ที่มา ข่าวสด
ไม่เกี่ยวปมแดง ลายจุดจัดรำลึก ร้องปปช.สอบ อภิสิทธิ์-เทือก คดี89ศพไม่คืบ
เสื้อแดงยื่น "ป.ป.ช." สอบ "มาร์ค-เทพเทือก -ดีเอสไอ" สลายม็อบ 89 ศพผ่านมา 10 เดือนคดีไม่คืบ ทั้งที่ควรจะรู้แล้วใครผิด "จตุพร" ชี้ "บิ๊กจิ๋ว" ลาออกพิสูจน์มิตรแท้ ลั่นถ้าหมิ่นสถาบัน ไม่ขออยู่เป็นปัญหาของพรรค ขณะที่ "ก่อแก้ว" ยันการต่อสู้ของเสื้อแดงต้องเดินควบคู่กับเพื่อไทย ระบุเหตุจิ๋วไขก๊อก คนแก่อกหัก ผิดหวังตำแหน่งนายกฯ ที่ทักษิณไม่สนับสนุน "อภิวันท์" หนุนส.ส.ต้องแยกนปช. แต่คงไม่ถึงขั้นโดดเดี่ยว เพราะมีจุดประสงค์เดียวกัน "ธาริต" ออกหมายเรียก 18 นปช.มารับข้อกล่าวหาแล้ว พร้อมทั้งยื่นถอนประกัน "พายัพ-สุภรณ์" ด้าน "บ.ก.ลายจุด" นำผูกผ้าแดงสี่แยกราชประสงค์ ที่นี่มีคนตาย รำลึกเม.ย.-พ.ค.อำมหิต
11 เดือน - นายสมบัติ บุญงามอนงค์ บ.ก.ลายจุด นำมวลชนคนเสื้อแดงทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ รำลึก 11 เดือน 19 พ.ค. 91 ศพ บริเวณแยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 19 เม.ย.
ยื่น"ป.ป.ช."สอบมาร์ค 89 ศพ
เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิป ไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อมด้วยนายสมหวัง อัสราษี นางพะเยาว์ อัคฮาด และนายณัทพัช อัคฮาด แม่และน้องชายของ น.ส.กมนเกด อัคฮาด หรือน้องเกด พยาบาลอาสาที่ถูกยิงเสียชีวิตภายในวัดปทุมวนาราม เดินทางเข้ายื่นหนังสือกล่าวโทษ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และพนักงานสอบสวนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จากกรณีชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต 89 ศพ จากเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ในเดือนเม.ย.-พ.ค. 2553 โดยมีนายอภินันท์ อิศรางกูร ณ อยุธยา เลขาธิการป.ป.ช. เป็นผู้รับเรื่อง
นายจตุพรกล่าวว่า ขณะนี้ดีเอสไอยุติการสอบสวนคดีสลายม็อบเสื้อแดงแล้ว ในส่วนที่ไม่ทราบตัวผู้กระทำความผิด ทั้งที่คดีผ่านมา 10 เดือนแล้ว ควรจะต้องทราบแล้วว่าใครเป็นผู้กระทำความผิด เชื่อว่าคดีนี้มีการถ่วงเวลา จึงขอให้ป.ป.ช.เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง
"ตู่"ชี้"จิ๋ว"ออกพิสูจน์มิตรแท้
นายจตุพรกล่าวถึงการลาออกของพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ว่าถือเป็นดุลพินิจส่วนตัว และก็ไม่ได้ให้เหตุผลลาออก ที่ผ่านมา พล.อ.ชวลิตเป็นผู้ที่มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี โดยเฉพาะกับพวกตน และข้อกล่าวหาที่ดีเอสไอดำเนินการก็เป็นเท็จทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม การยื่นใบลาออกของพล.อ.ชวลิต น่าจะเกิดจากหลายปัจจัย เพราะหากมีข้อสงสัยใดๆ พล.อ. ชวลิต ก็สามารถสอบถามกับตนได้ทุกเรื่องอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นคณะทำงานกำหนดยุทธศาสตร์ของพรรคร่วมกัน
"ผมเคารพในการตัดสินใจของพล.อ.ชวลิต และพรรคเพื่อไทยก็ต้องเดินหน้าต่อไป เพื่อจะต่อสู้กันในสนามการเลือกตั้ง เชื่อว่าหลังวันที่ 23 เม.ย. เมื่อประกาศนโยบาย และผู้สมัครอย่างชัดเจน ทุกอย่างจะนิ่ง เพราะเราได้ผ่านมรสุมต่างๆ มามากแล้ว ต่อไปพรรคก็จะเหลือเลือดแท้ และมิตรแท้ที่จะต่อสู้ในสนามเลือกตั้ง โดยหลังจากวิกฤตครั้งนี้ก็จะรู้ว่าใครเป็นมิตรแท้" ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทยกล่าว
ยันถ้าหมิ่นจริง-ไม่ขออยู่"พท."
แกนนำนปช.กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีกกต.จะออกกฎหมายบังคับพรรคการเมือง ห้ามนำสถาบันมาใช้ประโยชน์ในการหาเสียงนั้น ถ้าจะเอากันจริงๆ พรรคเพื่อไทยไม่เดือดร้อน แต่พรรครัฐบาลจะเดือดร้อนมากกว่า เพราะพรรคภูมิใจไทยก็ออกมาคัดค้านแล้วว่าไม่เห็นด้วย และนายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ก็ทักท้วงกรณีพรรคการเมืองพรรคหนึ่งนำพระ บรมฉายาลักษณ์มาแจก โดยอ้างว่าได้รับพระบรมราชานุญาต แต่ทางสำนักราชเลขาธิการมีหนังสือแจ้งมายังครม.ว่า ไม่ได้มีการขออนุญาต แล้วกรณีดังกล่าวเคยเกิดขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2544 กกต.แจกใบเหลืองให้ผู้สมัครของพรรคการ เมืองหนึ่งที่ถ่ายรูปคู่กับพระบรมฉายาลักษณ์ และนำมาใช้ในการหาเสียง
นายจตุพรกล่าวว่า ดังนั้น เรื่องที่นายชุมพลยกตัวอย่าง หากมีการดำเนินการจริงจัง ก็จะนำไปสู่การยุบพรรคได้แน่นอน จึงอยากเรียกร้องนายอภิสิทธิ์ ออกมาเปิดเผยหนังสือจากสำนักราชเลขาธิการด้วย และยืนยันว่าในส่วนของพรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช.ที่ออกมาพูด ไม่ได้หมิ่น เพียงต้องการออกมาตักเตือนให้พรรคการเมืองระมัดระวังในการนำสถาบันไปใช้ในการหาเสียง อย่างไรก็ตาม หากตนเองผิดจริงก็จะไม่ขออยู่เป็นปัญหาในพรรค และเป็นภาระของเพื่อน
หัวเราะ"ดีเอสไอ"ถอนประกัน
นายจตุพรกล่าวต่อกรณีดีเอสไอยื่นถอนประกันว่า ก็เรียนกฎหมายมาเหมือนกัน เป็นไปไม่ได้ที่ดีเอสไอจะนำคดีความผิดกรณีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ไปถอนประกันคดีก่อการ ร้าย เพราะเป็นคนละเรื่องกัน และไม่ว่าใครพอเห็นลีลาการยื่นประกันแบบนี้ก็ต้องหัวเราะ ยิ่งไปกว่านั้นยังเตรียมแจ้งข้อกล่าวหากับคนที่ยืนล้อมรอบ ทั้งที่หลายคนไม่ได้พูดอะไรเลย แต่ต้องโดนแจ้งข้อกล่าวหาไปด้วย เพราะมายืนรอบข้างตน
"สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้พรรคเพื่อไทยระส่ำระสาย และในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย ผมก็ได้ชี้แจงว่าไม่ได้กล่าวปราศรัยหมิ่นสถาบัน แม้ว่าเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ผมไม่ได้กล่าวปราศรัย แต่ที่ผ่านมาก็โดนนายสุเทพกล่าวหาผม และพ.ต.ท. ทักษิณทุกวันว่าล้มเจ้า ล้มสถาบัน ดังนั้น ผมจึงไปแจ้งความกลับทั้งในคดีหมิ่นประมาท แจ้งความเท็จ และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ผมพูดชัดว่าขอร้องไม่ให้รัฐบาลนำทหารรักษาพระองค์ และทหารเสือราชินี มาเข่นฆ่าประชาชน เพราะทหารทั้ง 2 หน่วยขึ้นกับรัฐบาล รัฐบาลเป็นคนสั่ง ไม่อยากเชื่อว่า การเตือนและคนที่เตือนจะต้องถูกดำเนินคดีเสียเอง" นายจตุพรกล่าว และเมื่อถามว่า หากถูกถอนประกันจะหาเสียงอย่างไร นายจตุพร กล่าวสั้นๆ ว่า ก็หาเสียงในคุก
"ก่อแก้ว"ยันแดงเดินคู่เพื่อไทย
ด้านนายก่อแก้ว พิกุลทอง หนึ่งในแกนนำนปช. กล่าวถึงพล.อ.ชวลิต ลาออกจากพรรค เนื่องจากไม่สบายใจในเนื้อหาการปราศรัยของนปช.ว่า นั่งฟังการปราศรัยเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ไม่เห็นว่ามีจุดไหนพาดพิง หรือหมิ่นสถาบัน แต่ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างนปช.กับทหาร เพราะทหารเข้ามายุ่งกับการเมือง และหาทางช่วยเหลือพรรคประชาธิปัตย์ โดยโจมตีจุดอ่อน ของพรรคเพื่อไทย แต่เมื่อเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านก็มีจุดอ่อนน้อย จึงมุ่งที่จุดอ่อนของคนเสื้อแดงมากกว่า
นายก่อแก้วกล่าวว่า จริงๆ แล้วการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยครั้งนี้ ต้องเดินควบคู่กันระหว่างเสื้อแดงกับพรรคเพื่อไทย เพราะเห็นแล้วว่ากลไกในสภาไม่สามารถตอบสนองกับการแก้ปัญหาได้ แต่เมื่อแกนนำเสื้อแดงจะไปลงสมัครส.ส. ต้องยึดเวทีของพรรคเป็นหลัก เพราะเวทีของเสื้อแดงมีการร้องรำทำเพลง อาจหมิ่นเหม่ผิดกฎหมายเลือกตั้งได้ ส่วนหลังเลือกตั้งเมื่อผลออกมาเป็นอย่างไร เป็นดุลพินิจของแกนนำที่ได้เป็นส.ส. ว่าจะขึ้นเวทีอย่างไรไม่ให้กระทบกับพรรค
ชี้เหตุจิ๋วออก-คนแก่อกหัก
"มวลชนคนเสื้อแดง เป็นมวลชนของพรรคเพื่อไทย ดังนั้น อย่าเหนียมกันอีกเลย เพราะหากต่อต้านหรือไม่เห็นด้วยกับแกนนำเสื้อแดง เท่ากับไม่เอามวลชนคนเสื้อแดงเหมือนกัน จริงๆ แล้วเมื่อเราถูกฝ่ายตรงข้ามเล่นงาน หากเป็นพวกเดียวกันก็ควรออกมาช่วยเหลือ ปกป้อง ไม่ใช่มากระทืบซ้ำ เมื่อเป็นอย่างนี้เป็นภาพที่ไม่ดี ไม่น่าเกิดขึ้น พรรคเพื่อไทยควรขอบคุณนาย จตุพร ที่ยืนเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันมาตลอด ถ้าไม่มีนายจตุพร ไม่รู้ว่าพรรคเพื่อไทยถูกยุบไปกี่ครั้งแล้ว ส่วนที่พล.อ.ชวลิตลาออก คงเป็นเรื่องบังเอิญที่มาลาออกตอนนี้ แต่สาเหตุที่แท้จริงน่าจะเป็นเรื่องตำแหน่งนายกฯ ที่พล.อ.ชวลิตหวังไว้ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ มีทีท่าชัดเจนสนับสนุนคนใกล้ตัว จึงเข้าข่ายคนแก่อกหักมากกว่า" นายก่อแก้วกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะทำความเข้าใจกับพรรคเพื่อไทยอย่างไร นายก่อแก้วกล่าวว่า เข้าใจว่าส.ส.ส่วนใหญ่เข้าใจ เพราะยังเชิญแกนนำคนเสื้อแดงไปปราศรัยในพื้นที่อยู่ตลอด เรื่องนี้ถ้าพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส น่าจะรู้ว่าเวลาที่พ.ต.ท. ทักษิณ ใครกันแน่ที่ยืนอยู่เคียงข้างมาตลอด และนักการเมืองคนไหนที่เวลา พ.ต.ท.ทักษิณ เพลี้ยงพล้ำก็ถอยห่างออกไป หรือไปยืนอยู่ฝั่งตรงกันข้าม จึงอยากให้รอดูกันว่าหากพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งแล้วได้จัดตั้งรัฐบาล คนที่ไม่เคยโผล่หน้าออกมาเลยจะออกกันมาสลอน ขอให้ดูให้ดีว่าใครกันแน่ที่ยืนอยู่เคียงข้างพรรคมาตลอด
"อภิวันท์"ย้ำแยกส.ส.-แดง
ที่รัฐสภา พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร และ ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการลาออกจากประธานพรรคเพื่อไทยของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ว่า พล.อ.ชวลิตไม่ได้ให้เหตุผลการลาออก และก็ไม่เห็นใบลาออก ส่วนตัวรู้สึกเสียดาย เพราะเคยร่วมงานกันมาก เมื่อถามว่าหากเข้าสู่การเลือกตั้งแล้ว จะต้องแยกบทบาทพรรคเพื่อไทย ออกจากกลุ่มเสื้อแดงหรือไม่ พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า นปช.กับพรรคเพื่อไทย เป็นคนละส่วนกัน เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้คุยกับนาย จตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช. ยอมรับว่าคนส่วนใหญ่เห็นว่าภายหลังพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ผู้สมัคร ส.ส. ควรขึ้นเวทีปราศรัยที่กกต.จัดให้
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าผู้สมัครส.ส.พรรคเพื่อไทยไปขึ้นเวทีนปช.ไม่ได้ พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ต้องแยกกันให้เด็ดขาด ในการประชุมพรรคเพื่อไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พูดชัดเจนว่า กลุ่มเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยต้องแยกกันให้เด็ดขาด แต่เรามีจุดร่วมอย่างเดียวกันคือ เรียกร้องประชาธิปไตย และ ความยุติธรรมที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน
แต่มีจุดประสงค์เดียวกัน
ต่อข้อถามว่ามีความชัดเจนหรือยัง กรณี ผู้สมัครส.ส.ที่เป็นแกนนำคนเสื้อแดง จะถูกส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องกับการคัดเลือกตัวผู้สมัคร หรือเป็นกรรมการบริหารพรรค ต้องถามนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผอ.คัดเลือกผู้สมัคร ส่วนตัวเห็นว่าพรรคต้องเลือกบุคลากรที่มีคุณภาพ และมีความเสียสละ พร้อมทำหน้าที่รับใช้ประชาชน ส่วนผู้สมัครเป็นแกนนำเสื้อแดงจะแยกบทบาทออกจากพรรคเพื่อไทยได้อย่างไรนั้น ต้องขึ้นอยู่กับตัวผู้สมัครเองว่าหากลงสนามเลือกตั้งแล้วต้องปฏิบัติตนอย่างไร ต้องแยกแยะให้ได้ เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากที่พ.ต.ท.ทักษิณสั่งให้แยกบทบาทของพรรคเพื่อไทยออกจากกลุ่มเสื้อแดง จะเกิดความขัดแย้งหรือไม่ เพราะเหมือนกับให้พรรคเพื่อไทยโดดเดี่ยวคนเสื้อแดง พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า คงไม่ใช่ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้บอกว่าให้แยกกันเด็ดขาด แต่บอกว่าเป็น กลุ่มคนที่ประสงค์อย่างเดียวกัน คือความยุติธรรมที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ดังนั้น ต้องทำงานคู่ขนาน แต่ต้องแยกบทบาทให้ดี อย่างไรก็ตาม ความเป็นจริงคนเสื้อแดงแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ครึ่งหนึ่งเรียกร้องประชาธิปไตยไม่เกี่ยวข้องกับพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งมีคนทุกสาขาอาชีพ และอีกครึ่งสนับสนุนพรรคเพื่อไทย
ส.ส.เชื่อไม่กระทบเลือกตั้ง
ส่วนนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ส.ส.เชียง ใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการลาออกของพล.อ.ชวลิต ว่า คงไม่มีเจตนาทำร้ายพรรคเพื่อไทย หากพูดในแง่เลือกตั้งก็ไม่มีอะไร เพราะพล.อ.ชวลิตไม่ได้เป็นส.ส. หรือกรรมการบริหารพรรค แต่มีสถานะคือประธานพรรค ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับตัวของหัวหน้าพรรค ว่าต้องไปหาประธานพรรคคนใหม่หรือไม่ ส่วนการจัดตัวผู้สมัครส.ส. เมื่อยังไม่ได้ประกาศก็ถือว่ายังไม่มีผลกระทบ แต่ยอมรับว่าการลาออกมีผลกระทบในแง่ความรู้สึกต่อกันเล็กน้อย เพราะพล.อ. ชวลิตเข้ามาช่วยงานพรรคพอสมควร
ผู้สื่อข่าวถามว่าต่อไปนี้พรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดง จะแยกบทบาทออกจากกันอย่างไร ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คงเหมือนเดิม แต่ขอไม่ให้พูดพาดพิง เพราะเป็นเรื่องรายละเอียด เชื่อว่าสมาชิกจะเข้าใจ เพราะจะเข้า สู่เลือกตั้งแล้ว เมื่อถามว่าในการเลือกตั้งพรรคจะมีมาตรการรัดกุม ไม่ให้เกิดการปราศรัยพาดพิงสถาบันอย่างไร นายบุญทรงกล่าวว่า กำลังหาวิธีการเกี่ยวกับเรื่องนี้ อาจออกเป็นหนังสือ และสมาชิกพรรคต้องระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะหลังประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งแล้ว
เรียก 18 นปช.รับทราบข้อหา
ด้านนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า ในวันที่ 19 เม.ย.นี้ ดีเอสไอออกหมายเรียกแกนนำนปช. กรณีกล่าวปราศรัยล่วงละเมิดสถาบัน ในการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว สำหรับรายชื่อแกนนำกลุ่มนปช.ที่ถูกกำหนดให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาชุดแรก ในวันที่ 2 พ.ค. ประกอบด้วย น.พ.เหวง โตจิราการ, นางธิดา โตจิราการ, นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์, นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ และ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศีรษะ
อธิบดีดีเอสไอ กล่าวต่อว่า ส่วนชุดที่ 2 ในวันที่ 3 พ.ค. ประกอบด้วย นายสมชาย ไพบูลย์, นายขวัญชัย ไพรพนา, นายวิเชียร ขาวขำ, นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย, นายการุณ โหสกุล, นายก่อแก้ว พิกุลทอง และชุดที่ 3 ในวันที่ 4 พ.ค. ได้แก่ นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายชินวัฒน์ หาบุญพาด, นายนิสิต สินธุไพร, นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก และนายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ
ยื่นถอนประกัน"พายัพ-สุภรณ์"
นายธาริต กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งให้พ.ต.ท.ถวัลย์ มั่งคั่ง หัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 1 คดีก่อการร้าย ส่งหนังสือถึงนายประกัน และทนายความของนายพายัพ ปั้นเกตุ และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ แกนนำนปช. ที่ได้รับการประกันตัวในชั้นสอบสวนจากดีเอสไอ เพื่อแจ้งถอนประกันทั้ง 2 คน เนื่องจากทำผิดเงื่อนไขประกันตัวในชั้นสอบสวน ที่ห้ามไม่ให้เข้าร่วมชุมนุมกับบุคคล หรือกลุ่มบุคคลตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป อันมิชอบด้วยกฎหมาย โดยนัดให้นายพายัพและนายสุภรณ์มาพบพนักงานสอบสวน ดีเอสไอ วันที่ 25 เม.ย. เพื่อนำตัวส่งอัยการ ซึ่งดีเอสไอจะส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมสำนวนคดีก่อการร้ายต่อพนักงานอัยการ หากผู้ต้องหาทั้ง 2 คนไม่มาพบพนักงานสอบสวนตามกำหนด จะถูกยึดเงินประกัน 600,000 บาท และจะขอหมายจับต่อไป
ขณะที่ พ.ต.ท.ถวัลย์ กล่าวว่า ดีเอสไอประสานนายชินวัฒน์ หาบุญพาด ผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย ที่เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน ให้มาพบพนักงานสอบสวนดีเอสไอ วันที่ 25 เม.ย.นี้ด้วยพร้อมกัน เพื่อนำตัวส่งอัยการพร้อม กัน 3 คน
"ลายจุด"ผูกผ้าแดงราชประสงค์
วันเดียวกัน เวลา 16.00 น. นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบ.ก.ลายจุด แกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง พร้อมด้วยสมาชิกร่วมกันจัดกิจกรรมผูกผ้าแดงที่สี่แยกราชประสงค์ เพื่อ รำลึกเหตุการณ์สลายการชุมนุมมีผู้เสียชีวิต 91 ศพ จากนั้นในเวลา 19.00 น. ร่วมกันจุดเทียนไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต ก่อนสลายการชุมนุม
นายสมบัติ เปิดเผยว่า กิจกรรมครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 เม.ย. เวลา 16.00 น. ที่สวนลุมพินี ใช้ชื่อกิจกรรมว่า "ปิกนิก คิกออฟของคนเสื้อแดง" นัดหมายคนเสื้อแดงมานั่งพูดคุยกินข้าวแดงกัน และหารือเรื่องเตรียมความพร้อมในวันเลือกตั้ง โดยนับจากนี้เหลือเพียง 10 สัปดาห์ ก็จะถึงวันเลือกตั้งใหญ่ จึงอยากเชิญชวนสมาชิกสวมเสื้อแดงทุกวันอาทิตย์จนกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง และเมื่อถึงวันเลือกตั้ง ขอให้สมาชิกเสื้อแดงทั่วประเทศสวมเสื้อแดงเข้าคูหาอย่างพร้อมเพรียงกัน
เพื่อไทยไม่ต้องห่วงเสื้อแดง
แกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง กล่าวแสดงความเห็นถึงกรณี พล.อ.ชวลิต ลาออกจากประธานพรรคเพื่อไทย ซึ่งหวั่นเกรงกันว่าจะทำให้เกิดความระส่ำระสายในกลุ่มคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยว่า ในความคิดเห็นส่วนตัวมองว่าคนลาออกคนเดียวจะทำให้สะเทือนมัน ก็เกินไป ขอฝากไว้ว่าไม่อยากให้มาเป็นห่วงคนเสื้อแดงมากนัก พรรคเพื่อไทยควรไปนั่งคิดหานโยบายในการหาเสียงเลือกตั้งที่จะถึง เพื่อเอาชนะใจคนชั้นกลางให้ได้ และจะได้เข้ามาแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน รวมทั้งปัญหายาเสพติดที่ระบาดหนักอยู่ทุกวันนี้
นายสมบัติ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีนายจตุพร ออกมาพูดถึงทหาร 2 หน่วยที่รัฐบาลส่งมาปราบปรามคนเสื้อแดงนั้น นายจตุพรมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการสื่อไปยังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ว่าไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะส่งทหาร 2 หน่วยนี้ออกมาทำร้ายประชาชนเท่านั้น นาย จตุพรพูดเพราะความหวังดีต่อสถาบัน และตำหนิผู้สั่งการเท่านั้น
มาร์คย้ำห้ามอ้างสถาบัน
ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงนายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ระบุกฎของกกต. ที่ห้ามพรรค การเมืองดึงสถาบันมาเกี่ยวกับการเมือง เนื่องจากสำนักราชเลขาธิการได้ทำหนังสือมาถึงนายกฯ หลังจากมีพรรคการเมืองพิมพ์เอกสารขึ้นมาแล้วอ้างว่าได้รับพระบรมราชานุญาตว่า ไม่ได้เขียนอย่างนั้นๆ แต่มีความคิดที่เคยเล่าให้ฟังไปแล้วว่า เรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถาบันทั้งหมด ว่าต้องการให้สถาบันอยู่เหนือความขัดแย้งทั้งปวง อยู่เหนือการเมือง เป็นเหตุผลที่ได้บอกให้สำนักเลขาธิ การครม. ทำหนังสือถึงกกต. ซึ่งเป็นเนื้อความที่ไปเกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ทุกเรื่อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคภูมิใจไทยชูเรื่องปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ออกมาค้านเรื่องนี้ นายกฯ กล่าวว่า คิดว่ากกต.จะดำเนินการ แต่คงให้มีความชัดเจนขึ้น เพราะเราไม่ต้องการให้เพราะใกล้การเลือกตั้งแล้ว ต้องยอมรับว่าในทางการเมืองตอนหลังมีการเคลื่อนไหว มีเรื่องของสถาบันถูกหยิบยกเข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้น ไม่ต้องการให้ปัญหานี้ลุกลามออกไป ฉะนั้น กกต.ทำได้เร็วเท่าไหร่ก็เป็นเรื่องที่ดี
มั่นใจกกต.เร่งออกกฎคุม
ต่อข้อถามว่าจะคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลให้เดินตามแนวทางนี้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า "ผมได้พูดชัดในครม.ว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ต้องอยู่เหนือการเมือง" เมื่อถามว่าท่าทีของพรรคภูมิใจไทยในครม.เป็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ตอนที่อยู่ ครม.ไม่มีปัญหา เมื่อถามต่อว่าพรรค การเมืองที่ไปขึ้นป้ายจะทำอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ได้บอกไปแล้วว่าให้ระมัดระวัง คิดว่าดีที่สุดเพื่อให้เกิดความชัดเจน และเป็นกติกา คือ ถ้ากกต.ทำก็จะเหมาะสมที่สุด
"เราต้องยอมรับว่ามีพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือการเคลื่อนไหว หรือการพูดจา หรืออะไรก็ตาม หลายเรื่องมันไม่ผิดกฎหมาย แต่ผมไม่ต้องการให้เกิดขึ้น เพราะมันไม่เหมาะสม ถ้าหากว่ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง ฉะนั้น กกต.อยู่ในฐานะที่ดีมาก และผมก็ขอบคุณที่กกต.ได้ดำเนินการเรื่องนี้อยู่ก่อนแล้ว เพราะเห็นว่ากกต.ให้สัมภาษณ์ว่าทำอยู่ก่อนแล้ว แต่อยากให้เร่งรัดออกมาจะได้ชัดเจน" นายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าล่าสุดพรรคภูมิใจไทยออกมาต่อว่ากกต. นายกฯ กล่าวว่า เป็นความคิดเห็นของพรรคภูมิใจไทย แต่คิดว่าที่กกต.ดำเนินการอยู่น่าจะเป็นเรื่องที่ดี
ไก่อูแจงฟ้องแกนนำนปช.
ส่วนพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นหน้าที่ทหารและคนไทยทุกคน หากมีใครมาจาบจ้วงสถาบันก็ทนไม่ได้ หากมีใครพบเห็นการกระทำที่มีผลต่อสถาบันหลักของชาติ ก็มีสิทธิ์ร้องทุกข์กล่าวโทษให้เจ้าพนักงานดำเนินคดีต่อบุคคล หรือกลุ่มที่กระทำได้ การร้องทุกข์แกนนำกลุ่มนปช. ในครั้งนี้ กองทัพบกทำหน้าที่เป็นตัวแทนของข้าราชการกระทรวงกลาโหม ทำในนามทุกเหล่าทัพทั้งหมด ในการแสดงจุดยืนว่ากองทัพจะไม่ยอมให้ใครมาล่วงละเมิดต่อสถาบันที่เป็นศูนย์รวมดวงใจคนไทยเป็นอันขาด
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า กองทัพทำตามหน้าที่ความเป็นทหาร ข้าราชการ เป็นพลเมืองไทย ไม่ได้คิดสิ่งใดแอบแฝง เมื่อมีการกระทำอันมิบังควรของพรรคใด สีใดเกิดขึ้น กองทัพจำเป็นต้องปกป้องสถาบัน กองทัพไม่ได้ออกมาเพราะใกล้เลือกตั้งเพื่อสนับสนุนพรรคใดหรือกีดกันขัดขวางคะแนนอีกพรรค
จี้หัวหน้าต้องตำหนิลูกพรรค
โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า การที่พรรคบางพรรคระบุไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง หรือคนที่ในพรรคที่พูดล่วงละเมิดจาบจ้วงสถาบัน ยังไม่พอ ต้องออกมาตำหนิ หรือปรามคนของตนเองที่ทำสิ่งที่ไม่เหมาะสม เพราะวันนี้ผู้ใหญ่ในพรรคได้แสดงจุดยืนแล้ว เป็นสัญญาณที่ดีให้สังคมเกิดความสบายใจได้ส่วนหนึ่งว่า ผู้ใหญ่ในพรรคไม่เห็นด้วย แต่การที่คนในพรรค หรือหัวหน้าพรรคให้สัมภาษณ์ว่าไม่ได้เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวคงไม่พอ ต้องออกมาปรามและตำหนิบุคคลในพรรคที่ทำผิดว่าไม่ควรทำ อย่าเกรงใจบุคคลในพรรคทำสิ่งไม่ดี เพื่อให้สังคมสบายใจว่าพรรคนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องจาบจ้วงสถาบัน
"ท่านจะตำหนิกองทัพ จะหาเสียง หาวิธีแก้ไขปัญหาให้บ้านเมืองก็ทำไป เราจะไม่ยุ่ง กอง ทัพขอเรื่องเดียวอย่าจาบจ้วงสถาบันอันเป็นที่รักของคนไทย ส่วนที่กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ฝึกเตรียมพร้อมรบของหน่วยตามปกติแล้ว แสดงให้เห็นว่า ไม่ต้องการให้ใครมาจาบจ้วงสถาบัน เป็นสิทธิ์ที่อยู่ในกฎหมาย สามารถทำได้ อยู่ในกฎกติกากองทัพ เขาไม่ได้อะไรผิด ส่วนจะมีหน่วยอื่นทำตามหรือไม่ เราไม่ทราบแต่เป็นสิทธิ์ที่อยู่ในขอบเขตที่ทำได้" โฆษกกองทัพบก กล่าว