ที่มา ข่าวสด
คอลัมน์ เหล็กใน
สมิงสามผลัด
ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเสียแล้ว สำหรับข้อกล่าวของพรรคเพื่อไทยเรื่องการทำงานที่ล่าช้าของรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ที่ล่าสุดเกิดภัยพิบัติขึ้น 2 เหตุการณ์ใหญ่ๆ ในไทย
เหตุการณ์แรกแผ่นดินไหวเขย่าภาคเหนือจนเกิดความเสียหายในหลายจังหวัดเมื่อคืนวันพฤหัสฯที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา
ตามติดๆ ด้วยเหตุการณ์ฝนถล่มจนเกิดน้ำท่วมใหญ่(อีกครั้ง)ใน 12 จังหวัดภาคใต้
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยวิพากษ์การทำงานของนายอภิสิทธิ์ที่นิ่งดูดาย ไม่ใส่ใจความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน
โจมตีว่าเป็นนายกฯเทวดา กลัวตาย กลัวเปียก
ที่ว่าล่าช้าก็มีมูลจริงๆ เพราะว่าทั้ง 2 เหตุการณ์ล่วงเลยมา 3-4 วันแล้ว
ชาวบ้านไม่เคยเห็นนายอภิสิทธิ์ลงพื้นที่ดูความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวเลย
จนมองกันว่าเพราะกลัวอาฟเตอร์ช็อกหรือเปล่า !?
ส่วนน้ำท่วมใหญ่และโคลนถล่ม ทั้งที่จ.นครศรีธรรม ราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร พัทลุง ตรัง ฯลฯ
สูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินมหาศาล
ผ่านมาแล้ว 3-4 วัน พี่น้องชาวปักษ์ใต้ก็ไม่เห็นเงานายอภิสิทธิ์ลงไปดูแล
ทั้งที่เป็นพื้นที่ฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์แท้ๆ
ความจริงเรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นแล้ว นายอภิสิทธิ์โดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในการแก้ปัญหาน้ำท่วมใหญ่ทั่วประเทศเมื่อปีก่อน
ความอืดอาดล่าช้าเป็นที่ประจักษ์กันอยู่แล้ว
กว่าจะยอมลุยน้ำเข้าไปเยี่ยมผู้ประสบภัยก็ปล่อยให้ล่วงเลยกันจนน้ำใกล้แห้ง
พิธีกรรายการทีวีอย่างนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ยังได้รับยกย่องมากกว่านายกรัฐมนตรี ในการออกไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในครั้งนั้น
หลังน้ำลดลงแล้ว นโยบายการช่วยเหลือของรัฐบาลก็ยังช้ายิ่งกว่าเรือเกลือ
เงินเยียวยากว่าจะถึงมือชาวบ้านก็ต้องทวงแล้วทวงอีก
ยิ่งการป้องกันอุทกภัยก็ถือว่าล้มเหลว
ไม่มีการเตรียมการรับมือให้เป็นรูปธรรม
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเคยประกาศเตือนแล้วว่า ในปีนี้จะมีพายุดีเปรสชันเข้าถล่มไทยถึง 5 ลูกใหญ่
แค่พายุลูกแรกก็อ่วมไปทั้งภาคใต้
ไม่อยากย้ำจริงๆ ว่านี่คือผลพวงของนายกฯบ่มแก๊ส
เจียดเวลาขึ้นโพเดียมปาฐกถาไปดูความทุกข์ยากของประชาชนบ้าง
จะเป็นประโยชน์มากกว่านี้อีกเยอะ