ที่มา ข่าวสด
เหล็กใน
มันฯ มือเสือ
ในแวดวงการเมืองไทยมีเรื่องเล่าขานว่า
มีพรรคการเมืองหนึ่งเหมาะสมเป็นฝ่ายค้านมากที่สุด เรียกว่าถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ นั่นคือ พรรค ประชาธิปัตย์
ไม่ต้องไปเปิดประวัติสืบค้นใดๆ
แค่ดูอย่างตอนนี้ที่การเลือกตั้งเพิ่งจบไปหมาดๆ กกต.ยังรับรองส.ส.ไม่ครบตามเกณฑ์ที่จะเปิดสภาได้ด้วยซ้ำ ใบเหลือง-ใบแดงก็ยังไม่สะเด็ดน้ำ
นายกรัฐมนตรีคนใหม่มีแต่'ว่าที่'
ส่วนใครเป็นรัฐมนตรีกระทรวงนั้นกระทรวงนี้ ก็เป็นแค่ ข่าวกะเก็งกันทางหน้าหนังสือพิมพ์ ซึ่งก็เปลี่ยนไปมาทุกวัน
นโยบายต่างๆ ยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง
การขึ้นค่าแรง 300 บาท/วัน เงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาท การเลิกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน การแจกแท็บเล็ตให้เด็กนักเรียน ฯลฯ
ทั้งหมดเป็นเพียงหัวข้อหยาบๆ ที่ยังขาดรายละเอียดในทางปฏิบัติ
แต่ปรากฏท่ามกลางความไม่ชัดเจนแน่นอนเหล่านี้
'วิญญาณฝ่ายค้าน'ได้เข้าสิงร่างสมาชิกประชาธิปัตย์อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาเคาะสนิม
อย่างการจัดตั้งครม.'ยิ่งลักษณ์ 1' ที่พรรคประชาธิปัตย์โจมตีว่าการที่ใครจะได้ตำแหน่งใดนั้น ต้องรอฟังบัญชาจาก'มือที่อยู่ต่างประเทศ'
เหมือนแกล้งลืมไปว่าช่วงการเมืองพลิกขั้ว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นเป็นนายกฯ ก็ดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลกันในค่ายทหาร
โดยมี'พลังที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้'ยุ่มย่ามชักใยอยู่เบื้องหลัง
กรณีค่าแรง 300 บาท ทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ในประชาธิปัตย์ก็ออกมาเร่งความชัดเจน ด้วยเชื่อว่านโยบายนี้จะมีผลกระทบต่อการจ้างงาน
และทำให้ราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้น
ซึ่ง เป็นการพูดโดยไม่ยั้งคิดว่าต่อให้ไม่ปรับขึ้นค่าแรง ราคาสินค้าก็ปรับตัวสูงขึ้นอยู่ดี และความจริงก็คือราคาสินค้าได้ปรับสูงขึ้นมานานแล้ว
แล้วก็เป็นรัฐบาลประชาธิปัตย์ที่อยู่มา 2 ปีกว่า แต่สุดปัญญาจะแก้ไข ดูได้จากกรณี'สวาปาล์ม' และการ'ชั่งไข่ขาย' เป็นต้น
พรรคประชาธิปัตย์นั้นมีชื่อเสียงลือลั่นว่าเป็นพรรคชอบพูด พูดเก่ง พูดเป็นต่อยหอย
แต่ปัญหาคือเวลาข้ามฝั่งจากฝ่ายค้านมาเป็นรัฐบาล หรือจากรัฐบาลมาเป็นฝ่ายค้าน มักพูดไม่เหมือนกันในเรื่องเดียวกันแต่คนละเวลา
หลายครั้งสิ่งที่'พ่น'ไว้ในอดีต
จึงกลายเป็นการขุดหลุมฝังตัวเองในเวลาต่อมา