ที่มา ประชาไท
ชื่อบทความเดิม: สถานการณ์การเมืองไทย ต้องมองให้เห็นความจริง จึงจะขับเคลื่อนได้ถูกต้อง และสามารถ change ให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติได้จริง
ก.*ประเทศไทยวิกฤตหนัก จากโครงสร้างและระบบที่ไม่เป็นธรรม สถาบันสำคัญของสังคม โดยเฉพาะกระบวนการทางการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ล้าหลัง ไม่ทันสมัย ไม่มีความเป็นธรรม ขาดประสิทธิภาพ ไม่ได้ประสิทธิผล ตกอยู่ในระบบอุปถัมภ์ ไม่มีความเป็นอิสระ ตามไม่ทันและไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะแก้ปัญหาใหญ่ของชาติได้ และจมอยู่ในวังวนกับปัญหาของตนเอง เอาผลประโยชน์ของตนเองเป็นหลัก
คน สังคมไทยขาด ผู้นำที่มีบารมีระดับรัฐบุรุษที่สังคมทุกฝ่ายยอมรับ คนมีหน้าที่ขาดความรับผิดชอบต่อสังคม ผู้นำทางการเมืองขาดความรู้ประสบการณ์อุดมการณ์และความเสียสละกล้าหาญเพื่อส่วนรวม จนปัญหาทุกเรื่องทุกด้าน มาบรรจบกันเป็นวิกฤตใหญ่ของประชาชนและประเทศ
ข.การมองเห็นความจริงของสังคมยากมาก เพราะโลกและสังคมไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว อยู่ในภาวะสับสนซับซ้อน (Complex system) และโกลาหล (Chaos) อีกทั้งองค์ความรู้ของสังคม มีไม่พอ หรือไม่ทันกับวิกฤตใหญ่ และคนก็ไม่สนใจศึกษาหาความรู้ความจริง แต่มองแค่ปรากฏการณ์และข่าวเท่านั้น
สิ่งที่เกิดขึ้นในสังคม คือ สังคมไทยยังไม่มีทางออก ยังไม่มีแนวทางการแก้ปัญหาที่ได้ผลจริง, สถาบัน พรรค กลุ่มคน และปัจเจกชน มีวิธีคิด มุมมอง จากจุดยืนหน้าที่และผลประโยชน์ของตน ใจไม่ใหญ่มองไม่ไกลไปถึงอนาคต มัวแต่แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปวันๆ และขับเคลื่อนไป โดยไม่สนใจกับกลุ่มหรือคนอื่นๆ ขาดแนวคิดเรื่องการแสวงหาความร่วมมือกับฝ่ายอื่นคนอื่น ที่อยู่บนพื้นฐานของความเคารพและให้เกียรติกัน โดยผลที่เกิดขึ้น มักจะเป็นการทำลายตนเองมากกว่าจะเป็นการสร้างสรรค์ ทั้งต่อองค์กรของตนเอง และการหาทางออกให้กับประชาชนและประเทศชาติ
การขาดความรู้และข้อเท็จจริง ทำให้ทุกฝ่ายเสนอทางออก มีลักษณะเอียงซ้ายป่ายขวา เชื่อคนและข่าวลือที่มีข้อมูลตรงกับความคิดและผลประโยชน์ของตน เอาข่าวตามสื่อมาวิจารณ์บอกเล่าต่อกลุ่มองค์กรและสาธารณะ ขณะเดียวกันคนในสังกัดหรือมวลชน มักจะเชื่อตามผู้นำที่ตนเชื่อถือศรัทธา และพร้อมจะทำตามโดยไม่คิด หรือขาดความรู้ข้อมูลที่จะคิด ลักษณะเช่นนี้ ทำให้สื่อมีอำนาจสูง และผู้นำทุกวงการมักจะใช้สื่อเป็นเครื่องมือสร้างความเชื่อให้แก่ประชาชนเพื่อผลประโยชน์ของตนและพวกพ้อง โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องเป็นธรรม ขณะเดียวกับผู้นำหรือสื่อก็ขาดความรับผิดชอบและการสรุปบทเรียน ทำให้ความผิดถูกทำซ้ำ และความถูกต้องไม่เกิดขึ้นหรือเกิดขึ้นยาก
ทัศนะการใช้ความคิดและผลประโยชน์ของตนเป็นหลัก ไม่ศึกษาหาความรู้และความเป็นจริง การเชื่อ และฟังแต่เรื่องที่ถูกจริตกับตน จากผู้คนและคนใกล้ชิดคนรอบข้างที่มักจะสรรเสริญเยินยอ และพร้อมที่จะรับฟังคำสั่งอย่างดุษฎีโดยไม่โต้แย้ง และการไม่รับฟังคนและความคิดที่แตกต่างจากตน รวมทั้งการขาดความเคารพผู้คน (มวลชน) เป็นเหตุแห่งความเสื่อมของผู้นำ และเป็นการปิดปัญญา ที่จะนำความจริงและทางออกมาสู่สังคม
ค.มาดูเรื่องและประเด็นสำคัญ ที่เกิดขึ้น และมองแตกต่างกันของผู้คนในสังคมไทยปัจจุบัน
1.เรื่องการเลือกตั้ง
๑. มีหรือไม่มีการเลือกตั้ง
๒. การเลือกตั้งใหม่ จะเป็นการแก้ไขปัญหาวิกฤตของสังคมได้หรือไม่
๓. การไม่มีการเลือกตั้ง จะเกิดขึ้นได้อย่างไร ทางใด กกต.ลาออกเหลือไม่ถึง 3 คน, กฎหมายลูกไม่ผ่านรัฐสภา, มาตรา 3, มาตรา 7 ฯลฯ
๔. การรัฐประหาร การปฏิวัติของประชามหาชน รัฐบาลแห่งชาติ รัฐบาลพระราชทาน ผลดีผลเสีย
๕. การ Vote NO ควรทำหรือไม่ จะได้ผลจริงจังไหม ผลดีผลเสียที่เกิดขึ้น ใครได้ใครเสีย
๖. ผลของการเลือกตั้ง จะมีการยุบพรรค การให้ใบเหลืองใบแดง
2.ใครเป็นรัฐบาล นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา
๑. พรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย โดยมี นายอภิสิทธิ์ เป็นนายก
๒. พรรคเพื่อไทย กับพรรคขนาดกลาง sme โดยมี นอมินีทักษิณ หรือ เสธหนั่นฯ เป็นนายก
3.การปฏิรูปสังคมและการเมือง
๑. โอกาสและความเป็นจริงที่จะเกิดขึ้น
๒. จะเกิดหรือควรเกิดก่อน หรือ หลังการเลือกตั้ง
๓. ใครจะเป็นผู้ทำ พรรคการเมือง (เสนอเป็นสัญญาประชาคม) ผู้นำสังคม นักธุรกิจ ภาคประชาชน
4.กรณีความขัดแย้งเรื่องข้อพิพาทระหว่าง ไทยกับกัมพูชา
๑. ความเป็นเอกภาพของรัฐบาลพรรคร่วมและข้าราชการประจำ นายก. รมว.ต่างประเทศ รมว.กลาโหม
๒. ความร่วมมือกันระหว่างรัฐบาล ฝ่ายค้าน พธม. ฯลฯ มีความเป็นไปได้ไหม และจะเกิดขึ้นได้อย่างไร
๓. จะจบลงอย่างไร และเมื่อใด พื้นที่ 4.6 ตร.กม (2880ไร่) พื้นที่ชายแดนอื่นๆ และพื้นที่ทางทะเล
๔. กรณีมรดกโลกและพื้นที่บริเวณมรกดโลก, การเป็นคณะกรรมการมรดกโลกของไทย ฯลฯ
๕. กรณีคุณวีระ และ คุณราตรี จะได้รับการปล่อยจากคุก เมื่อใด และอย่างไร
๖. กรณีศาลกัมพูชา ตัดสินว่า7คนไทย มีความผิดรุกล้ำแดนดินแดนกัมพูชา จะมีผลต่อการเสียดินแดน?
5.การชุมนุมของ พธม., กลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ, กองทัพธรรม
๑. ผลสำเร็จ ผลดี ผลเสีย จะชุมนุมยาวแค่ไหน และจะหยุดเมื่อไหร่ ก่อนหรือหลังการเลือกตั้ง
๒. เป้าหมายที่แท้จริง คืออะไร ต่อต้านระบอบทักษิณ ปกป้องสถาบัน สร้างประชาธิปไตยที่แท้จริง หรือผลประโยชน์ส่วนตน
๓. การสนับสนุนจากมวลชนเดิม พธม. ประชาชน มีมากน้อยแค่ไหน เพราะอะไร
๔. คดีของแกนนำ พธม.คดี 7ตุลาคม 2551 เกิดขึ้นเพราะอะไร และจะได้รับความเป็นธรรมหรือไม่
๕. จะมีการนิรโทษกรรมหรือไม่ อย่างไร และเมื่อใด
6.การเคลื่อนไหวของนปช. กลุ่มคนเสื้อแดงหลากหลายกลุ่ม รวมทั้งนักวิชาการและสื่อแดง ฯ
๑. ผลสำเร็จ ผลดี ผลเสีย จะชุมนุมยาวแค่ไหน และจะหยุดเมื่อไหร่ ก่อนหรือหลังการเลือกตั้ง
๒. เป้าหมายที่แท้จริง คืออะไร เปลี่ยนแปลงการปกครองฯ รับใช้ทักษิณ สร้างประชาธิปไตย หรือผลประโยชน์ส่วนตน
๓. การสนับสนุนจากมวลชนเดิม, ประชาชน มีมากน้อยแค่ไหน เพราะอะไร
๔. คดีของแกนนำ คดี 2552-3 เกิดขึ้นเพราะอะไร และจะได้รับความเป็นธรรมหรือไม่
๕. จะมีการนิรโทษกรรมหรือไม่ อย่างไร และเมื่อใด
ง.ข้อเสนอแนะ
1.สถาบันหลักที่สำคัญของสังคม จะต้องมีการปรับตัวครั้งใหญ่ ให้ทันสมัย มีความเป็นธรรม มีประสิทธิภาพ ได้ประสิทธิผล มีความเป็นอิสระ และมีศักยภาพเพียงพอ ที่จะแก้ปัญหาใหญ่ของชาติได้
2.คน สังคมไทยต้องพัฒนาให้มีคุณภาพและมีความรับผิดชอบและเร่งพัฒนาสร้างความเป็นผู้นำในทุกระดับ
3.ผู้นำทางการเมือง ต้องมีความรู้ประสบการณ์อุดมการณ์และความเสียสละกล้าหาญเพื่อส่วนรวม
4.พรรคการเมืองทุกพรรค โดยเฉพาะพรรคที่จะเป็นรัฐบาลสมัยหน้า ควรจะมีนโยบายปฏิรูปสังคมและการเมืองที่เป็นรูปธรรมทำได้จริง เสนอเป็น สัญญาประชาคม ให้กับประชาชนในการเลือกตั้ง
5.พรรคการเมืองใหม่ ซึ่งเป็นพรรคสีขาว มีโอกาสมากกว่าทุกพรรค เพราะเน้นการประสานงานในสภาเข้ากับการเคลื่อนนอกสภา และการร่วมมือกับทุกภาคส่วนในสังคม และประกอบด้วยคนมีอุดมการณ์ที่ได้ผ่านการพิสูจน์ จนเป็นที่ยอมรับของประชาชนและสังคม และมีลักษณะทั่วประเทศ ควรจะมีการเสนอนโยบายหลักเฉพาะหน้าที่สำคัญ โดยเฉพาะการปฏิรูปสังคมการเมือง และการเลือกตั้ง ภาคประชาชนและกลุ่มบุคคลที่มีอุดมการณ์รักชาติรักประชาธิปไตย ควรจะให้การสนับสนุน
6.รัฐบาลทั้งรัฐบาลนี้ และรัฐบาลใหม่ ควรมีวาระแห่งชาติ เรื่องการแก้ปัญหาอธิปไตยไทย ทั้งต่อกัมพูชา และประเทศที่มีดินแดนติดกับไทย รวมทั้งเรื่องเขตแดนในทะเลด้วย
7.พรรคการเมือง และนักการเมือง นอกจากจะต้องยอมรับการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนนอกรัฐสภา เพราะเป็นเรื่องของประชาธิปไตยแล้ว ควรจะต้องมีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนให้เข้มแข็งอีกด้วย
8.ภาคประชาชนจะต้องเร่งพัฒนาปรับปรุงตนเองอย่างเร่งด่วนเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง และให้มีความเข้มแข็งและคุณภาพพอเพียงทั้งตัวองค์กรและบุคคล ที่จะเผชิญกับวิกฤตใหญ่ที่จะเกิดขึ้นภายในไม่กี่ปีที่จะมาถึง และต้องสามารถประสานความร่วมมือกับทุกฝ่ายในการทำงานแก้ไขวิกฤตใหญ่ของประชาชน และประเทศได้ โดยเฉพาะกับรัฐบาลและรัฐสภา รวมทั้งภาควิชาการสื่อต่างๆและภาคประชาชนด้วยกัน โดยเฉพาะกับคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป (คสป.) และคณะกรรมการปฏิรูป (คปร.)