ที่มา ประชาไท
Fri, 2012-08-17 05:03
แถมปืนและกล้องติดปืนก็ไม่ใช่สไนเปอร์
เป็นเพียงกล้องที่ติดสำหรับการระวังป้องกัน-ซึ่งที่ตลาดนัดมีขาย
ส่วนกระสุนที่เบิกมา เมื่อเหลือก็จะส่งคืน
นอกจากนั้นก็ใช้ฝึกหัดและจำหน่ายต่อไป ส่วนเรื่องทหารเอาปืนไปยิงคน
ถามลูกน้องแล้ว ลูกน้องบอกว่าไม่ได้ยิงใครสักคน มีแต่โดนยิง
โดย พล.อ.ประยุทธ์ขอให้ทุกฝ่ายหยุดพูดเพราะคดียังไม่สิ้นสุด และขอความเห็นใจเนื่องจากต้องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ถ้าจะพูดขอให้พูดทั้ง 2 ทาง ขอให้พูดในส่วนของเจ้าหน้าที่ด้วยว่าเขาบาดเจ็บและเสียชีวิตจากใคร ตนไม่อยากไปรื้อฟื้น เพราะตนเป็นผู้บังคับบัญชา รู้ว่า อะไรควรพูด อะไรไม่ควรพูด
เมื่อถามถึงกรณีที่ทางดีเอสไอจะเรียกทหารสไนเปอร์ ที่อยู่ในคลิปมาให้ปากคำ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้อนถามว่า สไนเปอร์อะไร ใครเป็นคนใช้สไนเปอร์ แล้วรู้หรือไม่ว่า สไนเปอร์เป็นใคร ซึ่งในรูปที่ปรากฏเป็นทหารที่เขาติดกล้องเฉยๆ และกล้องตัวนั้นและปืนตัวนั้นไม่ใช่แบบสไนเปอร์ ถ้าพูดแล้วไม่รู้ อย่าพูดดีกว่า แต่สิ่งที่ใช้เพื่อใช้ระวังป้องกัน ซึ่งในตลาดนัดก็มีขายที่ใช้สำหรับยิงนก ไม่ใช่สไนเปอร์ อย่าพูดเรื่อยเปื่อย
ส่วนที่คณะกรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า ในปี 53 มีการเบิกกระสุนมา 3 พันนัด ใช้ไป 800 นัด มีผู้ถาม พล.อ.ประยุทธ์ว่า กระสุนที่เหลือหายไปไหน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กระสุนที่เขาเบิกมา เมื่อเหลือเขาก็จะส่งคืน นอกเหนือจากนั้นใช้ฝึกหัด และจำหน่ายต่อไป ไม่เห็นว่าจะต้องไปยิง อยากถามว่า ถ้าเขาเบิกไป 3 พันนัด ยิงไป 300 นัด ขาดไป 2,700 นัด แสดงว่าต้องมีคนตาย 2,700 คนหรือไม่ ถามว่าคนตายอยู่ที่ไหน มีใครบอกว่า ทหารเอาปืนไปยิงคน สื่อไปเอามาจากไหน ต้องไปถามข้อมูลจากคณะกรรมาธิการทหาร เพราะตนถามลูกน้อง เขาบอกว่าไม่ได้ยิงใครสักคน มีแต่โดนยิง