ที่มา ประชาไท
6 พรรคการเมืองประชันนโยบายแก้ปัญหาภาคใต้ เห็นต่างรูปแบบเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วม/กระจายอำนาจ หมอแว เสนอ เอาทหารกลับกรมกอง แล้วให้ชาวบ้านดูแลกันเอง ประหยัดงบประมาณ หลังที่ผ่านมาพิสูจน์แล้ว ทหารอยู่ในพื้นที่ไม่ช่วยให้ปลอดภัยขึ้น
วัน ที่ 15 มิ.ย. 2554 ที่ห้องประชุมจุมภฏ-พันธุ์ทิพย์ ชั้น 4 อาคารประชาธิปก-รำไพรรณี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศูนย์มุสลิมศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ Siam Intelligence Unit ร่วมกับ มูลนิธิสันติชน และ ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ Deep South Watch ได้ร่วมกันจัดงานเสวนาวิชาการ หัวข้อ “รัฐบาลใหม่กับแนวทางแก้ปัญหาไฟใต้” โดย ตัวแทนจาก 6 พรรคการเมือง คือ นายถาวร เสนเนียม จากประชาธิปัตย์ น.พ.แวมาฮาดี แวดาโอะ จากพรรคแทนคุณแผ่นดิน นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ พรรคมาตุภูมิ พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ พรรคเพื่อไทย และนายมูฮำมัดซูลอัน ลามะทา จากพรรคชาติไทยพัฒนา
ประชาธิปัตย์: ตั้ง ศอ.บต. เปิดโอกาสประชาชนมีส่วนร่วม-ทยอยเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉินในพื้นที่ที่มีความพร้อม
นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และในฐานะผู้สมัคร ส.ส.เขต 6 จังหวัด สงขลา ตัวแทนจากพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคฯ เสนอให้จัดตั้งศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ เพราะปัญหาเกิดจากการมีส่วนร่วมของประชาชนที่อยากมีส่วนร่วมในการบริหาร จัดการ
ทั้งนี้ นายถาวร เสนอให้ทยอยเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่ที่มีความพร้อม ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลประชาธิปัตย์ได้ริเริ่มพื้นที่นำร่องไปบ้างแล้ว
นาย ถาวร กล่าวว่า การยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉินนั้น เป็นสิ่งที่ประชาธิปัตย์ต้องการดำเนินการ แต่ต้องค่อยเป็นค่อยไป โดยเริ่มทยอยจากพื้นที่ที่มีความพร้อม ประชาสังคมในพื้นที่มีความพร้อม และที่ผ่านมา ได้พิสูจน์แล้วในพื้นที่ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี ซึ่งยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปแล้ว และไม่มีเหตุความไม่สงบเกิดขึ้นประมาณเกือบ 1 ปีแล้ว
“ถ้า ผมรับผิดชอบ จะยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉินใน อ. กะบัง อ. เบตง จ. ยะลา, อ. แม่ลาน และอ. สุคีริน จ. ปัตตานี และตั้งแต่ยกเลิก พ.ร.ก. ที่ อ.แม่ลาน ก็ไม่มีเหตุระเบิดเกิดขึ้น”
นอกจากนี้นายถาวร ยังเสนออีกว่า ต้องถอนกำลังทหารตั้งแต่รองแม่ทัพลงมา โดยให้มีการจัดตั้งกองกำลังประจำถิ่น หรือ อาสาสมัครประจำถิ่น เพราะคนที่มาจากต่างถิ่น จะไม่รู้ประเพณีวัฒนธรรม
เรื่องกองกำลัง ทหาร หลายต่อหลายคนพยายามต่อต้านทหาร แต่ทหารก็มีส่วนรดีเยอะมาก แต่ทหารต้องมีเอกภาพในเชิงวินัยและยุทธวิธี ต้องมีเอกภพคือแม่ทัพสี่คนเดียวรับผิดชอบ”
ในเรื่องการเข้าถึงกระบวน การยุติธรรม นายถาวรแสดงความเห็นด้วยว่า กระบวนการยุติธรรมที่ล่าช้าก็คือการปฏิเสธความยุติธรรม ซึ่งต้องแก้ไข และเสนอแนวทางเปิดโอกาสให้ผู้หลงผิดหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์แม้แต่กรณีการวาง ระเบิดหรือเผาโรงเรียนต้องได้เข้าถึงการฝึกอบรม และเห็นว่าปัญหาความยุติธรรมในพื้นที่นั้น ส่วนหนึ่งมีปัญหาเพราะโยงอำนาจให้ฝ่ายตุลาการ ควรเปลี่ยนมาให้นักการเมืองแก้ไข
ส่วนการเจรจานั้น เป็นเรื่องที่ต้องทำ แต่เมื่อรัฐบาลทำไม่ต้องบอกทุกเรื่อง ไม่เช่นนั้นฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยก็จะออกมาต่อต้าน เขากล่าวในตอนท้ายของการเสวนาว่า “พรรคการเมืองที่จะตั้งรัฐบาลก็มีอยู่แค่ 2 พรรคเท่านั้น คือพรรคเพื่อไทย กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อสองพรรคเข้าไปมีอำนาจแล้ว ขอให้ทำตามที่พูดแล้วพี่น้องประชาชนจะเชื่อถือพวกเรานักการเมืองมากขึ้น”
มาตุภูมิ เสนอ ตั้งทบวง ดูแลสามจังหวัด รัฐมนตรีเป็นคนในพื้นที่ แก้ปัญหาอย่างเป็นองค์รวม
อารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ รอง หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ระบุว่าการกระจายอำนาจอาจไม่ใช่การแก้ปัญหา เพราะมีกรณีของการกระจายอำนาจในมินดาเนา ฟิลิปปินส์ ซึ่งกระจายอำนาจแล้ว ไม่สามารถแก้ปัญหาความรุนแรงได้ อย่างไรก็ตามที่สามจังหวัดชายแดนใต้ต้องมีการปกครองพิเศษ คือการปกครองทีแตกต่างจากที่อื่น
โดยเขากล่าวว่า การดำเนินการแก้ไฟใต้ต้อง อยู่บนฐานของความจริงใจ มีความเป็นไปได้ และประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด
นาย อารีเพ็ญกล่าวถึงกรณีที่มีการลงพื้นที่ปราศรัยของพรรคการเมืองเรื่อง การปกครองพิเศษเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่สมัยที่พรรคการเมืองนั้นรัฐบาลกลับปฏิเสธที่จะดำเนินการ ตอนที่มีอำนาจ คิดอย่างหนึ่ง แต่พอมีอำนาจทำอีกอย่างหนึ่ง เหมือนแนวทางประชานิยม
ทั้ง นี้ พรรคมาตุภูมิไม่มีความคิดเรื่องนี้ แต่ต้องแก้ที่ระบบ สิ่งที่พรรคมาตุภูมิ จะทำ คือ ต้องประกาศให้มีการพูดคุยกัน ซึ่งอาจจะไม่ใช่การเจรจา เพราะทหารไม่ยอม
“ประเด็นความยุติธรรมและ ความรุนแรงในพื้นที่ ไม่มีประเทศไหนที่จะแก้ปัญหาโดยไม่พูดคุย บานเราถือเรื่องศักดิ์ศรี ยังมีการพูดว่า ไม่อยากคุยกบโจร แบบนี้แก้ปัญหาไม่ได้”
เขากล่าวด้วยว่า เมื่อจะต้องเจรจาก็ต้องต้องเอาตัวจริงมาพูดคุย หมายถึงเอาคนที่เกี่ยวข้อง มีอำนาจตัดสินใจ และนำไปปฏิบัติได้จริง เพราะที่ผ่านมาเคยเกิดกรณีที่ฝ่ายรัฐอ้างว่าเจรจากับผู้นำในพื้นที่สาม จังหวัด แต่ข้อเท็จจริงคือไปชักชวนพ่อค้าขายปลามาพูดคุย ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับการตัดสินใจในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม ถ้าประกาศชักชวนให้มาพูดคุยกันแล้วแต่ไม่มีใครพูดคุยเลย พรรคมาตุภูมิจะทำตามความต้องการของประชาชนมีสี่เรื่อง คือ ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ความยุติธรรม คุณภาพชีวิตที่ดี และดำเนินชีวิตตามวิถีอิสลามและธำรงไว้ซึ่งอัตลักษณ์
แต่ปัจจัยที่จะ ทำให้สี่เรื่องใหญ่บรรลุ คือ นโยบาย คน และงบประมาณ ซึ่งรัฐบาลที่ผ่านมา มีการดำเนินการหลายประทรวง หายนโยบาย สั่งการไม่ได้ งบประมาณกระจัดกระจาย ไม่เป็นเอกภาพ ดังนั้นต้องทำให้เกิดความเป็นเอกภาพ ด้วยเหตุนี้ พรรคมาตุภูมิจึงเสนอให้ตั้งทบวงเพื่อดูแลภารกิจในสามจังหวัดกับสี่อำเภอ อย่างเป็นองค์รวม โดยรัฐมนตรีอาจจะต้องเป็นคนในพื้นที่ โดยเขาเชื่อว่าการนำเสนอให้แก้ปัญหาโดยตั้งทบวงขึ้นจัดการปัญหาภาคใต้เป็น การพบกันครึ่งทางระหว่างคนที่คิดแบบล้าหลังว่าการกระจายอำนาจจะทำให้เกิดการ แบ่งแยก
พรรคความหวังใหม่: กระจายอำนาจ เลือกผู้ว่าฯ มหานครปัตตานี
ศ.พล.โท. ดร. สมชาย วิรุฬผล จากพรรคความหวังใหม่ กล่าวว่าควรเริ่มจากดำเนินแนวทางแก้ปัญหาอย่างสันติวิธีจะทำอย่างไร เพราะถ้าไม่สามารถสร้างความสงบสันติสุขให้เกิดขึ้นได้ ปัญหาอื่นๆ ก็แก้ไม่ได้
ตัวแทนพรรคความหวังใหม่กล่าวถึงการการกระจายอำนาจว่า จริงๆ แล้วรูปแบบของการปกครองระบบประชาธิปไตยนั้น ประกอบด้วยส่วนกลางและส่วนท้องถิ่นเป็นหลัก ส่วนอื่นๆ เป็นแค่รูปแบการถ่ายโอนอำนาจมาเท่านั้น การกระจายอำนาจจริงๆ คือส่วนกลางต้องลดบทบาทของตัวเองให้น้อยที่สุด เหลือแค่บทบาทหลัก คือ ทหาร คลัง และต่างประเทศ
"มีการสำรวจและยืนยันได้ โดยมูลนิธิเอเชีย พบว่าเจ็ดสิบกว่าเปอร์เซ็นต์ของประชาชนไทยอยากให้มีการเลือกตั้งผู้ว่า ราชการจังหวัด เพราะไม่ว่าจะเป็นรูปแบบกระทรวง ทบวง อะไรก็ตาม ก็เป็นการทำงานจากส่วนกลางทั้งนั้น เพราฉะนั้นไม่ใช่แค่ตั้งทบวงแล้วลอยไว้ การกระจายอำนาจต้องให้ท้องถิ่นนั้นมีอำนาจในการจัดการปัญหาของตนเอง ซึ่งไม่ใช่แค่ภาคใต้ แต่รวมถึงภาคอื่นๆ เช่น จ. เชียงใหม่ ประชาชนก็อยากได้มหานครเชียงใหม่ การที่พล.เอกชวลิต ยงใจยุทธ เคยเสนอเรื่องมหานครปัตตานีนั้น เป็นข้อเสนอที่สะท้อนมาจากความต้องการของประชาชน คือการกระจายอำนาจ"
“การ สร้างมหานครปัตตานี ไม่ใช่นครรัฐ เป็นการสร้างรูปแบบการปกครองคล้ายกรุงเทพฯ ซึ่งภาคอื่นๆ ก็นำไปใช้ได้ คนกรุงเทพฯ เลือกผู้ว่าฯ ได้ ทำไมคนที่อื่นเลือกไม่ได้ ถ้าไม่ได้ ก็แปลว่าสิทธิไม่เท่าเทียมกัน”
อย่างไรก็ตามเขากล่าวด้วยว่าปัญหาภาค ใต้ไม่ใช่แค่เรื่องกระจายอำนาจแต่ เพียงอย่างเดียว แต่มีปัญหาสะสม ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ ชาติพันธุ์ ศาสนา ปัญหายาเสพติด และเสพติดงบประมาณ ถ้ายังดำเนินการกันแบบเดิมต่อไปเรื่อยๆ ความรุนแรงจะมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะดำเนินนโยบายผิดพลาดมาโดยตลอด และสิงที่้ต้องทำก่อนการกระจายอำนาจก็คือการสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นใน พื้นที่
“ต้องยุติความขัดแย้งให้ได้ และสร้างความสงบสันติให้ได้ และต้องมีการเจรจาถ้าไม่เจรจามันก็ไม่มีทางแก้ปัญหา เลิกดถูถูกประชาชนเสียที เรามีประชาธิปไตยมาแปดสิบกว่าปีแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ส่วนกลางมากำกับดูแล เวลานี้ในประเทศที่เป็นประชาธิปไตย มีแค่สองประเทศคือไทยกับฝรั่งเศสเท่านั้นที่ยังแบ่งการปกครองเป็นส่วนกลาง กับภูมิภาค แต่ฝรั่งเศสยกเลิกอำนาจส่วนกลางในการกำกับดูแลพื้นที่แล้ว”
พรรคเพื่อไทย: เสนอเขตปกครองพิเศษเหมือนกรุงเทพฯ
พล.ต.ท. ฉลอง สมใจ ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า มีคณะทำงานที่มีทหารตำรวจและประชาชนในสามจังหวัดภาคใต้ ติดตามสถานการณ์ในสามจังหวัดชายแดนใต้อยู่ตลอด แนวทางแก้ไขคือ การน้อมนำเอาพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเอยู่หัวมาใช้ในการดำเนินงาน คือ เข้าถึง เขาใจ พัฒนา และจากการทำงานในพื้นที่พบว่าสิ่งที่ประชาชนในสามจังหวัดต้องการ คือ หนึ่ง ต้องการอยู่ภายนใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร ไม่แบ่งแยกดินแดน แก้ปัญหาโดยสันติวิธี
สอง ขอสิทธิดูแลตัวเองภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ
สาม รักษาไว้ซึ่งอัตลักษณ์ ภาษา วัฒนธรรม
พรรค เพื่อไทยจึงกำหนดนโยบายการกระจายอำนาจสี่ท้องถิ่น ในลักษณะคล้ายกรุงเทพฯ เป็นเขตปกครองพิเศษ ซึ่งในทางปฏิบัติแล้วแต่ว่าประชาชนในสามจังหวัดต้องการอย่างไร เพราะประชาชนในนะลาก็ไม่อยากมารวมเป็นมหานครปัตตานี อยากจะแยกไปเป็นนครยะลา ประชาชนใน จ. นราธิวาส ก็อาจจะต้องการให้มีการปกครองนครนราธิวาส อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยก็ได้เตรียมร่างกฎหมายไว้รองรับแล้ว
แต่ แม้ว่าจะมีการนำเสนอแนวทางการดูแลสามจังหวัดชายแดนใต้ แต่ถ้ายังมีสถานการณ์เกิดขึ้นรายวัน ซึ่งขณะนี้เจ็บและตายไปแล้วกว่าหมื่นคน โดยยังไม่สามารถแก้ปัญหานี้ จะกระจายอำนาจอย่างไรก็ทำไม่ได้ เพราะยังยิงกันอยู่รบกันอยู่
ส่วนการแก้ปัญหารายวัน พรรคเพื่อไทยมีวิธีและได้ทดลองทำมาแล้ว คือ มีพื้นที่สันติสุขนำร่องให้เกิดสันติสุข คือ อ. กะพ้อ อ. รามัญ และ อ. รือเสาะ ซึ่งขณะนี้ครบ 1 เดือนแล้ว ไม่มีเหตุการณ์ความไม่สงบ ทำให้เห็นว่าเป็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ซึ่งการจัดสัมมนาองค์กรสันติสุขจังหวัดชายแดนใต้ ทำให้ทางพรรคคิดจะใช้โมเดลนี้ในการแก้ปัญหา ทั้งนี้การพูดคุยกับกลุ่มองค์กรร้อยกว่าองค์กรในพื้นที่สามจังหวัดนั้น ต้องพูดคุยกันอย่างจริงจัง ไม่ใช่หน้าเลือกตั้งทีก็ลงพื้นที่คุยทีหนึ่ง
พรรคแทนคุณแผ่นดิน: เลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เลิกนโยบายนิคมอุตสาหกรรม
น.พ. แวมาฮาดี แวดาโอ๊ะ หรือหมอแว จากพรรคแทนคุณแผ่นดิน กล่าวว่าสิ่งที่น่าหนักใจคือเริ่มมีการพูดคุยกับพรรคเล็กเพื่อให้เข้าร่วม รัฐบาล แต่หนักใจว่าจะร่วมรัฐบาลกับใครดี เพราะทั้งสองพรรคต่างล้มเหวในการแก้ปัญหาภาคใต้ โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย หมดสิทธิที่จะแก้ปัญหาภาคใต้ เพราะสีแดงของพรรคเพื่อไทย คือคราบเลือดจากตากใบ
น.พ.แวมาฮาดี กล่าวว่า รัฐบาลต้องให้ของขวัญกับคนสามจังหวัดโดยยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยทหารที่เหลืออยู่ในพื้นที่ต้องกลับเข้าไปอยู่ในกรมกอง และเสนอยกนโยบายเลิกนิคมอุตสาหกรรมแห่งความมั่นคง ที่อ้างความมั่นคงเพื่อผลประโยชน์ ทั้งที่เป็นผลประโยชน์ของทหาร ตำรวจ ไม่ใช่ผลประโยชน์ของคนในพื้นที่
นอกจากนี้ยังเสนอหลักพึ่งตนเอง โดยมุสลิมมีหลักคำสอนที่ว่า พระเจ้าไม่ทรงเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ใดของชุมชนใดเว้นแต่เขาต้องเปลี่ยนแปลงตน เอง ดังนั้น ประชาชนต้องมีอำนาจในการจัดการพื้นที่ ไม่มีเหตุผลใดที่จะคงไว้ซึ่งการปกครองส่วนภูมิภาค
น.พ.แวมาฮาดี วิจารณ์ว่า แนวทางจัดตั้ง ศอ.บต. ยังไม่เข้าหลักเกณฑ์การพึ่งตนเอง
“เราไม่อาจะเห็นด้วยกับทบวง และไม่เห็นด้วยกับปชป. เรื่องศอ.บต. เพราะเป็นตัวแทนของราชการส่วนกลาง”
ทั้ง นี้ เขาเสนอในช่วงท้ายของการเสวนาว่า การยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน อาจจะไม่ได้รับประกันความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงประชาชนในพื้นที่ แต่ถ้ามองมุมกลับกัน การมีพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และมีทหารอยู่เต็มพื้นที่ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่ปลอดภัยและล้มเหลวเช่นกัน รวมถึงใช้งบประมาณเป็นจำนวนหลายหมื่นล้านบาท เขาเสนอให้ชาวบ้านดูแลกันเอง โดยผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้รับผิดชอบหลัก พร้อมกับมีอาสาสมัครประมาณ 30 คนต่อหนึ่งหมู่บ้าน โดยคาดว่าโมเดลนี้ จะใช้งบประมาณเพียง 6,000 ล้านบาท เท่านั้น
เขากล่าวย้ำว่า ถ้าหากแนวทางที่เขาเสนอไม่ประสบความสำเร็จ ก็เพียงแต่เสมอตัวเมื่อเทียบกับความล้มเหลวของการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินและมีทหารอยู่ในพื้นที่มายาวนานกว่า 6-7 ปี
ชาติไทยพัฒนา: คนไทยต้องยอมรับประวัติศาสตร์
นายมูฮำมัด ซูลฮัน ลามะทา ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ระบุว่า นโยบายของพรรคจะรวม 3 จังหวัดชายแดนใต้ และ จังหวัดสงขลาบางพื้นที่ และ อยากเพิ่มอำนาจในการวางนโยบายและวางงบประมาณแบบเบ็ดเสร็จ ซึ่งบางโครงการที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และ จะผลักดันภารกิจกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นให้สมบูรณ์อย่างเร็ว และ มากที่สุด นายมูฮำมัดซูลฮัน กล่าวทิ้งท้ายว่า คนไทยทุกคนต้องยอมรับในเรื่องประวัติศาสตร์ให้ได้
เนื้อหาบางส่วนจากเว็บไซต์ Thai PBS