ที่มา ประชาไท
ด้วยพระนามของอัลลอฮ์ผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ ขอความสันติ ความจำเริญแด่ศาสนฑูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน
กรณีมีกระแสข่าวจะเกิดเหตุก่อการร้ายในประเทศไทยโดยการแจ้งเตือนจาก สถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทย นั้นได้สร้างความไม่พอใจต่อรัฐบาลไทยเป็นอย่างมากเพราะสร้างภาพลักษณ์ในแง่ ลบต่อประเทศไทยและทำให้อีกกว่าสิบประเทศออกมาเตือนคนของตนเองให้งดเดินทาง สู่ประเทศไทยหากเป็นไปได้
ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทย (13 ม.ค.) ปรับลดลงแรง แรงสุดที่ระดับ 1,041.18 จุด ลดลง 11.05 จุด ปรับขึ้นสูงสุดที่ระดับ 1,053.94 จุด ปรับขึ้น 1.71 จุด ปิดตลาดที่ระดับ 1,044.62 จุด ลดลง 7.42 จุด หรือ 0.71% มูลค่าการซื้อขาย 23,837.44 ล้านบาท
การที่ตำรวจไทยได้จับกุมนายอาทริส ฮุสซัยน ผู้ต้องสงสัย ชาวเลบานอนสัญชาติสวีเดนว่าเป็นสมาชิก พรรคฮิซบุลลอฮ์ และหลังจากนั้นหนึ่งวันก็ได้นำผู้ต้องสงสัยดังกล่าว เข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์ เลขที่ 52/15 ม.2 ต.กาหลง อ.เมือง จ.สมุทรสาคร พบ ปุ๋ยยูเรีย 335 กล่อง น้ำหนักรวม 4,380 ก.ก. สารแอมโมเนียไนเตรทชนิดละลายน้ำ 11 แกลลอน รวม 15 ลิตร พัดลม 400 ตัว กล่องกระดาษ 200 กล่อง รองเท้าแตะ 5 กระสอบ รวม 600 คู่ โดยของกลางทั้งหมดถูกกล่าวหาว่าเป็นสารประกอบวัตถุระเบิด จากตำรวจไทย
การจับกุมครั้งนี้มีข้อสังเกตว่าเป็นการให้ข้อมูลจากหน่วยสืบราชการลับ ของอิสราเอล โดยสื่ออิสราเอล คือหนังสือพิมพ์ฮาอาเรตซ์ ได้ยืนยันข่าวดังกล่าว
ทั้งนี้ อิสราเอลได้แจ้งเตือนทางการไทย เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ว่า สมาชิกฮิซบุลลอฮ 3 คน ได้เดินทางเข้ามายังประเทศไทย เพื่อก่อเหตุร้าย จนตำรวจไทยได้จับกุมผู้ต้องสงสัย ชาวเลบานอนสัญชาติสวีเดนสองคนดังกล่าวและกล่าวหา ว่าเป็นสมาชิก พรรคฮิซบุลลอฮ์
การจับกุมครั้งนี้ทำให้ทางการสวีเดนรีบตรวจสอบข้อมูลนี้ด้วยเช่นกัน เพราะส่งผลกระทบต่อประเทศสวีเดนโดยตรงซึงรายงานล่าสุดจากหนังสือพิมพ์อาฟทัน บลาเดท ของสวีเดนพบว่านายฮุสซัยนไม่ใช่สมาชกฮิซบุลลอฮ์โดยนายฮุสซัยนให้สัมภาษณ์ผู้ สื่อข่าวอาฟทันบลาเดทจากในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ว่า ตนเป็นผู้บริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่โดนหน่วยมอสสาดจัดฉาก อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ทางการไทยปฏิบัติและดูแลตนเป็นอย่างดี
สำหรับสิ่งของต่างๆ ที่ตำรวจพบในตึกเช่าของเขานั้นส่วนใหญ่เป็นของที่มีบุคคลอื่นนำไปจัดฉากเก็บ เพิ่มเติมเอาไว้ทั้งสิ้น คาดว่าน่าจะเป็นฝีมือสายลับหน่วยมอสสาดนั่นเองสำหรับตนเป็นคนเลบานอน มีลูกแล้ว 4 คน ย้ายถิ่นฐานมาอยู่สวีเดนตั้งแต่พ.ศ.2532 หลังจากนั้นประกอบอาชีพ “ช่างตัดผม” เรื่อยมาในเมืองโกเตนเบิร์ก กระทั่งปีพ.ศ.2537 ก็ได้รับสิทธิพลเมืองสวีเดน ทำให้ตนถือสองสัญชาติ และอาศัยอยู่ที่สวีเดนจนถึงปีพ.ศ.2548 จึงย้ายกลับไปอยู่เลบานอน และเมื่อปีพ.ศ.2553 เพิ่งกลับไปสวีเดนเพื่อทำพาสปอร์ต หรือหนังสือเดินทางรุ่นใหม่ที่ต้องสแกนข้อมูลทางชีวภาพ
เขากล่าวอีกว่า เหตุผลที่ทำให้หน่วยมอสสาดเพ่งเล็งจับตาตน เพราะตนเป็นมุสลิมนิกายชีอะห์ และอาศัยอยู่ในพื้นที่นอกกรุงเบรุต ซึ่งเป็นย่านที่กลุ่มฮิซบุลลอฮ์ได้รับแรงสนับสนุนจากมวลชนสูง อีกทั้งสมัยอยู่ที่สวีเดนตนยังมีแนวคิดทางการเมืองเห็นอกเห็นใจฝ่ายซ้าย และลงคะแนนเลือกตั้งให้ฝ่ายโซเชียลเดโมแครตส์ (สังคมประชาธิปไตย) อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าตนไม่ใช่สมาชิกฮิซบุลลอฮ์
เขา ระบุด้วยว่า เมื่อ 3 ปีก่อน เขาเริ่มต้นทำธุรกิจนำเข้า-ส่งออกกับเพื่อนชาวเลบานอน โดยสั่งซื้อสินค้าจากเอเชียส่งออกไปขายตามประเทศต่างๆ รวมถึงเลบานอนด้วย อาทิ พัดลม กระดาษ และไอซ์แพ็คช่วยบรรเทาอาการปวด ซึ่งสินค้าไอซ์แพ็คดังกล่าวนี้ตามปกติก็มีส่วนผสมของแอมโมเนียอยู่แล้ว สำหรับปุ๋ย นั้นจะต้องมีคนแอบนำมาเก็บไว้ในตึกอย่างแน่นอน และอาจเป็นไปได้ว่าเป็นฝีมือมอสสาด” นี่คอส่วนหนึงซึ้งฮุสซัยน ให้สัมภาษณ์สื่อดังสวีเดน และว่า เหตุที่มาเมืองไทยเที่ยวล่าสุดนี้เพื่อดูว่าตึกที่เช่าไว้เก็บสินค้าเป็น อย่างไรบ้าง หลังเพิ่งเกิดน้ำท่วมใหญ่
ข่าวของสื่อสวีเดนสอดคล้องกับการที่พรรคฮิซบุลลอฮ์ ได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธผู้ถูกจับกุมในไทยว่าไม่ใช่สมาชิกของกลุ่มรวมทั้งปัด กระแสข่าวการเข้ามาก่อการร้ายในประเทศไทย อีกทั้งได้อธิบายแนวคิดของการจัดตั้งพรรคฮิซบุลลอฮ์อย่างชัดเจนว่ามีแนวคิด การต่อสู้กับรัฐอิสราเอลที่เข้ามารุกรานคนของตนและยึดครองแผ่นดินเลบานอน เท่านั้นในขณะเดียวกันฮิซบุลลอฮ์ยังเป็นองค์กรทางการเมืองซึ่งมีสมาชิกมาก มายอยู่ในรัฐสภาเลบานอน รวมทั้งองค์กรการกุศลที่ได้ช่วยพัฒนาสังคมในด้านต่างๆไม่ว่าสังคม เศรษฐกิจ การศึกษา การแพทย์ คนอยากจนในเลบานอนไปพร้อมกันด้วย
ซัยยิดหะซัน นัศรุลลอฮ์ เลขาธิการฮิซบุลลอฮ์แห่งเลบานอน ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่มีผู้กล่าวหาว่าฮิซบุลลอฮ์เป็นกลุ่มก่อการร้ายอีกทั้ง ยืนยันจะปกป้องขบวนการและเกียรติยศของฮิซบุลลอฮ์ และจะปกปักษ์รักษาเลบานอนจากปัญหาความขัดแย้งโดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างชี อะฮ์และซุนนะฮ์ การรุกราน และแผนการต่างๆ ไม่ว่าจะมาในรูปแบบใดจากศัตรูรัฐบาลอิสราเอลและพันธมิตร การดำเนินการต่อสู้ด้วยอาวุธกับผู้รุกรานหรือที่ตะวันตกเรียกว่าการก่อการ ร้าย พร้อมทั้งปกป้องแผ่นดินเลบานอนอันล้ำค่านี้ที่ได้กอบกู้มาด้วยเลือดเนื้อจาก การยึดครองของอิสราเอล และจะยังคงดำรงอยู่ในความพร้อมที่จะพลีชีพ เพื่อการดำรงอยู่ของแผ่นดินเลบานอน
การที่ตำรวจประเทศไทยสามารถตรวจพบ ปุ๋ยยูเรีย สารแอมโมเนียไนเตรท จำนวนมากในการครอบครองของคนต่างชาติเป็นสิ่งที่น่าชมเชยยิ่งแต่ในวันแถลง ข่าวหรือให้ข่าวไม่ควรรีบระบุว่าผู้ต้องหามาจากสมาชิกกลุ่มใดโดยเฉพาะ จากกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ตามที่หน่วยข่าวกรองอิสราเอลและอเมริกาชี้นำ ซึ่งจะทำให้ไทย ถูกผูกโยงกับความขัดแย้งการเมืองโลก
ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเห็นใจกับตำรวจไทยโดยแรกเร่ม เมื่อหน่วยข่าวกรองอิสราเอลส่งเรื่องมาให้ตำรวจไทยติดตามตัวชาวเลบานอน ที่เข้ามาอยู่ในไทยแล้วพร้อมกับแผนระเบิดโบสถ์ยิวในกรุงเทพมหานครตำรวจไทยก็ ใช้ความสามารถในการตรวจสอบจากรูปถ่ายใบเดียว จนทราบชื่อและจับกุมได้ขณะกำลังจะบินออกจากไทยโดยไทยก็พยายามปิดรื่องนี้ และเจตนาจะผลักดันออกไปด้วยซ้ำ แต
ทางการสหรัฐอเมรการับทราบเรื่องจากอิสราเอล และพบว่าการที่ไทยจับกุมเพียงคนเดียวนั้น ไม่น่าจะเพียงพอ เลยออกคำเตือนพลเมืองตนเอง ทำให้ตำรวจไทยต้องเดินหน้าต่อ จนพบที่เก็บสารต่างๆที่ถูกกล่าวหาว่าประกอบระเบิด ในขณะเดียวกันก็พยายามลดผลกระทบที่จะเกิดกับประเทศไทย ด้วยการตั้งข้อหาเฉพาะเรื่องผิด พ.ร.บ.ยุทธภัณฑ์ เพราะยังไม่ได้ก่อการร้าย เลยไม่ตั้งข้อหานี้
นักวิเคราะห์การเมืองระหว่างประเทศหลายคนตั้งข้อสังเกตว่า เหตุการณ์นี้น่าจะเกี่ยวข้องกับการที่สหรัฐเคลื่อนไหว เพื่อคว่ำบาตรอิหร่านกรณีเดินหน้าโครงการนิวเคลียร์ โดยสหรัฐกำลังเพ่งเล็งไปที่กลุ่มสนับสนุนอิหร่านคือกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ว่าอาจมี ปฏิกิริยาตอบโต้ แต่มีความเป็นไปได้ว่าการโจมตีของกลุ่มดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นจนกว่า สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางจะรุนแรงถึงที่สุด
ในขณะเดียวกันเป็นการสร้างพันธมิตรในเวทีนานาชาติให้ดิสเครดิตกลุ่มฮิ ซบุลลอฮ์ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวเท่านั้นที่สามารถต่อกรและเอาชนะอิสราเอลได้ในปี ค.ศ. 2000 และยังมีภาพลักษณ์ที่ดีในหลายๆประเทศ
อีกทั้ง การประโคมข่าวการก่อการร้ายในไทยเป็นห่วงเวลาที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกากำลังถูก โจมตี ๒ เรื่องใหญ่ด้วยกันคือการลอบสังหารนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียของอิหร่านและทหาร สหรัฐอเมริกา ปัสสาวะรดศพของนักรบตอลิบันในอัฟกานิสถานซึ่งสร้างความไม่พอใจต่อชาวมุสลิม ในอิหร่าน อัฟกานิสถานและกำลังจะลุกลามทั่วโลก
กรณีที่หนึ่ง รัฐบาลอิหร่านได้เปิดเผยว่า มีหลักฐานชัดเจนว่า กรุงวอชิงตันอยู่เบื้องหลังการสังหารนักวิทยาศาสตร์ในโครงการนิวเคลียร์ของ ตนโดย เมื่อวันพุธที่ ๑๑ มกราคมที่ผ่านมาคนร้ายใช้ระเบิดคลื่นแม่เหล็กทำลายรถยนต์ของ มุสฏอฟา อะหมาดี-รอสฮาน นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญระบบแยกก๊าซวัย 32 ปี จนเป็นเหตุให้เจ้าของรถเสียชีวิตพร้อมกับคนขับ ซึ่งนับเป็นเหตุลอบสังหารนักวิทยาศาสตร์อิหร่านรายที่ 5 ในระยะเวลาเพียง 2 ปี
มัสอูด จาซายีรี โฆษกกองบัญชาการสูงสุดอิหร่าน กล่าวว่า “ศัตรูของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งอเมริกา อังกฤษ และรัฐบาลไซออนิสต์ (อิสราเอล) ต้องรับผิดชอบการกระทำของพวกเขา”
ที่ผ่านมา อิหร่านเคยกล่าวหาอิสราเอลว่าอยู่เบื้องหลังความเสียหายหลายครั้งที่เกิด ขึ้นกับโครงการนิวเคลียร์ของตน ซึ่งแม้เจ้าหน้าที่อิสราเอลจะหลีกเลี่ยงไม่แสดงความคิดเห็นว่ามีส่วนเกี่ยว ข้องหรือไม่ แต่บางครั้งก็แสดงความพึงพอใจที่เห็นอิหร่านล้มเหลว
สถานีโทรทัศน์แห่งชาติอิหร่าน ระบุด้วยว่า จดหมายประณามยังถูกส่งถึงรัฐบาลอังกฤษ โดยชี้ว่าการลอบสังหารนักวิทยาศาสตร์เกิดขึ้นหลังจากที่หัวหน้าหน่วยสืบ ราชการลับ MI6 แถลงปฏิบัติการด้านข่าวกรองเพื่อโจมตีประเทศใดๆ ก็ตามที่ลอบพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
ประเด็นที่สองคือการที่ทหารสหรัฐฯ ปัสสาวะรดศพของนักรบตอลิบันในอัฟกานิสถานซึ่งข่าวนี้ถูกเผยแผ่หลังจาก เว็บไซต์ไลฟ์ ลีก และสื่ออื่นๆ มีการเผยแพร่ภาพวีดิโอ ปรากฎชายสวมเครื่องแบบทหารสหรัฐฯ 4 คน ปัสสาวะรดเข้าที่ศพของนักรบตอลิบันในอัฟกานิสถาน ซึ่งภายหลังที่เผยแพร่ออกไป ก็มีปฏิกิริยามากมายจากองค์กรต่างๆของโลกมุสลิมโดยเฉพาะอัลอัซฮัร ประเทศอียิปต์ ซึ่งเป็นองค์กรศาสนาที่มีอิทธิพลต่อประชาชาติมุสลิมทั่วโลก
ชัยค์ อะหมัด ฏ๊อยยิบ ผู้นำอัลอัซฮัร ได้มอบหมายให้ที่ปรึกษาของท่านสัมภาษณ์ถึงแถลงการณ์ของอัลอัซฮัรผ่านสื่อรอย เตอร์ ประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำ อันป่าเถื่อนและผิดหลักมนุษยชนของทหารสหรัฐฯ 4 คน ดังกล่าวซึ่งปัสสาวะรดเข้าที่ศพของนักรบตอลิบันในอัฟกานิสถาน
นอกจากนี้ สภาเพื่อความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกาและอิสลาม (CAIR)ซึ่งเป็นองค์กรส่งเสริมสิทธิพลเมืองมุสลิมในสหรัฐฯ ก็ประณามพฤติกรรมดังกล่าวว่า เป็นการดูหมิ่นผู้เสียชีวิตในครั้งนี้
หมายเหตุ: ฮิ ซบุลลอฮ์ เป็นคำภาษาอาหรับสะกดอย่างนี้แหละตามคำอ่าน ซึ่งแปลว่าพรรคของอัลลอฮ์เป็นองค์กรของชาวมุสลิมชีอ๊ะห์ ในเลบานอน ก่อตั้งในปีคศ ๑๙๘๒ อันเป็นปีที่อิสราเอลรุกรานเลบานอน โดยมีจุดประสงค์เพื่อขับไล่กองทัพอิสราเอลที่ยึดครองเลบานอน จนสามารถต่อสู้และขับไล่ทัพอิสราเอลปี คศ ๒OOO มีเลขาธิการใหญ่ของพรรคฮิซบุลลอฮ์คือ ซัยยิด ฮะซันนัสรุลลอฮ์ เป็นผู้นำสูงสุด
ที่มา: http://arabic.arabia.msn.com/news/middleeast/reuters/2012/january/12001433
ศึกษาความสำคัญของอัลอัซฮัรของผู้เขียนเพิ่มเติมได้ที่ : http://www.thaingo.org/writer/view.php?id=1572