ที่มา มติชน
ไม่ว่าจะเป็นโครงการบ้านหลังแรกในวงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถยนต์คันแรกลดภาษี 100,000 บาท ภายใน 1 ปี
ยังอยู่ในกรอบแห่ง "เคนเนเซี่ยน" ของ จอห์น เมย์นาร์ด เคย์นส์
แม้ว่าโครงการรับจำนำข้าวเปลือกในราคา 15,000 บาทต่อเกวียน พร้อมกับเงินที่ทุ่มลงไป 4.3 แสนล้านบาท เป้าหมายจะอยู่ที่ชาวนา
สะท้อนกลิ่นอายกระดูกสันหลังแห่งชาติ ซึ่งถูกทอดทิ้งมาอย่างยาวนาน
แต่ก็ยังอยู่ในหลักการแห่งการเข้าไปแสดงบทบาทของรัฐในจุดอันเหมาะสม ตามแนว ทางของ เคย์นส์
นั่นก็คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจโดย "รัฐ" เป็นกองหน้า
คล้าย กับโครงการบ้านหลังแรกและโครงการรถยนต์คันแรกจะกำหนดเป้าหมายอยู่ที่คนชั้น กลางในเมือง ขณะที่โครงการรับจำนำข้าวเปลือกจะกำหนดเป้าหมายไปยังชาวนาในชนบท แต่ทั้งหมดนี้ดำเนินไปภายในกรอบแห่งการสร้างกลไกให้เกิดการหมุนเวียนของทุน
เมื่อ เป็นบ้านหลังแรกย่อมอยู่ในกรอบแห่งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เมื่อเป็นรถยนต์คันแรกย่อมอยู่ในกรอบแห่งอุตสาหกรรมยานยนต์ ขณะที่เรื่องของชาวนาอยู่ในกรอบแห่งการ เกษตร
นี่คือ ดู-อัล แทร็ก กระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในเมืองและในชนบท
ถึง แม้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะมีคนเสื้อแดงเป็นรากฐานทางการเมือง แต่กรอบแห่งการกำหนดนโยบายก็ยังเป็นนโยบายประชานิยมภายใต้กระแสทุน
ยังมิได้เป็น "ลัทธิแดง" อย่างที่มีบางคนป่าวร้องเพื่อสร้างความหวาดกลัว
อย่าลืมเป็นอันขาดว่า ไม่ว่าคนเสื้อแดงจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่ว่าคนเสื้อแดงจากภาคเหนือ ไม่ว่าคนเสื้อแดงจากภาคกลาง
ล้วนเสพติดกับนโยบายประชานิยมของพรรคไทยรักไทย
เป็น นโยบายประชานิยมอย่างที่รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นำไปขยายให้ อลังการใหญ่โตมากยิ่งขึ้น จาก 30 บาทรักษาทุกโรค เป็นรักษาฟรี เป็นนโยบายประชานิยมอย่างที่พรรคภูมิใจนำไปประกาศเป็นของตนเอง
เพียงแต่รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทำ ชาวบ้านเขาไม่เชื่อ เพียงแต่เมื่อประกาศจากพรรคภูมิใจไทย ชาวบ้านเขาไม่ศรัทธา
อย่าได้แปลกใจหากคำขวัญที่นำเสนอใหม่คือ "ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ"
คำ ขวัญนี้ทำให้พรรคเพื่อไทยประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง ได้รับเลือกมากถึง 265 ส.ส. กำชัยเหนือทั้งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย และสามารถต่อยอดนโยบายจากพรรคไทยรักไทยมาถึงรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้อย่างเป็นรูปธรรม
ทุกอย่างอยู่ในกรอบของประชานิยม ทุกอย่างดำเนินไปตามแนว จอห์น เมย์นาร์ด เคย์นส์
กระแสคัดค้านต่อต้าน ไม่ว่าจะมาจากพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะมาจาก ทีดีอาร์ไอ ไม่ว่าจะมาจากปัญญาชน นักวิชาการ ยังเป็นเหมือนเดิม
นั่นก็คือ เสมอเป็นเพียงการคัดค้านในเรื่องวิธีการ ในเรื่องกระบวนการ
มิได้เป็นการคัดค้านในเรื่องหลักการอันเป็นแก่นแท้ นั่นก็คือ มิได้เป็นการเอาแนวคิดตรงกันข้ามกับหลักการทุนเสรีไปคัดค้าน
ทีดีอาร์ไอก็คิดในกรอบของทุนนิยม พรรคประชาธิปัตย์ก็คิดในกรอบของทุนนิยม
ที่มีการหยิบยกเอาคำว่า "ลัทธิแดง" มาเป็นอุทานเสริมบทก็เสมอเป็นเพียงถนิมพิมพาภรณ์ สร้างอลังการแห่งวาทกรรมเท่านั้น
พรรคเพื่อไทย หรือแม้แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังอยู่ในกรอบแห่งทุนเช่นเดียวกัน
เพียงแต่ความเก่งของพรรคเพื่อไทยก็คือ การสร้างสีสันให้กับทุนโดยการกระตุ้นทั้งระดับชนชั้นกลาง และชนชั้นล่าง
ทั้งในเมือง ทั้งในชนบท
แท้ จริงแล้ว โครงการจำนำข้าวเปลือกก็เท่ากับเป็นการแจกเงินให้ชาวนา เพียงแต่มีข้าวเปลือกมาเป็นสินทรัพย์เพื่อต่อยอด อันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงไปกับโครงการแจกเงินเฉยๆ ของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นี่คือความวิลิศมาหราอันเหนือกว่าของพรรคเพื่อไทยเมื่อเทียบกับของพรรคประชาธิปัตย์
มีความพยายามในการใส่สีตีไข่ วาดหัวต่อหาง นโยบายพรรคเพื่อไทยอย่างเจตนามากมาย
แต่ เมื่อกล่าวในเชิงเปรียบเทียบแล้ว นโยบายประชานิยมของพรรคเพื่อไทยกับนโยบายประชานิยมของพรรคประชาธิปัตย์ อยู่ในกรอบใกล้เคียงและเหมือนๆ กัน
เพียงแต่ "โนว์ฮาว" ของพรรคเพื่อไทย อลังการและน่าเชื่อถือมากกว่าเท่านั้น