ที่มา Thai E-News
โดย กาหลิบ
ที่มา คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร? เรื่อง แดงถกเถียง Democracy 100 Percent
ข่าว “ความขัดแย้ง” ในหมู่เสื้อแดง ย่อมทำให้คนเสื้อแดงไม่สบายใจ คนเสื้อแดงอยากได้ยินว่าคนเสื้อแดงทุกคนรักและสามัคคีกัน เพื่อสู้ศัตรูได้อย่างเป็นเอกภาพจนกว่าจะได้รับชัยชนะ ในช่วงสองสัปดาห์มานี้จะได้ยินคำพูดและคำเขียนประมาณนี้อยู่บ่อยครั้ง และรู้สึกเห็นใจคนเสื้อแดงที่พลีตนเพื่อการต่อสู้มาตลอดหลายปีนี้มาก
วันนี้จึงต้องนำเรื่องนี้มาพูดกันตรงๆ เพื่อเข้าใจให้ทะลุ และกำหนดใจให้ได้ว่าควรทำอย่างไรกันต่อไป
ถ้ามองกันตื้นๆ ไม่นำข้อมูลย้อนหลังมาวิเคราะห์ให้สมบูรณ์ บางท่านอาจจะนึกว่างานนี้คุณธิดา ถาวรเศรษฐ์ ในฐานะผู้มีอำนาจใน นปช. แดงทั้งแผ่นดิน กับคุณสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ประธานแดงสยาม เป็นคนสองคนที่ทะเลาะทุ่มเถียงกันอย่างไม่หยุดยั้ง และมีตัวละครอย่าง คุณจตุพร พรหมพันธุ์ เข้ามาร่วมแจมแบบผิวๆ หรือ คุณไจล์ส อึ๊งภากรณ์ ที่แสดงอาการเลือกข้างและร่วมการชกต่อยอย่างเมามัน
สรุปอย่างนี้ก็ไม่ผิดนัก แต่เป็นปลายทางและปลายเหตุอย่างยิ่ง
ต้นเหตุคือแนวคิดที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงระหว่างคนที่กำลังถกเถียงและวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ ไม่ใช่เรื่องสาดน้ำใส่กันว่าใครกล้าหาญกว่าใครสมัยที่ยังชูธงคอมมิวนิสต์อย่างที่หลายคนเข้าใจ หากยอมรับกันอย่างคนที่มองเห็นสัจจะในการต่อสู้แล้ว การทะเลาะกันครั้งนี้ก็มีเหตุผล
อันที่จริง ความรู้สึกแบ่งแยกได้เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนเหตุฆ่าประชาชน ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓ เมื่อมีคำแถลงอย่างเป็นทางการและเป็นสาธารณะของคณะ นปช. แดงทั้งแผ่นดิน ขับไล่ “ผู้นำมวลชน” สองคนออกจากขบวน คือพลตรีขัตติยะ สวัสดิผลและคุณสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หลังจากเกิดกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า แดงสยาม ขึ้นแล้ว ผลจากการกระทำนั้น ได้สร้างความร้าวรานใจอย่างยิ่งในหมู่มวลชนที่ตาสว่างขึ้นทุกวัน ความคิดมวลชนเริ่มก้าวหน้า แต่ใจยังยึดติดกับตัวแกนนำที่ร่วมต่อสู้กันมาจนเกิดลัทธิพรรคพวก ถึงขนาดรู้ว่าเดินผิดก็ยังยอมร่วมเดินด้วย ซึ่งน่ารักไปอีกแบบหากมองในมุมส่วนตัว ความรู้สึกในเรื่องนี้ของ นปช.ฯ ไม่เคยเปลี่ยน ก็การระดมมวลชนยังประสบความสำเร็จมืดฟ้ามัวดิน เรียกกี่ครั้งก็มายอมทนทุกข์ทรมานอยู่ด้วยทุกครั้ง แกนนำ นปช.ฯ จึงเกิดมั่นใจในอำนาจและไม่สนใจว่าใครจะคิดอย่างไรในขบวนประชาธิปไตยที่หลากหลายแตกต่างขึ้นทุกวัน จนแม้มวลชนนับร้อยถูกฆ่าอย่างทารุณกลางนครหลวง ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ชัดว่าเป็นฝีมือของระบอบ ทัศนะนั้นก็ยังไม่เปลี่ยน ยิ่งเมื่อหยิบคุณธิดาฯ ขึ้นมารักษาการประธานแล้ว ทัศนะนี้ดูจะกลายเป็นอุดมการณ์ใหม่ที่เอามาตอกย้ำซ้ำซากกันเสมอเลยด้วยซ้ำ
ถามแบบบ้านๆ ว่า ก็ได้ข่าวว่าแดงสยามโจมตี นปช.ฯ อย่างรุนแรงและต่อเนื่อง คนที่ถูกวิจารณ์เขาจะลุกขึ้นมามีอาการหรือตอบโต้บ้างไม่ได้หรืออย่างไรเล่า
คำตอบคือได้ดูให้ลึกลงไปหรือเปล่าว่าการโจมตีนั้นเกี่ยวกับเรื่องอะไร ส่วนตัวหรือส่วนรวม และเป็นประโยชน์ต่อขบวนประชาธิปไตยหรือไร้ประโยชน์
หัวใจของเรื่องอยู่ตรงที่ว่า แนวคิดเปลี่ยนแปลงโดยการปฏิรูป และนโยบายชุมนุมไปเรื่อยจนกว่าได้รับชัยชนะโดยอ้างว่าจะ “ยกระดับ” การต่อสู้ไปพลางนั้น ทางแดงสยามเขาไม่เชื่อ เขาเชื่อว่า มวลชนชาวไทยในวันนี้เขาพร้อมต่อแนวคิดปฏิวัติและไม่อยากชุมนุมไปเรื่อยๆ โดยไร้ความหมายและทิศทางสู่ชัยชนะอีกต่อไปแล้ว เขาจึงวิพากษ์วิจารณ์เอา
และขณะที่วิพากษ์อยู่นั้น เขาก็ร้องขอให้มวลชนปฏิวัติเข้าร่วมในทุกกิจกรรมของ นปช.ฯ และของกลุ่มประชาธิปไตยต่างๆ อย่างไม่ขาดตอน เพื่อมิให้พลังมวลชนคนเสื้อแดงต้องลดน้อยถอยลงไป
แล้วมันเสียหายตรงไหนต่อขบวน?
ส่วนข้อเขียนของคุณไจล์ส อึ๊งภากรณ์นั้น อ่านถ้อยคำเผ็ดร้อนเหล่านั้นแล้วเราก็เห็นเจตนาดี คุณไจล์สฯ คงจะห่วงว่ามวลชนจะเกิดความสับสนและอาจตัดสินใจไม่เดินทางมาร่วมการชุมนุมให้มันใหญ่โตเป็นประวัติศาสตร์ชาติไทยอีกต่อไป จนอาจทำให้ขบวนประชาธิปไตยพ่ายแพ้ต่ออำนาจอันมหาศาลของฝ่ายศักดินา-อำมาตย์ได้ คุณไจล์สฯ จึงบริภาษแดงสยามว่าชอบพูดเอามัน ขาดประสบการณ์ และมีพฤติกรรมเป็นเด็กไร้เดียงสา ความจริงคุณไจล์สฯ มองลึกลงไปอีกหน่อย ถามความเห็นของคนอื่นๆ มากกว่าของตัวเองอีกสักนิด แล้วจะพบเองว่า มวลชนปัจจุบันเก่งกว่าที่คุณไจล์สฯ เชื่อ มวลชนเขารู้ว่าใครเป็นใครในแกนนำและองค์กรนำ วันนี้เขายังยอมเดินตามก็เพราะเราอยู่ในขั้นตอนแบบ นปช.ฯ แต่วันหนึ่งเมื่อเงื่อนไขยกระดับขึ้น เขาก็จะเดินแนวปฏิวัติอย่างมั่นใจด้วยตัวเองโดยไม่ต้องมีใครชี้นำ ส่วนจะเป็นแดงสยามหรือไม่ขึ้นอยู่กับมวลชนในวันนั้น โดยไม่มีใครบอกได้ คุณไจล์สฯ ซึ่งเป็นคนธรรมดาที่ไม่ใช่เทพเจ้า ก็ย่อมจะไม่รู้เช่นกัน
สรุปแล้วการถกเถียงระหว่างคุณธิดาฯ กับคุณสุรชัยฯ นั้น เป็นเรื่องของแนวความคิดที่ลึกซึ้ง คนเสื้อแดงที่มีสติและไม่คลั่งระบบพรรคพวกจะได้รับประโยชน์มากจากการถกเถียงแบบนี้ ขอให้พิจารณาดูให้ดีเถิด
เพียงอย่าเผลอมองว่า การปฏิวัติคนละขั้นตอนคือความขัดแย้ง นั่นจะผิดจุดมากไปหน่อยครับ.