ที่มา ข่าวสด
คอลัมน์ เหล็กใน
สมิงสามผลัด
ในสถานการณ์ที่กระแสความนิยมตกเป็นรองพรรค เพื่อไทย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จึงทำทุกวิธีทางเพื่อกระตุ้นคะแนนเสียง
ล่าสุดเผยแพร่บทความผ่านเฟซบุ๊กจากใจอภิสิทธิ์ถึงคนไทยทั้งประเทศ ตอนที่ 3
เนื้อหาก็ชี้แจงเหตุการณ์กระชับพื้นที่ม็อบเสื้อแดงเดือนเม.ย.-พ.ค.53
พยายามบอกว่า "มีคนวางแผนเป็นขั้นตอนที่จะยัดเยียดให้ผมเป็นฆาตกรสั่งฆ่าประชาชน"
โดยสรุปว่าเหตุการณ์ที่สี่แยกคอกวัวเมื่อวันที่ 10 เม.ย.53 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นคดี 91 ศพ
เป็นฝีมือของกองกำลัง "ชุดดำ"
บันทึกของนายอภิสิทธิ์ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่
เพราะยังคงโยนความผิดให้คนชุดดำ
ไม่พูดถึงสไนเปอร์บนตึกสูงที่ลั่นกระสุนสังหารประชาชน 91 ศพบาดเจ็บอีกกว่า 2 พันคน
ที่สำคัญนายอภิสิทธิ์ไม่เคยขอโทษ
ไม่เคยสำนึกว่าหากวันนั้นไม่มีคำสั่งเคลื่อนรถถังและอาวุธหนักเข้าไปประจันหน้ากับฝูงชนจะไม่เกิดความสูญเสียขึ้นเลย
ความจริงนายอภิสิทธิ์อาจคิดว่าการเขียนบันทึกในเฟซบุ๊ก
จะกระตุ้นคนในสังคมออนไลน์ออกมาเทคะแนนเสียงให้พรรคประชาธิปัตย์
แต่ลืมไปว่ามันเหมือนเป็นดาบ 2 คม
เพราะเหตุผลที่นายอภิสิทธิ์กล่าวอ้าง คงสร้างความชอบอกชอบใจให้บรรดากองเชียร์เท่านั้น
แต่ลืมไปว่ายังมีประชาชนอีกจำนวนไม่น้อย (ไม่ใช่เฉพาะคนเสื้อแดง)
ยังรู้สึกได้ว่าปัญหาทั้งหมดรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ต้องมีส่วนรับผิดชอบ
หากย้อนกลับไปดูบันทึกจากใจอภิสิทธิ์ถึงคนไทยทั้งประเทศ ตอนที่ 1-2 ก็มีเนื้อหาคล้ายๆ กัน
นายอภิสิทธิ์เขียนทำนองว่าพายเรือให้โจรนั่งบ้าง เลือกพรรคร่วมเข้ามาเป็นเพราะไม่มีตัวเลือกบ้าง
พยายยามอธิบายว่าจำใจต้องทำ เพราะต้องการให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า
พูดแบบชาวบ้านก็คือ เอาดีใส่ตัว
จนถูก นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาแฉหมดเปลือก
ระบุในการตั้งรัฐบาลครั้งที่แล้วโดน "พลังที่เลี่ยงไม่ได้" บีบให้ร่วมรัฐบาล
เฉลยเงื่อนงำการตั้งรัฐบาลครั้งที่แล้วให้คนทั้งบ้านทั้งเมืองได้รับรู้
การันตีว่ามี "อำนาจพิเศษ" หรือ "มือที่มองไม่เห็น" อยู่เบื้องหลังจริงๆ
บันทึกในเฟซบุ๊กที่นายอภิสิทธิ์หวังจะใช้เป็นเครื่องมือหาคะแนน
กลายเป็นหอกย้อนกลับทิ่มแทงตัวเองในที่สุด