ที่มา thaifreenews
โดย...ลูกชาวนาไทย
ไปเที่ยวป่าเสียหลายวัน ไปนอนในป่า ผูกเปลนอนบนโขดหินที่ห้วยขาแข้ง เดียวดายข้างบึงน้ำ ท่ามกลางแสงจันทร์เดือนเพ็ญที่พระจันทร์โตเต็มดวง สว่างไสวนวลใยไปหมด
ไปวันแรกไปถึง 1 ทุ่มครึ่งแล้ว เขาเลยไม่ให้เข้า (เขาให้เหตุผลว่าอันตรายจากช้างป่า แต่ก็ยังเห็นรถบรรดาหัวหน้าอุทยานเข้าได้) ต้องนอนอยู่ที่ด่านหน้าคืนหนึ่ง บรรยากาศดีมากครั้บ เพราะผมเอาเปลไปผูกกับต้นไม้บนโขดหินที่อยู่ริมบึงน้ำครับ (หากนอนเต้นท์ก้ไม่มีโอกาสอย่างนี้แน่นอน) นอนฟังบรรยากาศป่าดงดิบรอบๆ ตัว (เดี่ยวเอกา)
ตอนนี้ไม่ได้ติดตามสถานการณ์ทางการเมืองว่าเป็นอย่างไรบ้าง ก็คงไม่มีอะไรคืบหน้ามากกว่า "การพูดจาโวหาร" กัน
ก็ขอสวัสดีปีใหม่กับเพื่อนๆ ทุกคนครับ ขอให้เสรีภาพจงมีแก่ทุกท่าน จงมีอิสระภาพทางจิตวิญญาณอย่างสมบูรณ์ ไม่เป็นทาส หรือข้าทางใจแก่ใคร ซึ่งก็เป็นมนุษย์ด้วยกัน ไม่มีใครเป็นเทพเจ้านอกจากหลอกลวงตัวเอง และหลอกลวงคนอื่น โลกได้เลิกทาสหมดอย่างสมบูรณ์แล้ว นอกจากเรายอมไปเป็นทาสเองแล้ว ไม่มีใครบังคับให้เราเป็นทาสได้
หากจะกราบไหว้บุคคล จงกราบไว้บูชาพระอริยบุคคล ที่ทำให้เราเป็นอิสระหลุดพ้นจากอวิชชาทั้งปวง ไม่สอนให้เรายึดติดจนแม้จิตวิญญาณก็ไม่เป็นอิสระ พระอริยะบุคคลย่อมสอนให้เราหลุดพ้น ไม่ยึดมั่นถือมั่น หากใครสอนให้เรายึดมั่น ยึดติดคนๆ นั้นย่อมเป็นมารที่เสพย์จิตวิญญาณของมนุษย์ ต้องการให้คนกราบไหว้บูชา เป็นลัทธิอวิชชานอกรีต ขัดต่อคำสอนของพุทธองค์ ย่อมไม่ใช่พุทธมามะกะ ที่ปฎิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์ เสียทีที่เกิดมาพบปะพระพุทธศาสนาที่สอนให้หลุดพ้น
เกิดในเมืองพุทธ แต่ไปกราบไหว้บูชาผัสางเทวดา เทพสมมุติต่างๆ ทั้งหลาย ย่อมเสียชาติเกิดเป็นแน่แท้
หากจะซาบซึ้ง ก็จงซาบซึ้งในรสพระธรรม ที่สอนให้เรา "หลุดพ้น" ไม่ยึดติด ไม่ใช่ซาบซึ้งอวิชชาทั้งหลาย
ขอให้เพื่อนๆ จงเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้ตาสว่างตลอดไปครับ
ขอให้ปี 2553 จงเป็นปีแห่งประชาธิปไตยที่เบ่งบาน ปีแห่งอิสระภาพทางจิตวิญญาณ