ที่มา มติชน
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 14 มิถุนายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์พิเศษทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ในรายการ "เจาะประเด็น" ว่า กองทัพจะสนับสนุนการเลือกตั้งอย่างเต็มที่ อยากให้ประเทศชาติผ่านพ้นห้วงเวลาที่ไม่สงบสุขไปได้ด้วยดี สื่อเป็นสิ่งสำคัญทำให้ประชาชนรับรู้ความเป็นไปของบ้านเมือง แต่ปัจจุบันสื่อมีผลกระทบมากต่อสังคมและประชาชน เพราะถูกชักจูงไปกับกลุ่มคนบางกลุ่ม จำพวกที่ไม่ปรารถนาดี ทำให้เกิดผลตอบสนองย้อนกลับมา ทำให้กองทัพมีปัญหากับประชาชน เช่น ฉก.ปส.315 ดังนั้นสื่อต้องช่วยประเทศชาติให้ผ่านพ้นเวลาวิกฤตนี้ให้ได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปัจจุบันเรามีสื่อที่ไม่อยู่ในระบบ ที่รับจากดาวเทียมออกอากาศทุกวันนี้ ทำให้เกิดความแตกแยกหรือเปล่า ตนไม่แน่ใจ ตนไม่ได้บอกอันไหนถูก อันไหนผิด แต่ถ้าต่างฝ่ายบอกไม่เกี่ยวข้องกัน ไม่เอื้อประโยชน์ให้ใคร ก็ไม่น่ามาออกอากาศ ที่ผ่านมาทำให้ประชาชนแบ่งเป็น 2 ฝ่ายมาโดยตลอด วันนี้ต้องไม่มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย
"อย่า กล่าวหาว่าผมเป็นทหารแล้วมาห้ามสื่อ มีอำนาจบาตรใหญ่ ขอบอกว่าทั้งหมดนี้เป็นความคิดส่วนตัวในฐานะเป็นประชาชน คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ควรออกมาดูแล ผมเคยได้รับโทรศัพท์จากต่างประเทศตำหนิผมในฐานะ ผบ.ทบ. ทำหน้าที่ปกป้องดินแดนไม่ได้ หรือทำร้ายประชาชน ผมพยายามอธิบาย แต่ท่านก็ไม่เข้าใจ โดยเขาบอกฟังจาก 2 สื่อดังกล่าว และเขาคิดว่าเป็นแบบนั้น เรื่องนี้อันตราย เพราะไม่ใช่แค่ในประเทศ รวมถึงต่างประเทศด้วย ดังนั้นสังคมต้องลงความเห็นว่าจะปล่อยให้มี 2 สื่อดังกล่าวหรือไม่ ผมรู้ว่าพูดวันนี้ ต้องมีใครมาโจมตีผมแน่ แต่ไม่เป็นไรผมยอมอยู่แล้ว" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ผบ.ทบ.กล่าว ว่า ฝ่ายความมั่นคงพบว่าขณะนี้มีการทำผิดกฎหมายเรื่องสถาบันมากขึ้น ต้องให้ความเป็นธรรมกับสถาบันด้วย พระองค์ท่านทรงทำทุกอย่างอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญมาโดยตลอดตั้งแต่ปี 2475 ในวิธีการตามปกติตามประชาธิปไตย แน่นอนมีกลุ่มคนอยู่กลุ่มหนึ่งต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง แต่ต้องเป็นวิธีการตามปกติ แต่วันนี้ไม่ปกติ ตนจึงจำเป็นต้องออกมาพูด หรือทหารต้องออกมาเคลื่อนไหวบ้าง ไม่ใช่ว่าทหารเป็นพวกที่ผูกขาดความจงรักภักดี แต่ในฐานะที่ทหารเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ต้องพิทักษ์ปกป้องการปกครองอันเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็น ประมุข สถาบันทรงมีคุณประโยชน์ต่อแผ่นดิน พระองค์ไม่เคยลงไปเกี่ยวข้องในเรื่องใดๆ ก็ตามที่ไม่ใช่พระราชกรณียกิจของท่าน
"ผมเสียใจตรงที่มีกลุ่มคน บางกลุ่มซึ่งไม่ปกติ กระทำผิดเรื่องนี้มีมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงเลือกตั้ง โดยคนกลุ่มหนึ่งที่เกี่ยวข้องกลุ่มคนที่อยู่ต่างประเทศ เช่น นายใจ อึ๊งภากรณ์ นายจักรภพ เพ็ญแข ผมพูดได้ ผมไม่กลัวที่จะพูด เพราะเขาทำผิดกฎหมายหลายฉบับ และพยายามทำให้สถาบันเสียหาย ซึ่งเกี่ยวพันยึดโยงคนอีกกลุ่ม ผมถือว่าเรายอมไม่ได้ ดังนั้นต้องออกมาช่วยกันดูแลพระองค์ท่าน เพราะพระองค์ท่านไม่เคยขอความเข้าใจจากใครได้ พระองค์ท่านไม่เคยมาตอบคำถามใครได้ แต่สิ่งที่กล่าวอ้างทั้งหมด ผมดูแล้วไม่เป็นธรรมและไม่สุภาพ สังคมต้องไปดูว่าเกิดจากที่ไหน อย่างไร เกี่ยวพันเรื่องใด ทำไมถึงมากขึ้นในตอนนี้ เว็บไซต์ เฟซบุ๊ก สื่อสิ่งพิมพ์โฆษณา ทั้งหมดระดมขึ้นมาช่วงเลือกตั้ง ผมถามว่าควรจะเกิดขึ้นหรือไม่ในช่วงนี้ แม้กระทั่งก่อนหน้านี้ก็ตาม เพราะสถาบันไม่เคยลงมาสั่งให้ใครทำโน้นทำนี่" ผบ.ทบ.กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนมาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา จะมีคนไปล้มเลิก ตนคิดว่าไม่ใช่เรื่อง ถ้าสถาบันอยู่ดีๆ และไม่ไปยุ่งกับสถาบัน ไม่ละเมิดว่ากล่าว ท่านจะถูกดำเนินคดีหรือไม่ พระองค์ท่านเคยรับสั่งมาแล้วว่าไม่ประสงค์ให้มีการดำเนินคดี แต่สิ่งที่ท่านทรงเมตตากับกลายเป็นว่าทำให้คนเหล่านี้ได้ใจหรือไม่ ทำอย่างไรก็ไม่โดน ทำให้ละเมิดมากขึ้นเรื่อยๆ พอคนดีไม่ยอม เจ้าหน้าที่ก็ถูกกดดันทำไมไม่ทำงาน พอเจ้าหน้าที่ทำงานก็ถูกต่อต้าน มาตรา 112 และกลไกต่างๆ ที่เกิดขึ้นเพราะใคร ฝากคำถามนี้ให้สังคมไปช่วยกันแก้
ผบ.ทบ.กล่าวทิ้งท้ายว่า อยาก ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งมากๆ อย่าให้คนเขาดูถูกว่าถูกชักจูงง่าย ชักจูงไปเลือกก็เลือก ไม่ดูว่าคนนั้นดีหรือไม่ดี มีคุณธรรมหรือไม่ อยากให้ดูกิริยานักการเมืองบางคนไม่เหมาะสม ท่านจะเลือกเขาไปทำไม เลือกคนดีๆ คนที่สุภาพเรียบร้อยตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมือง