ที่มา thaifreenews
โดย Bugbunny
ผมเห็นด้วยกับหนังสือพิมพ์ข่าวสดที่พาดหัวทำนองว่า “ยิ่งลักษณ์จัดหนัก ประกาศจัดเขตปกครองพิเศษในสามจังหวัดภาคใต้” ถือว่านี่เป็นการจัดหนักของจริงและน่าจะเป็นก้าวสำคัญในการปกครองระบอบประชาธิปไตย
เพราะ ตลอดเวลาที่ผ่านมาร้อยกว่าปีเราติดอยู่กับระบบบริหารราชการแผ่นดินแบบรวบ อำนาจที่พัฒนามาตั้งแต่ยุครัชกาลที่ ๕ โดยกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เน้นว่าเป็นราชอาณาจักรอันเดียวกันและแบ่งแยกมิได้ เมื่อมีการเรียกร้องให้กระจายอำนาจก็อ้างว่าจะกระจายแล้วด้วยการมี อบจ. แต่ผู้ว่า ฯ ยังคงคุมอำนาจอื่น ๆ ในด้านการปกครองไว้ทั้งหมด ในขณะที่ความเป็นจริงแล้ว ก่อนหน้านั้น หัวเมืองต่าง ๆ ก็มีอิสระในการปกครองตนเองมาตลอด
การ ตั้งผู้ว่า ฯ ไปคุมทั่วนั้นเป็นวิถีทางของระบอบอมาตยาธิปไตยที่ชัดเจนที่สุด ผู้ว่าไม่ได้สนใจประชาชนในจังหวัดเพราะอยู่กันจังหวัดละไม่นาน มุ่งแต่หาโอกาสในการจะได้ย้ายไปอยู่จังหวัดที่มีผลประโยชน์มาก ผู้ว่า ฯ เองก็ใช้อิทธิพลหาผลประโยชน์กันหลายวิธี ที่เห็นชัด ๆ ก็คือที่ดินดี ๆ ในจังหวัดใหญ่ ๆ เจ้าของคือผู้ว่า ฯ เพราะระบบที่ให้ผู้ว่า ฯ เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดด้านพลเรือนในจังหวัด
ระยะหลังนี้ขยายอำนาจ ให้ท้องถิ่นมากขึ้น ก็มีคำพูดทำนองกล่าวหา อบต.เพื่อพยายามให้ระบบท้องถิ่นน่ารังเกียจ แต่ไม่พยายามพูดในสิ่งที่ดีของระบบ อบต. ที่เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนมากมาย เช่น เมื่อก่อนกว่าจะมีถนนลาดยางหรือน้ำประปาเข้าหมู่บ้านก็ต้องรอเป็นชาติ แต่เดี๋ยวนี้ระบบ อบต.ทำให้ทุกอย่างรวดเร็วเป็นจริงได้ทันตาเห็น เพราะเจ้าของพื้นที่เขารู้ดีว่าต้องการอะไรเนื่องจากเห็นปัญหาตำตาอยู่ทุก วัน
การบ ริหาร กทม.และพัทยา ในฐานะเขตปกครองพิเศษก็ยิ่งเห็นชัดเจนถึงคุณภาพที่เหนือกว่าระบอบดั้งเดิม ที่เป็นวิถีทางแบบอมาตยาธิปไตยเต็มรูปแบบ
ผมสนับ สนุนอย่างยิ่งในการให้ตั้งเขตปกครองพิเศษในสามจังหวัดภาคใต้ อยากบอกว่าในทางอุดมการณ์นั้นพื้นที่เหล่านั้นภาคภูมิใจกับมาตุภูมิของเขา มาก เพราะเคยเป็นรัฐเอกราชที่เจริญมาก่อน แต่เป็นรัฐที่มีศาสนาต่างจากส่วนอื่นของประเทศ การเป็นเขตปกครองพิเศษของพวกเขาคือการทำให้อุดมการณ์เอกราชลดความเข้มข้นลง เพราะแม้เขาจะอยู่ในประเทศหนึ่งแต่เขาก็ปกครองตนเองได้
หลาย ท่านบอกว่าถ้าอย่างนั้นอีกหน่อยนครศรีธรรมราช เชียงใหม่ อีสาน ฯลฯก็จะขอตั้งเป็นเขตปกครองตนเองบ้างละสิ ผมขอเรียนว่าก็ไม่เห็นจะแปลกอะไร
เชียงใหม่เคยขอให้ออกกฎหมาย “เชียงใหม่มหานคร” มา แล้ว แต่รัฐบาลนี้ก็ยังส่งผู้ว่าประเภทปลายอ้อปลายแขมของกรมดำรงไปปกครอง และยิ่งทำให้ประชาชนเขาไม่พอใจมากขึ้นอีก เขตปกครองที่ประชาชนในท้องที่มีอิสระในการดูแลพื้นที่ของตัวเองเท่านั้น ที่จะทำให้เอกภาพของประเทศไทยเข้มแข็งขึ้น นี่ไม่ใช่สมัยที่จะส่งกำลังทหารไปปราบกบฏหัวเมืองแบบที่ชนชั้นสูงของไทยยัง คิดกันอยู่อีกแล้วนะครับ
ลืมตารับความจริงกันบ้าง มันพ้นยุคต่อต้่านการล่าเมืองขึ้นที่ไทยต้องเป็นรัฐเดี่ยวห้ามมีิอิสระในการปกครองท้องถิ่่นของตนเองกันแล้ว
ปัญหา ประเทศไทยวันนี้ต้องแก้ด้วยระบอบการปกครองที่คิดถึงประโยชน์สุขของประชาชน ส่วนใหญ่ ไม่ใช่ชนชั้นสูงและอำมาตย์ไม่กี่คนเท่านั้นแบบที่ผ่านมาเป็นร้อยปี
Re:
โดย ลูกชาวนาไทย
เรื่อง การปกครองนี้ทั่วโลกมันก็มีแค่สองแบบคือ รวบอำนาจไว้ที่ส่วนกลาง กับ กระจายอำนาจให้ท้องถิ่นต่างๆ ปกครองกันเอง ซึ่งแต่ละแบบมันก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน สมัยที่กำลังรวบรัฐชาติใหม่ ๆ อาจมีความจำเป็นที่ต้องให้ส่วนกลางส่งคนไปปกครอง เพื่อความเป็นเอกภาพ อาณาจักรเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ยุคที่รวมชาติ เป้าประสงค์ของการปกครองก็ควรเป็นแบบนั้น
แต่เมื่อชาติมีความมั่นคง แล้ว การรวบอำนาจปกครองไว้ที่ส่วนกลาง จะทำให้การปกครองขาดประสิทธิภาพไปอย่างสิ้นเชิง เพราะไม่สามารถที่จะตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของประชาชนได้ การรวบอำนาจนำไปสู่การคอรัปชั่นและระบบอำมาตย์ต่างๆ ที่ไม่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชนในท้องถิ่นต่างๆ ที่ตัวเองปกครอง และไม่จำเป็นต้องบริการประชาชนให้ดีพอ เพราะอนาคตของตัวเองไม่ได้ขึ้นกับประชาชน
นอกจากนี้ในศตวรรษที่ 21 ในภาวะทีโลกกำลังรวมกันเป็นหนึ่งเดียวในทางมหภาค ความต้องการที่จะรักษา “อัตลักษณ์” ของคนในแต่ละท้องถิ่นต่างๆ ก็มีมากขึ้น ดังนั้นหลายๆ ประเทศแก้ไขปัญหาเหล่านี้โดยการยอมให้มี “เขตปกครองตนเองอิสระ หรือ Autonomous Area ซึ่งอาจแปลเป็นไทยให้ได้ใจความว่า “แคว้น” ก็ได้ เพราะในสมัยโบราณแคว้นต่างๆ ที่รวมกันเป็นอาณาจักร ก็มีอิสระภายในของตนในระดับหนึ่งเช่นกัน
ผมเห็นด้วยกับการให้ 3 จังหวัดภาคใต้เป็น” เขตปกครองพิเศษ” เรื่องภายในท้องถิ่นเขาก็ให้เขาว่ากันเอง ไม่ต้องไปกลัวว่าเขาจะแยกเป็นเอกราช เพราะแนวโน้มของโลกในระดับ “ภูมิภาค” นั้นจะรวมตัวกันเป็น “สหภาพ” ทางการค้า การเมือง เช่น สหภาพยุโรปเป็นต้น ดังนั้นในอนาคตนั้นในแง่ “ท้องถิ่นเขาก็อยากมีอิสระ” แต่ในระดับมหาภาคเขาก็มีแนวโน้มที่จะรวมกลุ่มกันเพื่อสร้าอำนาจต่อรองทาง เศรษฐกิจและการเมือง
สรุปแล้วแนวคิดเรื่อง “เขตปกครองพิเศษ” จะเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาความแตกต่างกันทางวัฒนธรรมได้อย่างดี