ที่มา มติชน เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 23 เม.ย. พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ได้วีดีโอลิ้งค์เข้ามาในงานเปิดตัวนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่ศูนย์ประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โดยได้สนับสนุนกกต. ที่เสนอระเบียบการเลือกตั้งโดยไม่มีการนำเอาสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้อง พร้อมกับยืนยันแม้ว่าจะอยู่ต่างประเทศแต่จะไม่สละสัญชาติเด็ดขาด อีกทั้งยังลั่นด้วยว่าหากตนกลับไปแล้วไม่จงรักภักดีขอให้ประชาชนประชาทัณฑ์ได้เลย นโยบายประชาธิปไตยเพื่อปรองดอง ถามว่าเราทะเลาะกันทำไม น่าจะมาดูว่าจะทำนโยบายประชาธิปไตยเพื่อให้เกิดความปรองดองได้อย่างไร ทีมงานที่มาร่วมช่วยกันคิดเสนอว่า หนึ่ง ต้องมีการเลือกตั้งที่ยุติธรรม ปราศจาการแทรกแซงจากบุคคล และองค์กรใด มีคณะกรรมการทำงานอย่างเป็นอิสระ เป็นกลางอย่างแท้จริง ในเรื่องการปฏิบัติอยากฝากไปถึงคณะกรรมการเลือกตั้ง และประธานว่าให้ทำงานเป็นกลาง แน่นอนว่า จะมีทั่วโลกจับตามอง หากไม่ยุติธรรมจะเป็นอันตรายต่อเสถียรภาพของประเทศ สามคือ ต้องไม่มีการใช้อำนาจนอกระบบแทรกแซงการทำงานของฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ และองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ต้องทำหน้าที่อย่างยุติธรรม โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบอำนาจของทุกองค์กร สี่คือ พิทักษ์และยึดมั่นการปกครองประชาธิปไตย ไม่ใช้สถาบันเป็นเครื่องมือทางการเมือง ห้าคือ สถาบันทหารต้องมีไว้เพื่อพิทักษ์เอกราช บูรณะภาพแห่งดินแดน ความมั่นคงของรัฐ ปกป้องคุ้มครองประชาชน ไม่ใช้กำลังหทหารเป็นเครื่องแก้ปัญหา หรือกดดันทางการเมือง หกคือ ตั้งสภาร่างรธน. เพื่อแก้ไขให้เป็นรัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง โดยให้ประชาชนลงมติ จะใช้รธน.ไหนเป็นฐานในการยกร่าง เมื่อยกร่างแล้วให้ประชาชนลงมติอีกครั้ง แถลงนโยบาย พ.ต.ท. ทักษิณกล่าวถึงนโยบายของพรรคในวันนี้ว่า มีหลายคนช่วยคิดและตนก็เอาประสบการณ์ในฐานะที่ทำธุรกิจและถูกบังคับให้เที่ยวไปทั่วโลก มารวมกัน รับฟังทั้งหมด รวบรวมจากทุกอย่างไม่ใช่คิดโดยตัวคนเดียว
พ.ต.ท. ทักษิณ กล่าวว่า วันนี้ความจงรักภักดีเป็นเรื่องในใจทุกคน ไม่ต้องมาอวดว่าใครมีมากกว่ากัน เปรียบเหมือนรถที่ติดสติ๊กเกอร์ "รักในหลวง" แต่ไปชนคน ตร.เห็นว่ามีสติ๊กเกอร์ก็ไม่จับ แต่เมื่อไปดูที่บ้านคนถูกชนก็มีรูปในหลวง เคารพ และรักในหลวง อาจรักยิ่งกว่าคนชนด้วยซ้ำ สิ่งที่เกิดขึ้น คือ คนเอาเรื่องความนี้มาเป็นเรื่องการเมือง
อดีตนายกฯยังกล่าวอีกว่า ตนเห็นด้วยกับกกต.ที่ไม่ให้ยกเรื่องความจงรักภักดีมาใช้การเมือง ผมขอสนับสนุน การเมืองต้องไม่เอาเรื่องสถาบันเข้ามา ตนจะทำหน้าที่ด้วยความกตัญญูและจงรักภักดี ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะอะไร
สองคือ ทุกฝ่ายต้องรับผลการเลือกตั้ง ไม่มีการใช้อำนาจนอกระบบ แทรกการจัดตั้งรัฐบาล อย่าบังคับการรวมร.ที่ค่ายทหาร
สุดท้ายคือ คืนความเป็นธรรม และเยียวยา ผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการกระทำที่สืบเนื่องจากการทำรัฐประหารปี 2549 รัฐธรรมนูญชั่วคราว และฉบับ 2550 ซึ่งนี่คือ เรื่องหลัก ถ้าบ้านเมืองไม่มีเสถียรภาพ ไม่เป็นน้ำหนึ่งนำใจเดียวกันจะแก้ปัญหาลำบาก
แนวคิดนโยบายของพท.ใช้แนวคิด "ดูเรา และ ดูโลก" เข้าใจตัวเองและเข้าใจว่าโลกไปทางไหน เราอยู่กับตัวเองไม่วิ่งตามโลกก็เจ๊ง จึงต้องเข้าใจเรา และโลก เพื่อวิ่งไปโดยไม่ทิ้งคนข้างหลัง รู้เท่าทันทุนนิยม และรู้ข้อจำกัดของเรา
โปรเจคแรก จากที่มีคนทำนายว่ากทม.จะจมน้ำอีกสิบปี เพราะ กทม.จะต่ำกว่าน้ำทะเล โลกร้อนขึ้นน้ำแข็งจะละลาย และน้ำทะเลหนุนเข้ามา ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยเมื่อได้เป็นรัฐบาลแล้ว ขอแนะนำว่าให้ทำเขื่อนลึกลงไปในทะล 10 กม. ความยาวประมาณ 30 กม. ตั้งแต่สมุทรสาคร ยัน ปากน้ำ แต่ไม่ต้องกู้
สิ่งที่ทำ คือ ทำเขื่อนแล้วถมทะเลลงไป ได้เพื้นที่ใหม่ประมาณ 300 ตารางกม. ประมาณเกือบ 2 แสนไร่ โดยมีต้นทุนในการถมทรายตกประมาณวาละ 12,000 บาท เพราะฉะนั้นเราจะได้เมืองใหม่มาทั้งเมือง ตรงนี้จะเป็นการวางผังเมืองที่ทันสมัย สร้างศูนย์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไอซีที, แหล่งอุตสาหกรรมที่ไม่ก่อมลภาวะจะอยู่ที่นี่ โดยไม่ต้องกู้ สร้างเมืองโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
เรื่องน้ำ ขอปรับปรุงลุ่มน้ำทั้ง 25 ลุ่ม รวมถึงดึงน้ำจากประเทศเพื่อนบ้าน เขื่อนฮัตจี จากพม่า เขื่อมน้ำงึม ลาว หรือ สตึงนัม จากกัมพูชา ถ้าเราไม่ทะเลาะก็สามารถพูดคุยกันได้ น้ำเขาเยอะเราก็เอามาใช้จะได้ไม่แล้ง และเก็บให้เป็นจะได้ไม่ท่วม ด้วยการเชื่อมแม่น้ำด้วยคลองใหม่ ดังที่สมัยตอนเป็นนายกฯให้เชื่อมแม่น้ำปิง เข้าหากันให้ถ่ายเทน้ำเข้าหากัน
รถไฟฟ้าจะดำเนินการสร้างให้ครบทั้ง 10 สาย ในกทม. เก็บค่าบริการตลอดสาย 20 บาท ทุกสถานีจะสร้างเมืองที่มีความพร้อมในตัวเอง เอาไว้สร้างคอนโด และแฟล็ตให้คนรุ่นใหม่ หรือคนจากต่างจังหวัดที่ไม่มีที่อยู่ สามารถเช่าในราคาถูก เดินทางถูก ค่าเช่าประมาณเดือนละ 1 พันกว่าบาท ต้องให้คนไทยที่มีรายได้น้อยตั้งตัวได้
ทำรถไฟรางคู่เชื่อมชานเมืองทั้งหมด ทำรถไฟความเร็วสูง ไปเชียงใหม่ ไปโคราช ไประยอง ขยายแอร์พอร์ตลิงค์ ไปฉะเชิงเทรา ไปชลบุรี ไปพัทยา
สำหรับภาคใต้ จะต้องทำสะพานเศรษฐกิจเชื่อม 2 ฝั่งระหว่างอันดามัน กับอ่าวไทยแต่ต้องคำนึงถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม และไม่ทับพื้นที่ของพี่น้องมุสลิมที่ใช้เป็นสุสาน
ทั้งหมดนี้เป็นเมกะโปรเจค เพื่อลดเวลาการขนส่ง ลกภาระประชาชน เป็นการลงทุนให้เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็ว เชื่อว่าหากทำตามที่กล่าวมานี้เศรษฐกิจไทยจะแข็งแรงและเติบโต
"ที่ใช้คำว่าขอคิดใหม่ ทำใหม่อีกครั้งเพราะ ที่เราคิดแล้วทำไปต้องทำให้ดีกว่าเดิม แล้วปรับตามยุคสมัย"
ส่วนยาเสพติด พรรคเพื่อไทยต้องจัดการยาเสพติดให้หมดภายใน 12เดือน ไม่ใช่ติดป้ายโชว์ 2,500 คน ชาติหน้าก็ไม่หาย เพราะ เรียกว่าทำไม่เป็น ทฤษฎีการบริหารนั้นทำไม่ได้ผล การบริหารจัดการผิดพลาด ยาเต็มบ้านเต็มเมืองเพราะ พ่อค้ายาคือส่วนหนึ่งที่ช่วยล้มตน
ที่สำคัญคือการทุจริตซื้อขายตำแหน่งไม่ว่าจะเป็นตำรวจ หรือฝ่ายปกครอง ผู้กำกับโรงพักธรรมดาตำแหน่งละ 2 ล้าน ตำแหน่งหนึ่งราคาเป็นล้าน วันนี้ปชช.เดือดร้อนเพราะว่าทุกคนรักความก้าวหน้า แต่ว่าความก้าวหน้าถูกบังคับว่าความดีไม่เป็นไร เอาเงินอย่างเดียว