ที่มา ข่าวสด
บทบรรณาธิการ
สิ่งที่รัฐบาลหรือผู้ติดตามความเคลื่อนไหวทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมาเห็นว่าเป็นปัญหาหรืออุปสรรคใหญ่ในการทำงานของรัฐบาลนั้น
อาจ จะกลายเป็นเรื่องเล็กแบบไม่มีความหมายในทันที เมื่อนำมาเทียบกับโครงการขนาดยักษ์ที่รัฐบาลประกาศจะเดินหน้าดำเนินการให้ ได้ในต้นเดือนตุลาคมนี้ นั่นคือโครงการรับจำนำข้าว
ส่วนหนึ่งเพราะ ในอดีตนั้น โครงการรับจำนำข้าวเป็นช่องทางในการแสวงหาประโยชน์ในทางมิชอบของนักการเมือง ที่รวมหัวกับพ่อค้าและข้าราชการมาโดยตลอด
รัฐบาลจะสามารถรับประกันได้เพียงใดว่าการรับจำนำข้าวครั้งนี้จะปลอดหรือมีการทุจริตน้อยที่สุด
ประการ ต่อมา การรับจำนำข้าวของรัฐครั้งนี้แตกต่างไปจากครั้งที่ผ่านๆ มาซึ่งมีการกำหนดจำนวนการรับจำนำเอาไว้แน่นอน เช่น 2 ล้านตัน หรือ 6 ล้านตัน
แต่ครั้งนี้รัฐบาลประกาศว่าพร้อมจะรับจำนำข้าวทั้งหมดที่ชาวนาผลิตได้ ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณประมาณ 23 ล้านตัน
การประกาศดังกล่าวอาจจะเป็นเพียงวิธีการที่จะแสดงให้เห็นว่าครั้งนี้รัฐบาล'เอาจริงเอาจัง'กับนโยบายดังกล่าว
แต่กระนั้นเจตนาดีและความเอาจริงเอาจัง ก็ยังต้องการวิธีปฏิบัติที่สุจริต รอบคอบ และครบถ้วนรอบด้านประกอบ
เพราะมีตัวอย่างของความล้มเหลวของเจตนาดีที่การปฏิบัติผิดพลาดให้เห็นมามากแล้วในอดีต
ข้อพึงระวังอีกประการหนึ่งก็คือ เมื่อรับประกันราคาข้าวเปลือกในราคาที่สูงถึงตันละ 15,000 บาท
รัฐบาล จะต้องมีมาตรการที่เข้ามาช่วยเหลือดูแลผู้มีรายได้น้อย หรือผู้รับเงินเดือนประจำทั้งหลาย ไม่ให้เดือดร้อนกับค่าครองชีพที่จะปรับตัวสูงขึ้น
นอกจากนั้นแล้ว สิ่งที่จะต้องพึงระวังก็คือนโยบายนี้ตั้งอยู่บนสมมติฐานว่า ราคาข้าวในตลาดโลกจะปรับตัวสูงขึ้นตามจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ผลผลิตลดลงหรือคงที่เพราะปัญหาภัยธรรมชาติ
ซึ่งหากความเป็นจริงไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์เอาไว้ รัฐบาลจะมีมาตรการใดมารองรับความเปลี่ยนแปลง
นี่จะเป็นบทพิสูจน์สำคัญระดับชี้เป็นชี้ตายของรัฐบาลปัจจุบัน
หวานเจี๊ยบบบบ
6 hours ago