WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, February 21, 2011

โอละพ่อ ไม่รู้ว่าใครหลอกใคร .. กรณีเวบผู้จัดการเต้าภาพข่าวส่งสตรีมุสลิมฝึกรบต่างประเทศ

ที่มา Thai E-News



จับผิดภาพ-(ภาพบน)เวบไซต์เวบไซต์ผู้จัดการ ASTVนำเสนอภาพข่าว กลุ่มสตรีเยาวชนมุสลิมฝึกการใช้อาวุธสงครามในต่างประเทศ (ภาพล่าง)ต้นตอของภาพนี้น่าจะก๊อปปี้มาจาก You Tube ความจริงเป็นเด็กสาวชาวอาเจะห์ที่ต่อสู้กับรัฐบาลอินโดนีเซีย


โดย ปาแด งา มูกอ
21 กุมภาพันธ์ 2554

สืบเนื่องจากข่าวทางสื่ออินเตอร์เนท ของค่ายผู้จัดการASTV ที่ได้เสนอภาพข่าวและข้อมูลที่อ้างถึงหน่วยข่าวกรองในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา เสนอภาพข่าว ส่งสตรีมุสลิมชายแดนใต้ไปฝึกอาวุธที่ประเทศเพื่อนบ้าน นั้น กลายเป็นเผือกร้อนที่ทำให้หน่วยข่าวด้านความั่นคง โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 (ไก่อู 2) ในพื้นที่ชายแดนใต้ เกิดอาการผีเข้า กระวีกระวาดรีบออกมาชี้แจงแถลงไขเป็นการใหญ่

ผมเลยขอเปิดโปงถลกหนังหัวกลุ่มงาน ที่ทำให้นักรบไทยภาคใต้ของผม รวมถึงเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ งงเป็นไก่ตาแตก จะได้หูตาสว่างขึ้น ฉลาดขึ้น ทันเกมส์ขึ้น แล้วก็อย่าลืมตั้งใจปฏิบัติงานหน้าที่ให้สมกับยศ/ตำแหน่ง เงินเดือน,ค่าเสี่ยงภัย,เงินเพิ่มสู้รบ,เงินลับค่าข่าว (ที่เป็นเงินภาษีของผมและประชาชนทั้งชาติน่ะครับ ไม่ใช่ของรัฐบาลหรือเป็นของคุณพ่อคุณแม่คุณน่ะ ) รวมถึงเงินพิเศษปาฎิหาริย์ที่มันหล่นมาเอง เสียหล่ะ....

หากจำได้ในห้วงระยะเวลาตั้งแต่ปี 2551-2553 เป็นต้นมา ข่าวสารข้อมูลในลักษณะพิสดาร,ข่าวสารข้อมูลในลักษณะแจ้งเตือนเหตุการณ์หรือสถานการณ์ต่างๆ จากสื่ออินเตอร์เนทหรือสื่อออนไลส์ ที่ปรากฏอย่างต่อเนื่อง นั้น บรรดาท่านนักการข่าว ท่านเคยสงสัยอะไรบ้างไหมกับข่าวสารข้อมูลนั้นๆ หรือว่านอกจากจะไม่สงสัยแล้ว ยังทะลึ่งไปลอกข่าวของเขามารายงานให้นายปัญญาอ่อนไปอ่านเล่น

จนบางครั้งนายปัญญาอ่อนของคุณยังออกมาให้สัมภาษณ์สอดรับไปกับข้อมูลข่าวสารเหล่านั้นเข้าไปด้วย เลยเกิดทำให้ข่าวสารข้อมูลนั้นๆมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น เพราะมันหลุดออกมาจากปากของผู้ที่น่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะเป็น นรม.ก็ดี รอง นรม.ฝ่ายความมั่นคงก็ดี ผบ.ทบ.ก็ดี แม่ทัพภาค 4 ก็ดี ผวจ.ก็ดี นั่นแหล่ะเข้าทางของฝ่ายตรงข้ามเข้าแล้ว หรือตกหลุมพรางเขาเข้าแล้ว จำไว้

ทีนี้ก็มาเข้าเรื่องที่จะอธิบายให้ฟัง เอ้าตั้งใจฟังให้ดีพ่อนักการข่าวภาคใต้ทั้งหลาย

ในสถานการณ์ความรุนแรงจังหวัดชายแดนใต้ขณะนี้ นอกจากภัยจากกลุ่มฝ่ายตรงข้าม (ที่ไม่เคยเอาชนะเขาได้เลยไม่ว่าอีกกี่สิบปีข้างหน้า) แล้ว ภัยที่ทุกคนอาจมองข้าม เพราะหนึ่งอาจมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว สองอาจจะไม่ได้รับการอบรมหรือชี้แจงจากหน่วยเหนือหรือผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น สามอาจจะไม่สันทัดในเรื่องคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะอินเตอร์เนท

สื่งที่ทุกคนมองข้ามนี้แหล่ะ คือภัยรูปแบบใหม่ ภัยที่ร้ายแรงยิ่งกว่าการสู้รบประหัตประหารกันด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์อันทันสมัย (รวมถึงบอลลูนเหาะที่เพิ่งจะเหาะได้) ภัยที่ว่าดังกล่าว คือภัยทางอินเตอร์เนทหรือออนไลน์ ที่ทุกท่านเพียงแต่คิดว่า เฮ้ยมันจะมีอะไรวะ ก็ไอ้แค่เล่นเกมส์ที่ลูกๆมันติดกันงอมแงม ไอ้แค่ดูหนังโป๊ลามกที่เพื่อนและตัวกูดูทุกวัน ก็ไม่เห็นมันจะมีอะไรที่มันเป็นภัยอะไรเลย นั่นแหล่ะท่านคิดผิดแล้ว

ภัยที่ว่านี้คือภัยด้านความมั่นคงของประเทศและจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในยุคสมัยที่เรียกว่า “การทำสงครามทางอินเตอร์เนท” หรือ “สงครามไซเบอร์”

ผมเชื่อว่า 90 เปอร์เซ็นต์หรืออาจมากกว่า เจ้าหน้าที่ทหาร,ตำรวจ,ฝ่ายปกครอง รวมถึงนายทุกหน่วยงานบางคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ จะไม่รู้หรือรับรู้ในเรื่องภัยอันนี้เลย ผมเชื่อเช่นนั้นจริงๆ เพราะได้เคยพูดคุยกับบรรดาขุนทหาร,เบี้ยตำรวจระดับนายพลหลายคน ท่านเหล่านั้นเล่นคอมฯไม่เป็นครับ

มันบอกว่ากูมีลูกน้องมันเล่นเป็น จบ

ดังที่กล่าวข้างต้นว่า ในห้วงระยะเวลาตั้งแต่ปี 2551-2553 ข่าวสารข้อมูลที่แพร่มาจากอินเตอร์เนทหรือออนไลล์ จะเป็นข่าวในลักษณะเจาะลีกที่สื่อหลักหรือสื่อท้องถิ่นไม่มี และจะเป็นข่าวสารข้อมูลที่น่าตื่นเต้นสำหรับนักการข่าวเมื่อพบเห็นเข้าจากสื่อหลัก หรือเปิดดูทางอินเตอร์เนท

ที่น่าตื่นเต้นก็เพราะว่าสำนักข่าวที่แพร่ข่าวเขาเน้นว่า เป็นข่าวสารข้อมูลจากหน่วยข่าวด้านความมั่นคงในพื้นที่หรือของรัฐ หรือจากแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่รัฐ นี่แหล่ะที่ทำให้ฉิบหายวายป่วง ดังเช่นกรณี ข่าวเรื่องส่งสตรีมุสลิมชายแดนใต้ไปฝึกอาวุธที่ประเทศเพื่อนบ้าน

แล้วท่านทราบหรือไม่ว่า สื่ออินเตอร์เนทหรือออนไลล์ เขาไปคาบข่าวมาจากไหน ต้นตอของข่าวมาจากที่ใด มาผมจะพาไปดู

นี่คือต้นฉบับของสื่ออินเตอร์เนท หรือออนไลน์ เวบไซต์ผู้จัดการ ASTV ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2554 หัวข้อข่าว เผยภาพกลุ่มสตรีเยาวชนมุสลิมฝึกการใช้อาวุธสงคราม

โดยเวบไซต์นี้ลงข่าวว่ามาจากผู้สื่อข่าวจังหวัดยะลา

ทีนี้มาดูว่า ต้นตอของข่าวมันมาจากไหน ...

ASTV มันก็อปปี้มาจาก You Tube ครับ ต้นฉบับ เมื่อ กันยายน 22, 2009 อยากดูให้มันเชิญเลยครับ สำหรับท่านที่เล่นเนทได้ ที่ http://www.youtube.com/watch?v=tdtL2RgEKs8&feature=related

นี่ไงครับที่สื่อออนไลน์ ASTV มันบอกว่า “หน่วยงานด้านความมั่นคง ได้แจกจ่ายรูปภาพเด็กเยาวชนหญิงมุสลิม ถืออาวุธปืนสงคราม ในลักษณะเป็นการฝึกอาวุธ ไปตามหน่วยงานต่างๆในพื้นที่ เพื่อตรวจสอบว่า รูปเยาวชนที่ปรากฏอยู่ในภาพนั้น เป็นเยาวชนในพื้นที่หรือไม่ หลังพบข่าวการฝึกกลุ่มแนวร่วมรุ่นใหม่ เพื่อปฎิบัติการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้”

ถึงบางอ้อหรือยังครับ ท่านนักการข่าวทั้งหลาย อย่าไปโง่กับมันน่ะครับ กับไอ้พวกที่อ้างว่า “ ขอตายเพื่อประเทศชาติ ประชาชน และราชบังลังก์ ” อย่าไปเชื่อมันเชียวน่ะครับ ขนาดเตี่ยมันตาย มันยังไม่เหลียวแลเลย ใช่ไหมไอ้เจ๊ก(ลิ้ม)ขายชาติ

สรุปที่มาของกลุ่มงานดังกล่าว

สื่อออนไลล์ประเภทนี้ จะรับเด็กหนุ่มสาวในจังหวัดชายแดนใต้ที่เชี่ยวชาญทางอินเตอร์เนท ถ้าเป็นนักแฮกเกอร์ด้วยก็ยิ่งดี หน้าที่หลัก หนึ่งพยายามหาข้อมูลข่าวสาร,ภาพถ่าย,คลิปวีดีโอ ที่สามารถนำมาเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ หรือสถานการณ์ทางใต้ให้มากที่สุดไว้เป็นฐานข้อมูล

สอง การเสนอข่าว ให้อ้างถึงหน่วยงานของรัฐโดยเฉพาะหน่วยข่าวด้านความมั่นคง เป็นหลักเพื่อเพื่มความน่าเชื่อถือน่าติดตาม

สาม เพื่อความปลอดภัยของตัวเองเมื่อถูกตรวจสอบ

เหนือฟ้ายังมีฟ้า

สื่อออนไลน์ประเภทนี้ อาจจะหลงตัวเองว่ากูเก่ง กูยอด ไม่มีใครตามทัน ไม่แน่น่ะครับ คุณมึงรู้รึเปล่า ไอ้บรรดานักข่าวของคุณน่ะ มันอาจจะเป็น “ตุรงแง” ระดับผู้เชี่ยวชาญทางอินเตอร์เนท ที่แฝงตัวทำงานกับคุณมึงก็ได้

ทีนี้บรรดานักข่าวของผมก็เริ่มตาสว่างขึ้นแล้วล่ะซิ โดยเฉพาะท่านบรรดานายพันนายพล ผู้ว่าฯทั้งหลายอย่าไปหลงกลมันน่ะครับ ปาแด เตือนท่านแล้วน่ะคร๊าบ........!!!!!!!