ที่มา ประชาไท
ปัจจุบันนี้ ถ้ากล่าวตามกฎหมายลายลักษณ์อักษรแล้ว ราชอาณาจักรไทยไม่มี “กฎหมายเกี่ยวกับการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ” แต่อย่างใด ทั้งนี้ เพราะมาตรา 112 ของกฎหมายอาญา (ปัจจุบัน) กำหนดไว้ว่า “ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปี ถึงสิบห้าปี”
ดังนั้น “ราชอาณาจักรไทย” จึงมีแต่ “กฎหมายหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย”
ส่วนที่เรียกกันว่า “กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ” (สมัยโบราณ) นั้น
ก็มีแต่เพียงในสมัย “ระบอบราชาธิปไตย” หรือ “ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์”
และได้ยกเลิกไปเมื่อเกิด “การปฏิวัติ 24 มิถุนายน 2475” ให้เป็น “ระบอบประชาธิปไตย” (สมัยใหม่)
สรุป ดังนั้น แต่เดิม “ราชอาณาจักรสยาม” (สมัยโบราณ) จึงเคยมี “กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ” ที่มีโทษจำคุกระหว่าง 3 ถึง 7 ปี
ส่วน “ราชอาณาจักรไทย” (สมัยใหม่) ต่อมา มี “กฎหมายหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย” ขึ้นมาแทน และก็มีโทษจำคุกสูงกว่า คือ ระหว่าง 3 ถึง 15 ปี (นับได้ว่าสูงสุดในมาตรฐานสากล และนานาอารยประเทศโลก และ “ราชอาณาจักรไทย” สมัยใหม่ของเรา ก็มีคดีขึ้นโรงศาล มากที่สุดเป็นประวัติการในระดับมาตรฐานสากล ของนานาอารยประเทศ เช่นกัน)
หมายเหตุ
หนึ่ง) หนังสือเล่มใหม่สุด King Bhumibol Adulyadej: A Life's Work, หนา 383 หน้า ราคา 1, 235 บาท 40 US$ พิมพ์ 10,000 เล่ม มี ฯพณฯ อานันท์ ปันยารชุน เป็นประธานที่ปรึกษา มีนักเขียนดัง 9 ท่าน เช่น คริส เบเกอร์ พอพันธุ์ อุยยานนท์ เดวิด สเตร็กฟุส ฯลฯ สอง) ในบทว่าด้วย กฏหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หน้า 303-313 The Law of Lese Majeste มีข้อความ ถอดเป็นภาษาไทย (ไม่เป็นทางการ) ดังนี้ (ดูภาษาอังกฤษ ด้านล่างสุด)
สาม) จากปี 2536/1993 ถึงปี 2547/2004 โดยเฉลี่ยแล้ว จำนวนคดีหมิ่นฯ ใหม่ๆ ลดลงครึ่งหนึ่ง ไม่มีคดีหมิ่นฯ เลยในปี 2545/2002.......
อย่างไรก็ตาม ในปีที่ผ่านมาเร็วๆ นี้ จำนวนคดีหมิ่นฯ ที่ผ่านเข้ามาในระบบศาลของไทยนั้น เพิ่มขึ้นอย่างน่าสังเกต ในปี 2552/2009 มีคดีฟ้องร้องที่ส่งไปยังศาลชั้นต้น สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 165 คดี ขณะนี้ ประเทศไทย มีกฎหมายหมิ่นฯ ที่มีโทษรุนแรงที่สุดในรอบหนึ่งร้อยปี เทียบได้ก็แต่ระบบกฏหมายของญี่ปุ่นในยามสงคราม (โลก) เท่านั้น
โทษขั้นต่ำสุด (ของไทย) เท่ากับโทษสูงสุดของจอร์แดน และเป็นสามเท่าของโทษในประเทศระบอบกษัตริย์โดยรัฐธรรมนูญในยุโรป....
สี่) ข้อความภาษาอังกฤษ จากต้นฉบับ
From 1993 to 2004 the average number of new cases of lese majeste dropped by half, with no cases at all in 2002. In recent years, however, the number of lese majeste cases passing through the Thai judicial system has increased markedly. And all-time high of 165 charge of lese majeste were sent to the Court of First Instance in 2009.
Thailand currently has the most severe lese majeste law seen anywhere in more than a century, comparable only to Japanese wartime legislation.
The minimum sentense equals the maximum sentense in Jordan, and the maximum sentence is three times that found in most European constitutional monarchies.