WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, June 20, 2010

ถนนเขาใหญ่และการปรับ ครม. ละคอนน้ำเน่าเรื่องล่าสุด

ที่มา มติชน

โดย วันชัย ตัน

เป็นข่าวครึกโครมกันมากว่าสองอาทิตย์ กรณีกรมทางหลวงได้ทำการขยายพื้นที่ถนนหลวงสาย 2090 หรือถนนธนะรัชต์ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จากสองเลนเป็นสี่เลน เป็นระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร และมีการตัดต้นไม้ใหญ่อายุหลายสิบปีไปถึง 128 ต้น


และได้รับการคัดค้านจากนายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงนักอนุรักษ์ธรรมชาติ และผู้คนในเครือข่ายเฟซบุ๊กจำนวนมาก ขณะที่ด้านนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประกาศจะเดินหน้าต่อไปให้สิ้นสุดโครงการ เปิดฉากวิวาทะกันทางสื่อ สุดท้ายนายกรัฐมนตรีได้ประกาศชะลอโครงการขยายพื้นที่ถนนออกไปก่อน


อันที่จริงโครงการขยายพื้นที่ถนนสายนี้ ได้เริ่มก่อสร้างอย่างเงียบๆ มาตั้งแต่เดือนมีนาคมแล้ว แต่ไม่มีนักการเมืองคนใด พรรคใด ไม่ว่าจะเป็นพรรครัฐบาลหรือพรรคฝ่ายค้านออกมาโวยวาย เพราะต่างได้ประโยชน์กันถ้วนหน้า
ต้องยอมรับว่าที่ดินสองข้างทางของถนนธนะรัชต์ ส่วนใหญ่ไม่ใช่ของชาวปากช่องมานานแล้ว แต่ถูกเปลี่ยนมือเป็นของบรรดาผู้มีอันจะกิน บรรดาอภิสิทธิ์ชน หรืออำมาตย์ในคราบนักการเมืองของทุกพรรค มาซื้อเป็นบ้านหลังที่สอง โดยเฉพาะหมู่บ้านที่มีชื่อแบบเคาบอย


รัฐมนตรีหรือพรรคฝ่ายค้านที่ออกโรงทะเลาะกัน ก็ล้วนแต่มีบ้านหลังที่สองในหมู่บ้านแห่งนี้กันทั้งนั้น


การขยายพื้นที่ถนนล้วนแต่สร้างความปรีดาให้กับคนเหล่านี้เสมอมา แน่นอนว่าราคาที่ดินย่อมเพิ่มสูงขึ้น นอกเหนือจากการทำความเร็วได้มากขึ้นในการขับขี่


เหตุผลการขยายพื้นที่ถนนนั้น ทางกรมทางหลวงบอกว่าเพื่อลดความแออัดของการจราจร เพราะมีผู้ใช้ถนนเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่ผู้รับผิดชอบไม่กล้าบอกให้หมดคือ


ผลประโยชน์การตัดถนนในประเทศไทย เป็นรายได้หลักและรายได้อันแน่นอนของนักการเมืองทุกยุคทุกสมัย ใครขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ก็จะต้องมีโครงการตัดถนนมูลค่าหลายหมื่นล้าน ตัดเสร็จก็ตั้งงบประมาณซ่อมถนนทันที โดยบริษัทผู้รับเหมาเจ้าเดิม จนทำให้ต้องมีการแยกกันทำมาหากิน จากกรมทางหลวงก็ขยายเป็นกรมทางหลวงชนบท


สมัยก่อนนักการเมืองมักมีผลประโยชน์จากการตัดไม้ ทำลายป่า ค้ายาเสพติด แต่ระยะหลังซบเซาลงตามสถานการณ์โลก ไม่เหมือนการตัดถนนที่เป็นแหล่งสร้างเงินอมตะนิรันดร์กาล


ใครเคยผ่านงานเป็นรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม เรียกได้ว่าเป็นพวก สามล้อถูกหวย จากคนธรรมดากลายเป็นคนอู้ฟู่มีเงินถุงแบบก้าวกระโดดขึ้นมาทันที


เพื่อนชาวต่างชาติเคยบอกว่า ประเทศไทยมีโครงข่ายถนนทางหลวงมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ขณะที่เส้นทางคมนาคมทางน้ำและรถไฟล้าหลังที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเช่นกัน


และเพื่อนบอกว่าเขาไม่เข้าใจว่า ทำไมการตัดถนนที่ถือว่าเป็นเทคโนโลยีแสนธรรมดา แต่เหตุใดค่าก่อสร้างถนนในเมืองไทยถึงแพงมหาศาล ทุกวันนี้ถนนทางหลวงมีราคาค่าก่อสร้างกิโลเมตรละ 10 กว่าล้านบาท เรียกได้ว่าแทบจะเอาทองคำมาปูพื้นผิวถนนได้เลย


โครงการขยายพื้นที่ถนนธนะรัชต์ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร นักการเมืองหรือข้าราชการผู้เกี่ยวข้องไม่เคยสนใจหรอกว่า จะต้องตัดต้นไม้ไปกี่ต้น ที่ผ่านมาพวกเขาก็ทำแบบนี้มาโดยตลอด เพราะต้นไม้เหล่านี้แม้จะมีอายุหลายสิบปีหรือร่วมร้อยปี ก็มีคุณค่าแค่เนื้อไม้ที่ไปทำบ้านหรือเฟอร์นิเจอร์เท่านั้น ไม่ได้ไปตีค่าในเชิงนิเวศเลย


แต่บังเอิญมีนักข่าวบางฉบับไปพบเห็น มาทำข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ เท่านั้นแหละ เจ้ากระทรวงฝ่ายหนึ่งก็ออกมาคัดค้านอย่างขึงขัง กะแจ้งเกิดเป็นวีรบุรุษเขาใหญ่ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็รู้เรื่องนี้มานานแล้ว ขณะที่เจ้ากระทรวงอีกฝ่ายหนึ่งก็แสดงบทปกป้องผลประโยชน์ของพรรคพวกอย่างเต็มที่ เพราะของมันเคยชิน แถมวางก้ามขู่คนที่ออกมาคัดค้าน


สุดท้ายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีก็ใช้วิธีแก้ปัญหาแบบพรรคประชาธิปัตย์ คือช่วง กม.ที่ 2-10 ที่สร้างแล้วก็แล้วกันไป ส่วน กม.ที่ 11-16 ให้ระงับโครงการไว้ก่อน และตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนเรื่องราว และเป็นที่คาดได้ว่า พอเรื่องเงียบไป โครงการที่ถูกระงับก็น่าจะสร้างได้ต่อไป เพราะระงับ ไม่ใช่ การยกเลิก


ส่วนในอนาคตกระทรวงคมนาคม จะมีการสร้างถนนผ่านป่าอีกหลายสาย ทั้งที่สร้างเสร็จแล้วและกำลังก่อสร้าง อาทิ เส้นเชียงใหม่-ลำพูน ป่าแม่ปิง-อมก๋อย เส้นภูเขียว-น้ำหนาว เส้นตาก-ขอนแก่น เส้นสุราษฎร์-ตะกั่วป่า เส้นพัทลุง-ตรัง ฯลฯ


นายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร เคยกล่าวว่า "พื้นที่ป่าทั้งหมดก่อนที่จะมีถนนผ่านนั้น ประเมินความสมบูรณ์ของสิ่งแวดล้อมเอาไว้ดีมาก เช่น ที่ป่าแม่ปิง-อมก๋อย ก่อนหน้านี้ มีนกเงือกและสัตว์ใหญ่ชุกชุมมาก แต่วันนี้ไม่มีใครเห็นนกเงือก เสือ หมี อีกแล้ว หรือทางหลวงสาย 3259 พนมสารคาม-คลองหาด บริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน มีการทำวิจัยพบว่ามีสัตว์ป่าถูกรถชนตายมากที่สุดในประเทศ โดยเฉพาะตอนกลางคืน ปีละนับหมื่นตัว"


นายกรัฐมนตรีก็คงปล่อยให้เจ้ากระทรวงดำเนินโครงการไปตามปกติ ด้วยความเกรงใจพรรคร่วมรัฐบาล ยกเว้นจะตกเป็นข่าวแบบกรณีขยายถนนบนพื้นที่เขาใหญ่


ไม่น่าแปลกใจ ภายหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แทนที่คุณอภิสิทธิ์จะปรับรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทยที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจและไม่สามารถแก้ข้อกล่าวหาในเรื่องการทุจริตจากฝ่ายค้าน ให้ออกจากตำแหน่ง ตามมารยาททางการเมือง แต่ถือโอกาสปรับรัฐมนตรีคนอื่นที่ไม่ถูกอภิปรายไว้วางใจออกจากตำแหน่ง ด้วยเหตุผล เพื่อเปิดโอกาสให้ ส.ส.คนอื่นได้มีโอกาสเป็นรัฐมนตรีครั้งหนึ่งในชีวิต แบบสมบัติผลัดกันชม ยกเว้นคนใกล้ชิดนายกฯ ที่ได้ดิบได้ดีกันถ้วนหน้า และไม่ยอมปรับรัฐมนตรีที่มีมลทินตามประกาศิตของคุณเนวิน ชิดชอบ ผู้จัดการรัฐบาลตัวจริง จึงไม่น่าแปลกใจที่ผลสำรวจออกมาว่า ปรับรัฐมนตรีครั้งนี้ ชาวบ้านไม่ได้อะไรเลย เพราะมีแต่นักการเมืองที่ได้กับได้อย่างเดียว


ด้วยเหตุผลความมั่นคงทางการเมือง ความเกรงใจพรรคร่วม และผลของการเลือกตั้งสมัยหน้า คุณอภิสิทธิ์จึงกล้าแหกกฎเหล็ก 9 ข้อของตัวเอง โดยเฉพาะข้อที่สอง "ให้ยึดถือการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างเคร่งครัด"


อาวุธสำคัญของคุณอภิสิทธิ์คือภาพลักษณ์ที่ดี และคำพูดที่ทำให้เขาสามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ แต่นับจากนี้เป็นต้นไป สงสัยว่า เมื่อนายกฯพูด จะมีคนฟังเหมือนเดิมอีกหรือไม่


ต้นทุนทางสังคมและภาพลักษณ์ของนักการเมืองรุ่นใหม่ท่านนี้ที่เป็นขวัญใจชนชั้นกลางกำลังติดลบลงเรื่อยๆ จากการที่ไม่กล้าตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง


ระวังกระแสในเฟซบุ๊กที่กำลังคลั่งไคล้ศิษย์เก่าออกซ์ฟอร์ดคนนี้ อาจจะตีกลับในพริบตา