ที่มา มติชน
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 21 เมษายน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง แถลงที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล ลาดพร้าว ถึงกรณีที่มีการตบเท้าของทหารในกองทัพหลายหน่วยงานว่า จากสถานการณ์การเมืองและข้อมูลเชิงลึกที่ได้รับจากผู้หวังดี ทำให้จำเป็นต้องแจ้งว่าเหตุการณ์ตบเท้าของเหล่าทหารในกองทัพ แล้วอ้างว่าเพื่อปกป้องสถาบันนั้น ตนได้ข้อมูลมาว่าความเคลื่อนไหวเหล่านี้นั้นมีเนื้อแท้เป็นการเช็คแถวเตรียมความพร้อมสำหรับการทำรัฐประหารของคนในกองทัพ โดยมีนายทหารบกยศนายพลในราชการ แจ้งกับตนว่ามีการคิดอ่านเตรียมการใหญ่โตที่จะสกัดการเลือกตั้ง เนื่องจากทุกกระแส ทุกผลสำรวจ ทุกโพลสรุปตรงกันว่าพรรคการเมืองที่จะชนะการเลือกตั้งคือพรรคเพื่อไทย จึงมีการแสดงพลังของกองกำลังทหารที่ใกล้ชิดกับนายทหารใหญ่ที่กุมอำนาจอยู่ในปัจจุบัน เพื่อโชว์ตัวว่าพร้อมที่จะเคลื่อนกำลังออกมาทำรัฐประหาร เพื่อให้ผู้นำเหล่าทัพมั่นใจว่ามีความพร้อม
“สถานการณ์ที่เป็นไปในวันนี้เกี่ยวโยงกันทั้งหมด โดยจะมีการหาเรื่องให้มีการถอนประกันแกนนำคนเสื้อแดง จากนั้นก็จะรอให้มีการยุบสภา แล้วค่อยลงมือ โดยมีชื่อเรียกปฏิบัติการณ์นี้ว่า ′ถอน ยุบ ยึด′ ซึ่งได้ข่าวมาว่าจะเริ่มต้นในสัปดาห์หน้าที่จะมีการถอนประกัน แล้วรอให้ยุบสภาต้นเดือนพฤษภาคมและยึดอำนาจ แต่ถ้ากระบวนการยุติธรรมพิจารณาแล้วให้ความเป็นธรรม และเมตตาคนเสื้อแดง ไม่ถอนประกันแกนนำคนเสื้อแดง สิ่งที่จะทำในปฏิบัติการครั้งนี้คือเมื่อมีการยุบสภาก็จะมีการยึดอำนาจทันที โดยจะบุกควบคุมตัวแกนนำคนเสื้อแดงให้แล้วเสร็จก่อนที่จะดำเนินการกับผู้นำในรัฐบาล ซึ่งจะเป็นการยึดอำนาจที่ประหลาดที่สุดในโลก” นายณัฐวุฒิกล่าว
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ล่าสุด ในวันที่ 21 เมษายน นางธิดา ถาวรเศรษฐ รักษาการประธาน นปช. และนายสมหวัง อัศราศรี รักษาการรองประธาน นปช. ได้เดินทางไปมาเลเซีย เพื่อพบกับนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความเจ้าของสำนักงานกฎหมายอัมสเตอร์ดัมแอนด์เปรอฟ เพื่อหารือถึงการนำเรื่องการสังหารหมู่ในกรุงเทพฯ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของศาลอาญาระหว่างประเทศ และหารือถึงขบวนการต่อต้านการรัฐประหารที่อาจจะเกิดขึ้นในประเทศไทย เพื่อที่จะดำเนินการยกระดับการต่อต้านการรัฐประหารในประเทศไทยสู่ในระดับนานาชาติ โดยคนเสื้อแดงมอบหมายให้นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม เป็นตัวแทนของคนเสื้อแดงในการเรียกร้องต่อต้านรัฐประหารต่อสหประชาชาติและทุกองค์กรทั่วโลก