ที่มา ข่าวสด
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 27 มีนาคม กลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงใน จ.มหาสารคาม และจากจังหวัดทั่วภาคอีสาน กว่า 5,000 คน ทยอยเดินทางมารับฟังการปราศรัยของแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ แกนนำ นปช. อย่างคึกคัก ท่ามกลางการความรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เมืองมหาสารคาม กว่า 200 นาย โดยมีการตั้งด่านตรวจอาวุธอย่างเข้มงวด ตลอดริมถนนถีนานนท์มีรถยนต์ของคนเสื้อแดงจอดเต็มทั้งสองฝั่ง ทำให้คนเสื้อแดงจากต่างจังหวัดหลายร้อยคนต้องจอดรถเดินเท้าเข้ามายังเวที ระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร นอกจากนี้รถยนต์อีก กว่า 200 คัน ต้องเข้าไปจอดในสวนสาธารณหนองข่า ตรงข้ามวัดป่าศุภมิตรสิทธาราม
บนเวทีได้มีการแสดงหมอลำ ร้องรำทำเพลงสร้างความสนุกสนานให้กับผู้ชุมนุม จากนั้นแกนนำ นปช.มหาสารคาม ก็สลับสับเปลี่ยนกันขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาล และปลุกระดมมวลอย่างต่อเนื่อง โดยมี นายชาติอาทิตย์ ทัณฑะรักษ์ แกนนำ นปช.มหาสารคาม เป็นพิธีกรดำเนินรายการบนเวที
เวลา 19.30 น. นายสุทิน คลังแสง อดีต ส.ส.มหาสารคาม เขต 6 พรรคไทยรักไทย และประธาน นปช.มหาสารคาม ได้ขึ้นเวทีกล่าวขอบคุณกลุ่มคนเสื้อแดงทุคนที่มาร่วมทำบุญทอดผ้าป่า และร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ซึ่งรายได้จากการจัดงานทั้งหมด กว่า 500,000 บาท จะนำไปเป็นกองทุนคนเสื้อแดงมหาสารคาม และก่อตั้งสถานีวิทยุธรรมาธิปไตย เอฟเอ็ม 99.25 เมกะเฮิร์ตซ์ เพื่อเปิดพื้นที่ให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลข่าวสารบ้านเมืองที่ถูกต้อง ไม่บิดเบือนความจริง
ต่อมาเวลา 20.30 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และ แกนนำ นปช. ได้ขึ้นเวทีปราศรัย กล่าวถึงกรณีที่กองทัพเบิกกระสุนปืน จำนวน 300,000 นัด ไปใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อเดือนเมษายน - พฤษภาคม ที่ผ่านมา แต่รัฐบาลไม่ตอบคำถามเกี่ยวกับการเบิกกระสุนของกองทัพ เป็นการจนมุมของรัฐบาล เพราะจำนวนกระสุนที่หายไปนั้น สอดคล้องกับการเสียชีวิตของกลุ่ม นปช. ทั้ง 91 ศพ
ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศจะยุบสภาในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม นั้น ไม่มีหลักประกันใดๆ ว่าจะทำตามคำพูด แต่ขณะนี้มีบุคคลมีสีบางกลุ่มไปบล็อกคนของพรรคเพื่อไทย แต่ถึงอย่างไรพรรคเพื่อไทยจะต้องเดินหน้าไปถึงการเลือกตั้งให้ได้ เพราะผลโพลจากหลายสำนักระบุว่า พรรคเพื่อไทยจะคว้าชัยทั่วประเทศ แต่ถึงอย่างไรเราก็ต้องระวังเพราะอาจถูกปล้นชัยชนะได้ เพราะฉะนั้นเราจะต้องสู้กับกลโกง ไม่ให้มีการจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหารเหมือนครั้งที่ผ่านมา
เวลา 21.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โฟนอินมายังเวทีปราศรัย กล่าวว่า จะกลับมาคืนศักดิ์ศรีความเป็นไทยให้กับทุกคน โดยการปลดหนี้ ลูกหลานมีที่เรียน มีงานทำ ต่อไปนักศึกษาที่จบปริญญาตรีจะต้องมีงานทำและมีรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาท แต่ทั้งหมดจะเป็นจริงได้ก็ต่อเมื่อพี่น้องประชาชนคนเสื้อแดงทุกคน เลือก ส.ส. ของพรรคเพื่อไทย เพราะหากได้เสียงข้างมากก็จะได้จัดตั้งรัฐบาล และได้กลับมาทำงานสานต่อนโยบายต่างๆ ที่เคยให้ไว้กับประชาชน ส่วนคนที่เคยอยู่พรรคเพื่อไทยแต่ย้ายหนีไปสังกัดพรรคอื่น ขอให้พี่น้องประชาชนคนเสื้อแดงกวาดล้างให้เกลี้ยง
รายงานข่าวแจ้งว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้เวลาในการโฟนอินมายังเวทีปราศรัย ประมาณ 10 นาที หลังจบการปราศรัยได้มีการจุดพลุดังสนั่นหลายสิบนัด ก่อนแยกย้ายกันกลับภูมิลำเนา