WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, January 4, 2010

ลกซุน..ผู้พิชิตเล่าปี่

ที่มา thaifreenews

ด้วยความโกรธแค้นที่ซุนกวนสังหารน้องร่วมสาบานคือ กวนอู เล่าปี่ภายหลังได้รับการสถานปนาเป็นฮ่องเต้พระนาม “สมเด็จพระจักรพรรดิเจียงบู๊เต้” เล่าปี่ก็กรีฑาทัพไปตี ง่อก๊ก ของซุนกวนทันที และมาประจวบกับ น้องสาม เตียวหุย ถูกแม่ทัพของตนเองสังหารและหนีไปเข้ากับซุนกวนอีก เล่าปี่ เคียดแค้นดังไฟเผา กองทัพ 750,000 คนของเสฉวน ก็ยกไปโจมตี ง่อก๊ก ทันที

ทัพ เล่าปี่..รบชนะและไหลบ่ามาด้วยความฮึกเหิม.. ทัพง่อก๊กของซุนกวน..ไม่สามารถต้านทานความฮึกเหิมนี้ได้...ลกซุนจึงใช้กล ยุทธ ตั้งมั่นไม่ออกรบ..โดยยึดคำกล่าวที่ว่า “ลูกธนูพุ่งมาไกลก็ย่อมหมดแรง” ด้วยกลยุทธนี้สร้างความหงุดหงิดให้กับเล่าปี่ จนในที่สุดก็ขาดความรอบคอบ..และประกอบกับสภาพอากาศร้อนจัดทำให้เล่าปี่ ไม่ได้ก่อตั้งค่ายตามหลักพิชัยสงคราม..สุดท้ายก็ถูกลกซุน ลอบเข้ามาเผาค่าย จนวอดวายหมดทั้งทัพ และเล่าปี่เองก็ต้องตรอมใจจนสิ้นชีวิต...ทัพจ๊กก๊กของเล่าปี่ 750,000 คนก็วอดวายไปพร้อมกับความฮึกเหิมนั้นเอง...

การเลือกตั้งซ่อมที่ จ. มหาสารคาม ผ่านพ้นไปแล้วอย่างอย่างตื่นเต้นใจหายใจคว่ำ แม้ว่าพรรคเพื่อไทย จะชนะพรรคภูมิใจไทย ก็ชนิดฉิวเฉียด ถ้าเป็นม้าแข่งก็ต้องเรียกว่าต้องถึงขั้น “ถ่ายรูป” การชนะกันเพียง พันกว่าคะแนน จากคะแนนเสียงแสนกว่าคะแนนถือว่าชนะกันอย่างใกล้ชิดมาก..ซึ่งสามารถมองได้ 2 มุมด้วยกันก็คือ...

มุม แรก...ถึงอย่างไรประชาชนที่ชาวภาคอิสานในจังหวัดมหาสารคาม ก็ยังคงรักและศัทธานโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่สืบทอดเจตนารมย์มาจากพรรคไทยรักไทย และรวมไปถึงศรัทธาท่านนายกทักษิณไม่เสื่อมคลาย ความฮึกเหิมที่พลพรรคเสื้อแดงที่ปลุกเร้ากันมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ยังคงกระหึ่มก้องและเป็นเหมือนพลังเร่งเร้าให้นักรบประชาธิปไตย พร้อมจะเรียกร้องขั้นแตกหักกับเผด็จการอมาตย์..

และผลก็ส่งออกมาแล้ว โดยการเลือกตั้งทั้งที่สกลนคร, และมหาสารคาม...แม้กระทั่งการเลือกตั้ง นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ หรืออีกหลาย ๆ ที่ ย่อมแสดงให้เห็นชัดว่า ชั่วโมงนี้คนเสื้อแดงกำลังฮึกเหิมอย่างที่สุด พร้อมที่สุดที่จะทำการต่อสู้ขั้นแตกหักกับรัฐบาลหุ่นเชิดของเผด็จการอมาตย์ นี้...ซี่งในมุมนี้ก็คือมุมแห่งความน่าพอใจและน่าชื่นชม

มุมที่สอง ...รัฐบาลและพรรคร่วม...โดยเฉพาะพรรคงูเห่าอย่างภูมิใจไทยของเนวิน พยายามอย่างยิ่งที่จะออกข่าวทางสื่อต่าง ๆ ที่จะแสดงบทบาทในการเป็นผู้สร้างความสมานฉันท์ให้กับประเทศนี้ ซึ่งในทางการเมืองนั้นพยายามแสดงให้เห็นว่าเป็นผู้ถอยออกจากความขัดแย้ง... ยื่นข้อเสนอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้ว่าจะเห็นได้ชัดว่าเพื่อเป็นการยื้อเวลา แต่สื่อที่อยู่ในมือก็พยายามออกข่าวให้เห็นว่ารัฐบาลเป็นฝ่ายถอย...

และอีกด้านก็พยายามรณรงค์ล้างสมองคนไทยให้มีความคิดออกมาในทาง “รักสามัคคี” เพื่อความสงบสุขของประเทศและเห็นแก่ความสุขของ “พ่อของแผ่นดิน” โดยใช้สื่อที่อยู่ในมืออีกเช่นกันในการรณรงค์เรื่องนี้

ซึ่ง ทั้งสองวิธีนี้เผด็จการอมาตย์ก็กระทำอย่างสอดคล้องและสอดรับกันอย่างเป็น ระบบ.. โดยอาศัยอำนาจอิทธิพลที่ตนเองมีอยู่นำมาเป็นอาวุธ “ทำลายความชอบธรรม” ในการเรียกร้องประชาธิปไตยของคนไทยทั้งแผ่นดิน...

การ ชนะของนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ที่มีคะแนนถึง 111,340 คะแนน ขณะที่นางคมคาย อุดรพิมพ์ ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย ที่ได้คะแนน 110,152 คะแนน นั้นอาจจะดูว่าเป็นชัยชนะท่ามกลางแรงกดดันจากอำนาจรัฐในทุกวิถีทางก็ตาม.. แต่ถ้ามองย้อนอดีตไปจะเห็นว่า นางคมคาย ที่เคยอยู่พรรคเพื่อแผ่นดิน ได้คะแนนเพิ่มขึ้นถึงกว่า 50,000 คะแนน... และนายประยุทธ์ เองก็อดีตเคยสังกัดอยู่พรรคชาติไทยมาก่อน แต่ก็ได้รับเลือกให้ลงสมัครเพราะ พรรคเพื่อไทย ไม่มีใครที่เป็นตัวหลักของพรรคที่จะนำมาลงได้ในนามของพรรคเพื่อไทยเอง (เพราะถูกแบนไปหมดทั้งสองรอบ)...

เวลานี้กลยุทธที่เผด็จการอมาตย์กำลังพยายามอย่างยิ่งที่จะกระทำ...จะมิใช่ “รุกและชน” แต่จะเป็นการ “ต้านทานและสงบนิ่งรอจังหวะ” และสร้างภาพ เพื่อแย่งความชอบธรรม ในการจัดการกับอำนาจต่อไป โดยอาศัยสื่อและเครื่องมือต่าง ๆ ที่อยู่ในมือเพื่อรอจังหวะและโอกาส ที่คนเสื้อแดง และประชาชนผู้รักประชาธิปไตย ผู้วิ่งมาแล้วอย่างแสนไกลจะหมดแรง และจะพลาดเปิดโอกาสให้กับเหล่าอมาตย์ในการพลิกกลับมาโจมตีได้อีกครั้ง

อย่า ลืมว่าเผด็จการอมาตย์ยังคงมีเครื่องมือ และอุปกรณ์ทุกอย่างทั้งในประเทศ รวมทั้งแรงสนับสนุนจากนอกประเทศ ที่จะทำลายประชาชนผู้เรียกร้องประชาธิปไตยให้สิ้นทรากไป...เพื่อกดหัวคนใน ประเทศให้สยบยอมไม่กล้าเงยหัวขึ้นมาต่อสู้...เหมือนกับที่ประเทศเพื่อนบ้าน ของไทยบางประเทศกระทำกับประชาชนของประเทศตนเองกระนั้น...

ด้วย เหตุนี้ สำหรับประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทุก ๆ ท่านจะต้องยึดมั่นในแนวทางการต่อสู้ที่ได้ดำเนินการมาไม่น้อยกว่า 3 ปี อย่างมั่นคงและไม่คลอนแคลนว่ากำลังทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ขณะที่แกนนำต้องก้าวเดินอย่างระมัดระวังที่จะก้าวต่อไปบนปลายมีดอันแหลมคม นี้... อย่าได้ประมาทโดยคิดว่าขณะนี้กองทัพประชาธิปไตยมีพร้อมทั้ง...ประชาชน, พรรคการเมือง, และกองกำลังติดอาวุธ แล้วจะเป็นฝ่ายชนะอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด...ดูตัวอย่างที่เคยเกิดขึ้นที่ “จตุรัสเทียนอันเหมิน” และที่ “ธิเบต” กำลังประชาชนก็ถูกล้อมปราบอย่างสิ้นทรากถอนรากถอนโคน และไม่สามารถเงยหน้าขึ้นมาต่อสู้กับรัฐบาลเผด็จการได้จนทุกวันนี้..สิ่ง เหล่านี้มิใช่จะเกิดขึ้นไม่ได้ สำหรับเผด็จการอมาตย์แล้วอะไรก็เป็นไปได้....

แต่ทว่าประชาชนผู้ รักประชาธิปไตยทั้งหลาย จะต้องเกรงกลัวจนไม่กล้าทำอะไร เพียงแต่ต้องมีความรอบคอบ และก้าวเดินอย่างระมัดระวัง ไม่ยินดีในความสำเร็จจนเกิดความฮึกเหิมจนเกินไป จนทำให้สุดท้ายต้องประสบกับความเสียหายอย่างยิ่งใหญ่ภายหลัง... “จะรุกเร็ว หรือรุกช้าแต่ขอให้ชนะ” ดีกว่า “รุกเร็วแล้วพลาด” ...และที่สำคัญ “มันเอาเราแน่ครับ”..

ปูนนก