ที่มา ประชาไท
Wed, 2012-08-22 21:17
21 ส.ค.55 ที่ศาลอาญา รัชดา นายสนธิ ลิ้มทองกุล
จำเลยในคดีความผิดตามมาตรา 112 คดีหมายเลขดำที่ อ.2066/2553
โดยนายสนธิได้ขึ้นเบิกความเป็นพยานตนเอง สวนการสืบพยานในวันที่ 22
ส.ค.ทนายจำเลยได้ขอเลื่อน
แต่ศาลไม่อนุญาตจึงขอยกเลิกเนื่องจากเป็นนัดฟังเรื่องถอนประกันแกนนำเสื้อ
แดง มีมวลชนมาเป็นจำนวนมากเกรงว่าจะมีเหตุปะทะกัน
ส่วนการสืบพยานจำเลยนัดหน้าจะมีขึ้นในวันที่ 28-29 ส.ค.นี้ โดยมีพยานได้แก่
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, นายปานเทพ พัวพงศ์พันธุ์ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
นายสนธิ เบิกความว่า
ได้นำคำพูดของดารณีมากล่าวบนเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อ
ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 20 ก.ค.51
โดยหยิบยกคำปราศรัยของดารณีที่มีการพาดพิงสถาบันในวันที่ 18-19 ก.ค.51
มาบอกกล่าวกับประชาชน
นอกจากนี้ยังมีการปราศรัยของดารณีที่เข้าข่ายเดียวกันในช่วงเดือนมกราคมและ
เดือนมิถุนายนปีเดียวกันด้วย
แต่ตำรวจกลับส่งฟ้องเฉพาะกรณีเดือนมกราคมและมิถุนายน
โดยศาลพิพากษาจำคุกดารณีไปแล้ว แต่ตำรวจไม่ได้ส่งฟ้องกรณีเดือนกรกฎาคม
เพราะหากศาลพิพากษาว่าดารณีมีความผิดจริง
แม้การกล่าวของดารณีไม่ได้ระบุชื่อ ก็ย่อมเป็นประโยชน์ต่อคดีของตน
ตำรวจที่รับผิดชอบจึงไม่ดำเนินการ
นายสนธิ อธิบายว่า ไม่ได้จะกล่าวหาว่าตำรวจกลั่นแกล้ง
แต่สิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นเป็นเช่นนั้น
เนื่องจากตำรวจที่ดำเนินการทั้งเจ้าของสำนวนคดีนี้ และพล.ต.ต.อำนวย
นิ่มมะโน ผู้บังคับบัญชาขณะนั้น
เป็นเจ้าหน้าที่ที่มีความขัดแย้งกับตัวเขาเองโดยตรง
เนื่องจากเป็นผู้ดำเนินคดีข้อหากบฏกับแกนนำพันธมิตรทั้ง 9 คน
และเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องระบุว่าการตั้งข้อหาไม่ถูกต้อง
แกนนำพันธมิตรฯ จึงฟ้องกลับกับ ป.ป.ช.
นอกจากนี้คนที่เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษในคดีนี้ก็ยังเป็นคนสนิทของนายเนวิน
ชิดชอบอีกด้วย
อัยการถามว่าข้อความที่ดารณีปราศรัยนั้นไม่มีการระบุชื่อ
แต่ข้อความที่จำเลยนำมาพูดนั้นมีความแตกต่างกันใช่หรือไม่ นายสนธิตอบว่า
หากดูตามตัวอักษรก็ใช่ แต่ดารณีหมายความตามที่ตนได้ปราศรัย
ส่วนเหตุที่ไม่ได้นำซีดีหลักฐานไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ทันทีแต่กลับนำ
ไปปราศรัยบนเวทีซึ่งมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมด้วยนั้น
นายสนธิให้เหตุผลว่า เป็นเพราะไม่เชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่จะดำเนินการ
จึงต้องการกดดัน
กระทั่งวันรุ่งขึ้นกองทัพบกได้ส่งตัวแทนไปแจ้งความดำเนินคดีเอง
ทางกลุ่มพันธมิตรฯ จึงดำเนินการเพียงส่งแผ่นซีดีเป็นหลักฐานประกอบ
สนธิยังย้ำด้วยว่าเจตนาของเขากับของดารณีนั้นแตกต่างกัน
สังคมเป็นที่รับรู้ทั่วไปว่าฝั่งเสื้อแดงนั้นต้องการล้มล้างสถาบัน
ส่วนเขานั้นต้องการปกป้องสถาบัน
ดังที่ปรากฏหลักฐานเกี่ยวกับความจงรักภักดีมากมาย
ไม่ว่าการจัดเวทีที่หอประชุมใหญ่พูดเรื่องการถวายคืนพระราชอำนาจ
การจัดพิมพ์หนังสือพระราชอำนาจ และยังเคยกล่าวอาศิรวาท หนังสือพระราชอำนาจ
พระองค์รับสั่งมาว่าพระองค์ทรงชอบมาก นอกจากนี้ยังมีการลงนามถวายพระพรที่
ร.พ.ศิริราช มีการตั้งคัตเอาท์ขนาดใหญ่ในที่ชุมนุมในวาระเฉลิมพระชนมพรรษา
สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ
รวมไปถึงการเสด็จไปเป็นประธานงานพระราชทานเพลิงศพของน้องโบว์ อังคณา
ระดับปัญญาวุฒิ ผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ที่เสียชีวิตจากการสายการชุมนุม 7
ต.ค.51 และพระองค์ยังรับสั่งกับพ่อของน้องโบว์ว่า น้องโบว์เป็นเด็กดี
รักชาติบ้านเมือง รักสถาบัน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า
เจ้าหน้าที่ได้ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องกับคดีทุกคนลงชื่อ
และเลขบัตรประจำตัวประชาชนด้วย เนื่องจากเป็นระเบียบใหม่ของศาลอาญา
โดยที่หน้าประตูห้องพิจารณาคดีเกือบทุกคนมีป้ายประกาศเขียนขอความร่วมมือดัง
กล่าวไว้ ลงชื่อโดยเลขานุการศาลอาญา และให้เริ่มต้ังแต่ 1 ส.ค.55 เป็นต้นไป