมทบเพิ่ม นายบรรดิษฐ์ อินต๊ะ ผอ.โครงการชลประทานจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า สถานการณ์แม่น้ำน่านช่วงไหลผ่านเมืองพิษณุโลกน่าเป็นห่วงอย่างมาก ระดับน้ำได้เพิ่มสูงสุดทำลายสถิติเมื่อปี 2538 ไปแล้ว เนื่องจากน้ำฝนที่ตกหนักมากในเขต จ.อุตรดิตถ์ โดยแม่น้ำน่านช่วงไหลผ่านเมืองพิษณุโลกที่เพิ่มสูงขึ้นมาจากน้ำฝนที่ตกท้าย เขื่อนในอ.น้ำปาด อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ คาดว่าน้ำก้อนใหญ่จะมาถึงเมืองพิษณุโลกในช่วงเย็นวันที่ 11 ก.ย. และส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำน่านช่วงเมืองพิษณุโลกอยู่ที่ 10.60-10.65 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่จะพยายามป้องกันไม่ให้ล้นตลิ่งในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก ทั้งนี้ เมืองพิษณุโลกได้เฝ้าระวังวิกฤตแม่น้ำน่านล้นตลิ่งมาตลอดเดือน ส.ค. 2554 เทศบาล ชลประทาน จังหวัด กองทัพและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ทำแนวป้องกัน สูบน้ำออก และบริหารจัดการน้ำไม่ให้ท่วมเขตเศรษฐกิจจังหวัดพิษณุโลก ตลอดช่วงพายุไหหม่าและนกเต็น แม่น้ำน่านทำสถิติสูงสุดอยู่ที่ 10.39 เมตร แต่ในเขตเทศบาลยังไม่ได้รับผลกระทบ
สถานการณ์น้ำท่วมในจ.พิษณุโลกเมื่อวันที่ 11 ก.ย. พบว่ายังมีพื้นที่ 3 อำเภอที่ยังประสบภัย คือ อ.วังทอง อ.บางระกำ และอ.เมืองพิษณุโลก นอกจากนี้ปริมาณน้ำของแม่น้ำน่านช่วงไหลผ่านเมืองพิษณุโลกอยู่ในสถานการณ์ น่าห่วงเป็นอย่างมาก ระดับน้ำแม่น้ำน่าน วัดที่เชิงสะพานเอกาทศรถ อ.เมืองพิษณุโลก เวลา 06.00 น. วันที่ 11 ก.ย. อยู่ที่ 10.52 เมตร ซึ่งทำลายสถิติสูงสุดนับแต่น้ำท่วมใหญ่เมืองพิษณุโลกเมื่อเดือน 28 ก.ย. 2538