ที่มา ข่าวสด
เหล็กใน
มันฯ มือเสือ
อาจเป็นเพราะ นายกฯ อภิสิทธิ์ ประกาศจะยุบสภาในสัปดาห์แรกของเดือนพ.ค.
ซึ่งกว่าจะไปถึงจุดนั้นยังเหลือเวลาอีกเดือนเศษ มากพอให้ใครต่อใครทั้งฝ่ายที่อยากและไม่อยากให้มีการเลือกตั้ง คิดฟุ้งซ่านไปต่างๆ นานา
บ้างกลัวว่าทหารจะปฏิวัติเสียก่อน บ้างก็กลัวกกต.ทั้ง 5 คนจะลาออกจนไม่เหลือใครทำหน้าที่จัดการเลือกตั้ง
เรื่องปฏิวัตินั้นที่จริงน่าจะจบไปตั้งแต่ 'บิ๊กตู่' พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ยืนยันกองทัพพร้อมสนับสนุนการเลือกตั้ง
และไม่ทำปฏิวัติเด็ดขาด
ตรงนี้ยังมีประเด็นสอดแทรกอยู่หน่อยตรงที่ บิ๊กตู่ พูดต่อไปด้วยว่า "ไม่ว่าพรรคใดขึ้นมาเป็นรัฐบาล ผมก็เป็นผบ.ทบ.เหมือนเดิม" ทำให้มีการนำไปตีความทำนองว่า 'เก้าอี้ข้าใครอย่าแตะ'
บิ๊กตู่ เลยร้อนใจต้องรีบออกมาอธิบายว่าที่พูดไม่ได้หมายความอย่างนั้น
ที่ต้องการสื่อความหมายจริงๆ คือไม่ว่าพรรคใดมาเป็นรัฐบาล ตนเองก็ไม่ได้มีตำแหน่งสูงขึ้นไปกว่านี้ ยังเป็นผบ.ทบ.เหมือนเดิม
พูดอีกอย่างคือทหารไม่จำเป็นต้องไป 'ล้มกระดาน' การเลือกตั้ง เพราะไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียด้วย
ทีนี้มาถึงเรื่องที่ นางสดศรี สัตยธรรม บ่นเบื่อการเมืองน้ำเน่า และบอกจะลาออกจาก กกต. ถ้าได้รับเลือกเป็นคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย
ทำให้ฝ่ายที่อยากเห็นการเลือกตั้งตกอกตกใจเกรงว่า กกต.ที่เหลืออีก 4 คนอาจถอดใจตามอย่างนางสดศรี ไม่ต้องทั้ง 4 คน แค่อีก 2 คนก็เจ๊งทันที
เพราะกฎหมายกำหนดให้ กกต.ต้องมีอย่างน้อย 3 คนถึงจะคงสภาพทำหน้าที่ต่อไปได้
แต่ประเด็นนี้ก็น่าจะจบไปได้เช่นกัน
เนื่องจาก กกต. 4 คน โดยเฉพาะ นายประพันธ์ นัยโกวิท นายสมชัย จึงประเสริฐ นายวิสุทธิ์ โพธิแท่น ต่างยืนยันพร้อมอยู่ทำหน้าที่ต่อไป
ขณะที่ นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ใช้วิธี 'แทงกั๊ก' ว่าถ้ามีใครมากดดันก็จะลาออกเหมือนกัน แต่ถ้าไม่มี ก็ไม่ออก
คิดในแง่ดี นายอภิชาต อาจแค่ต้องการพูดตีกันหรือดักคอไว้ก่อนเท่านั้น
คงไม่ได้จะชี้ช่องให้ฝ่ายผู้มีอำนาจ ฉวยโอกาสกด ดันเพื่อเพิ่มเปอร์เซ็นต์ความเป็นไปได้ที่จะไม่มีการเลือกตั้ง
ฉะนั้น ควรเลิกฟุ้งซ่านกันได้แล้ว