ที่มา thaifreenews
โดย ลูกชาวนาไทย
หากพูดตรงๆ คือ พรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นเจ้าของคนเสื้อแดง แต่คนเสื้อแดงต่างหากที่เป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทย เพราะหากไม่มีคนเสื้อแดงเป็นฐานเสียงค้ำจุนที่สำคัญ พรรคเพื่อไทย หรือ พรรคพลังประชาชน ก็๋ล่มสลายแตกกระสานซ่านเซ็นไปนานแล้ว ส่วนหนึ่งก็คงไปอยู่กับไอ้ห้อย ส่วนหนึ่งไปเพื่อแผ่นดิน ส่วนหนึ่งไปรวมใจไทยชาติพัฒนา อะไรประมาณนั้น
แต่ที่รวมกันอยู่ได้แม้ จะต้องเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนกรรมการบริหารมา 3 ครั้งแล้ว ก็เพราะว่า "ฐานเสียงคือ คนเสื้อแดงยังอยู่"
พูดตรงๆ พรรคนี้ กลุ่มนี้คือ "พรรคเสื้อแดง" นั่นเอง แต่การลงเล่นการเมืองในระบบของไทย ก็คือ ต้องมีการจดทะเบียน มีระบบ ก็จดในชื่อพรรคอะไรก็ได้ พลังประชาชน เพื่อไทย เป็นต้น
วันข้างหน้าอาจโดนยุบ "ทะเบียน" อีก แต่ก็คงเกิดพรรคการเมืองของคนเสื้อแดงชื่ออื่นอีก
หากขบวนการคนเสื้อแดงยังอยู่ และวันนี้เข็มแข็งมากขึ้นกว่าเดิมมาก มีกรรมการจังหวัง อำเภอ ระดับภาค และระดับประเทศ การจะจดทะเบียนพรรคใหม่แล้วโตเท่าเดิมเป็นเรื่องธรรมดาๆ
สส.ที่ย้ายพรรคไป ก็จะเจอกับอนาคตทางการเมืองที่ไม่แน่นอน เพราะไม่มีฐานเสียงที่หนาแน่น ต้องวัดดวงเอาว่่า "ระบบอุปถัมป์ท้องถิ่น" แบบเดิมยังจะใช้ได้อยู่หรือไม่ หากใช้ไม่ได้ พฤติกรรมการเลือกตั้งของประชาชนเป็๋นเลือกพรรคมากกว่าตัวบุคคล พวกนั้นก็จบอนาคตทางการเมือง
ทางแก้ของพรรคเพื่อไทยคือ กรรมการบริหารก็ต้องหาคนโนเนมเข้ามาเป็น ยุบไปก็ตัดสิทธิ์คนเหล่านั้น และเชื่อว่า การยุบข้างหน้าไม่มีความหมาย เพราะพวกที่โดนตัดสิทธิ์ 111 คน ก็จะถึงเวลากลับเข้ามาได้แล้ว ภายใต้ยุทธศาสตร์ใหม่ เอากรรมการบริหารจากคนที่โนเนมมาเป็๋น การยุบพรรคของคนเสื้อแดงจะไม่มีผลต่อคนเสื้อแดงมากนัก
แต่มีผลต่อภาพรวมของอำมาตย์เรื่องสองมาตรฐาน และกลายเป็นเชื้อเพลิงให้่กับคนเสื้อแดงที่เอาไปใช้่ในการปราศรัยทางการเมืองได้อย่างเต็มที่
ดังนั้น จะไปกลัวยุบพรรคทำไม