WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, June 14, 2011

นปช.ตั้ง"กกต.แดง"คุมเลือกตั้ง "พระแดง"แจงเหตุร่วมชุมนุม ห่วงอำนาจนอกระบบแทรก แนะยึดเสียงส่วนใหญ่

ที่มา มติชน

เมื่อ วันที่ 13 มิถุนายน ที่ห้องประชุมตักสิลาคอนเวนชั่น โรงแรมตักสิลา อ.เมือง จ.มหาสารคาม กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำโดยนางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช.จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ตรวจสอบการเลือกตั้ง 2554 โดยมีแกนนำ นปช.และแนวร่วมคนเสื้อแดงที่จะลงพื้นที่ตรวจสอบการเลือกตั้ง จาก 9 จังหวัดภาคอีสานตอนล่าง ได้แก่ กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ ยโสธร อุบลราชธานี อำนาจเจริญ และมหาสารคาม เข้าร่วมประชุมกว่า 350 คน


นางธิดากล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ถือเป็นความต่อเนื่องจากการต่อสู้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้น ต้องเข้าไปมีส่วนร่วมดูแลตรวจสอบการเลือกตั้งทุกขั้นตอนให้เป็นไป อย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม ให้ประชาชนตัดสินใจได้อย่างอิสระว่า ต้องการให้ใครหรือพรรคการเมืองไหนเข้ามาบริหารประเทศ


"ภารกิจแรก ของแกนนำ นปช.และแนวร่วมคนเสื้อแดงของแต่ละจังหวัด คือการเข้าไปมีส่วนร่วมสังเกตการณ์และตรวจสอบการเลือกตั้งล่วงหน้า ในวันที่ 26 มิถุนายนนี้ โดยจะเน้นตรวจสอบเป็นพิเศษในเขตเลือกตั้งที่มีคนขึ้นทะเบียนเลือกตั้งล่วง หน้าจำนวนมาก หรือจังหวัดที่มีโรงงานอุตสาหกรรม สถานศึกษา มหาวิทยาลัย และหน่วยทหาร เพราะเกรงว่าจะมีการสวมสิทธิเลือกตั้ง นอกจากนี้ยังมีการตั้ง นปช.หน่วย นปช.เขต และ นปช.จังหวัด หรือเรียกว่า กกต.แดงคอยตรวจสอบ โดยการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 3 กรกฎาคม จะมีแนวร่วมคนเสื้อแดงอยู่ประจำทุกหน่วยเลือกตั้ง หากพบความผิดสังเกตหรือพบเห็นการทุจริต จะต้องรายงานต่อแกนนำระดับภูมิภาค และรายงานต่อมายังแกนนำ นปช.ส่วนกลางทันที" นางธิดากล่าว


ขณะ ที่นายสุรพศ ทวีศักดิ์ อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (มสด.) ศูนย์การศึกษาหัวหิน ได้ทำวิจัยเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองของคนเสื้อแดงปี 2553 มีพระสงฆ์จำนวนมากออกมาร่วมชุมนุม ขึ้นเวทีปราศรัย แสดงความเห็นทางการเมืองผ่านสื่อและเวทีเสวนาต่างๆ จึงได้สัมภาษณ์พระครูปลัดสุวัฒนจริยคุณ รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) ซึ่งเป็น 1 ใน 10 รูป ที่ถูก "แบล๊คลิสต์" โดยรัฐบาลอภิสิทธิ์ และพระครูสุวิธานพัฒนบัณฑิต รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ผู้มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการเข้าร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดงของพระสงฆ์ "กลุ่มสังฆสามัคคี"


พระคุณปลัดสุวัฒนจริยคุณให้ความเห็นเกี่ยว กับสถานการณ์การเมืองที่ ผ่านมาและขณะนี้ว่า มองภาพใหญ่ว่ามันเป็นปัญหาบ้านเมือง ซึ่งก็มีอยู่ทุกยุคทุกสมัย แต่ 4-5 ปีมานี้ปัญหาการเมืองทำให้เกิดปัญหาบ้านเมือง คือทำให้เห็นชัดว่าบ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่มีความเป็นธรรม เป็นเหตุผลว่าทำไมพระสงฆ์จึงต้องออกมาชุมนุมกับคนเสื้อแดง พระไม่ได้มาชุมนุมเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตัวบุคคลหรือพรรคการเมือง แต่มาชุมนุมเพื่อสนับสนุนข้อเรียกร้องให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย มีความเป็นธรรม


พระคุณปลัดสุวัฒนจริยคุณยังกล่าวถึงการเลือกตั้ง ครั้งนี้ว่า เป็นการเลือกตั้งในสถานการณ์ความขัดแย้งที่ชัดเจนมาก ประชาชนที่ออกมาเรียกร้องการเลือกตั้งเมื่อปี 2553 และถูกสลายการชุมนุม ตาย 91 บาดเจ็บร่วม 2,000 คน ตอนนี้เขาได้สิทธิเลือกตั้งแล้ว เขาก็คิดว่านี่คือก้าวสำคัญที่จะมีก้าวต่อๆ ไปในการแก้รัฐธรรมนูญ หรือวางระบบต่างๆ ทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยและเป็นธรรมมากขึ้น


"แต่ ว่าความเป็นประชาธิปไตยและความเป็นธรรมเฉพาะหน้าคือ ต้องให้พรรคการเมืองที่ได้เสียงมากอันดับหนึ่งจัดตั้งรัฐบาลก่อน ถ้ามีการเล่นแร่แปรธาตุ มีอำนาจนอกระบบเข้ามาแทรกแซงการจัดตั้งรัฐบาล อาตมาคิดว่าปัญหามันไม่จบ ถ้าพวกเขาไม่เคารพเสียงของประชาชนส่วนใหญ่" พระคุณปลัดสุวัฒนจริยคุณ กล่าว


เมื่อถามว่า ตามรัฐธรรมนูญก็เปิดให้พรรคที่มีเสียงรองลงไปแข่งขันตั้งรัฐบาลได้ ถ้าเสียงส่วนใหญ่ในสภาสนับสนุน ถือว่ามีความชอบธรรมที่จะเป็นรัฐบาลหรือไม่ พระคุณปลัดสุวัฒนจริยคุณกล่าวว่า ในเมื่อเป็นการเลือกตั้งในสภาพความขัดแย้ง ถ้าไม่เคารพเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนที่ลงคะแนน จะเกิดความปรองดองได้ไหม ถึงวันนี้สังคมน่าจะมีบทเรียนได้แล้วว่า การไม่เคารพเสียงประชาชนมันทำให้สังคมประเทศชาติเสียโอกาสการพัฒนาด้านต่างๆ ไปมากขนาดไหน บ้านเมืองเสียหายมากขนาดไหน ดังนั้นต้องยึดกติกาการตัดสินด้วยเสียงส่วนใหญ่ และเคารพเสียงส่วนน้อย บ้านเมืองจึงจะเดินต่อไปได้


ขณะที่พระครูสุวิธานพัฒนบัณฑิตให้ ความเห็นต่อคำถามที่ว่าการเลือก ตั้งครั้งนี้ อาจแค่แก้ปัญหาการเมือง ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาบ้านเมือง ว่า ขึ้นอยู่กับประชาชนว่าจะเลือกอย่างไร เลือกพรรคที่เชื่อว่าจะสามารถควบคุม ตรวจสอบ ให้แก้ปัญหาบ้านเมืองได้หรือไม่ แต่ปัญหาการเมืองกับปัญหาบ้านเมืองมันก็ปนๆ กันอยู่ ถ้าคำตอบของการแก้ปัญหาเป็นไปเพื่อความเป็นประชาธิปไตยและทำให้สังคมเป็น ธรรม ไม่มีสองมาตรฐาน ก็เท่ากับทำให้บ้านเมืองดีขึ้น


"การเลือก ตั้งเพียงอย่างเดียวมันอาจไม่ใช่การแก้ปัญหาทุกอย่างก็จริง แต่สังคมประชาธิปไตยมันปฏิเสธการเลือกตั้งไม่ได้ โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันการเลือกตั้งและการเคารพเสียงส่วนใหญ่ของ ประชาชนเท่านั้นที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของความปรองดองและการแก้ปัญหาบ้านเมือง ที่ยากๆ ต่อไป" พระครูสุวิธานพัฒนบัณฑิตกล่าว