ที่มา thaifreenews
โดย bozo
"จิรายุ ห่วงทรัพย์" ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดย่านมหาวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพ
พบกล้องซีซีทีวี 4 ตัว แต่เป็นกล่องเปล่า 2 กล่อง ลั่นเตรียมชงเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษในวันพรุ่งนี้...
เมื่อวันที่ 22 ก.ย. ที่บริเวณสะพานลอยหน้ามหาวิทยาเทคนิคกรุงเทพ
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ดังกล่าว
ตรวจสอบกรณีการติดตั้งกล้องวงจรปิด (ซีซีทีวี) ในพื้นที่กรุงเทพฯ
ซึ่งไม่มีอุปกรณ์ภายใน โดยตลอดช่วงคืนที่ผ่านมาจนถึงช่วงเช้าวันนี้
รองโฆษกพรรคเพื่อไทยได้สั่งให้ทีมงาน 2 คน คอยดูกล้องวงจรปิด
และรายงานสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเกรงว่ากล้องวงจรปิดที่มีแต่กล่อง
อาจถูกเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) มาถอดออก หรือเปลี่ยนแปลง
ทันทีที่มาถึงนายจิรายุได้เดินสำรวจกล้องวงจรปิด 4 ตัวที่ติดตั้งอยู่บนสะพายลอยทั้ง 2 ฝั่ง
ปรากฏว่า พบกล้องวงจรปิดที่สมบูรณ์แค่ 2 ตัว อีก 2 ตัวมีเพียงกล่องเปล่า
เพราะดูข้างในไม่พบวงจรกล้อง
นายจิรายุ กล่าวว่า จากนี้ไปทางพรรคเพื่อไทยจะปรึกษาหารือกับทีมกฎหมายของพรรค
และจะดำเนินการยื่นเรื่องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
ให้กรณีการจัดซื้อจัดจ้างติดตั้งกล้องวงจรปิดทั่วพื้นที่ กทม. เป็นคดีพิเศษ
เพราะการตรวจสอบต่อไปหลังจากนี้ จะกระทำได้ง่าย
เนื่องจากการขอข้อมูล สัญญาการว่าจ้างต่างๆ จากเจ้าหน้าที่ดีเอสไอสามารถทำได้
คาดว่าหลังจากในช่วงบ่ายวันนี้จะมีการยื่นกระทู้ถามสดในรัฐสภา
จากนั้นวันที่ 23 ก.ย. จะดำเนินการส่งเรื่องให้ดีเอสไอ
รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า
ยินดีที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ุ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องดังกล่าว
แต่ขอตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับบทบาทของผู้ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ อย่าง
พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ
มาทำหน้าที่เป็นประธานว่ามีความเหมาะสมหรือไม่
เนื่องจากสังคมต่างจับจ้องในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม ทางพรรคเพื่อไทยก็จะตั้งทีมขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้เช่นกัน
เพราะไม่อยากให้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ กทม. ถูกหลอก
นอกจากนี้ นายจิรายุ กล่าวต่อว่า
การที่ผู้ว่าฯ กทม. ออกมายอมรับว่า กล้องวงจรปิดที่ไม่มีอุปกรณ์เป็นกล้องดัมมี่
และทำตามขั้นตอนในสัญญาทุกอย่างนั้น
อยากให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ออกมาระบุให้ชัดเจน
เนื่องจากกล้องดัมมี่เป็นกล้องเปล่าที่ติดตั้งขึ้นมา
แต่ยังมีตัววงจรกล้องให้เห็น ส่วนรูปแบบของกล้องที่ไม่มีอุปกรณ์ใดๆ
ที่ทาง กทม. นำมาติดตั้งนั้น ถือเป็นเพียงกล่องเปล่าเท่านั้น
ในกรณีนี้ต้องออกมาอธิบายให้ชัดเจน
ส่วนกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างตั้งแต่สมัย นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน
ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตผู้ว่าฯ กทม.
มีการทำสัญญากับบริษัทรับประมูลต่างๆ ต่อเนื่องมาถึงสมัยของผู้ว่าฯ คนปัจจุบันนั้น
กรณีนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ นายจิรายุ กล่าวว่า
เนื่องจากแหล่งข่าวได้เข้ามาให้ข้อมูล มีกระบวนการที่ซ้ำซ้อน
มีการหักหลังกันจากธุรกิจรับประมูลกล้อง
จนสุดท้ายจำนวนกล้องที่ระบุไว้ในสัญญา อาจได้มาไม่ครบ เพราะเกิดการทุจริต
ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจะเร่งดำเนินการตรวจสอบต่อไป
"มันเป็นกระบวนการที่ซ้ำซ้อน มีการหักหลังกันของบริษัทฮั้วประมูลเกิดขึ้น
อย่างการติดตั้งกล้องต้องมีคนทำสร้าง
ดังนั้น ต้องไปจ้างบริษัทผลิตเสาและบริษัทกล้อง
คาดว่าน่าจะมีการขัดแย้งกันในเรื่องผลประโยชน์
จึงทำให้เกิดกรณีความไม่โปร่งใสและกล้องเปล่าเกิดขึ้น
สร้างความเดือดร้อนให้คนกรุงเทพฯ" นายจิรายุกล่าว
ทั้งนี้ การที่นายอภิรักษ์ออกมาระบุว่า กล้องซีซีทีวีที่มีแต่กล่องเปล่า
มีการติดตั้งในพื้นที่ที่มีการชุมนุมของกลุ่ม นปช. ที่ผ่านมานั้น
เรื่องนี้รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ปฏิเสธว่า ไม่น่าจะเป็นความจริง
เพราะอย่างพื้นที่มหาวิทยาเทคนิคกรุงเทพ ก็ไม่มีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง
อย่างพื้นลาดพร้าว ฝั่งธนฯ บางส่วน ก็ยังพบกล่องเปล่าพวกนี้จำนวนมาก
เพราะฉะนั้นจะนำข้อมูลนี้มากล่าวอ้างไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กำลังประสานไปยัง ส.ส.ของพรรค รวมทั้งทีมงานในแต่ละจังหวัด
ให้สำรวจการติดตั้งกล้องวงจรปิดในแต่ละพื้นที่ว่าพบเหตุการณ์ในลักษณะ กทม. บ้างหรือไม่
หากพบก็จะตรวจสอบกันต่อไป.
http://www.thairath.co.th/content/pol/203690